Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Chest Injury (กลไกการบาดเจ็บ (ภาวะอุดกั้นทางเดินหายใจ (Air way obstruction…

- - - - -ปวดบริเวณกลางหน้าอก
      - -รอยแตกหักชนิด Linear Transverse Fracture
      - -หายใจตื้น
      - -หายใจเหนื่อย กดเจ็บหน้าอก
      - -เวลาคลาได้ยินเสียงกรอบแกรบ
    - - รักษาด้วยการ reduction โดยให้ผู้ป่วย นอนราบกับเตียงยกศีรษะ และยกขาพร้อมกันและแพทย์ทาการกดกลาง หน้าอกลง (ALBEIT Method) แต่ในผู้ป่วยที่มีความจาเป็นต้องใช้ไม้เท้า ค้ายัน หรือมีรอยแยกที่ห่างควรต้องทาการ open reduction และทาการ fixation ด้วยลวดหรือ plate เพื่อลดปัญหาอาการปวดเรื้อรัง
  - - - -มีอาการปวดมาก
      - -มีการบาดเจ็บ 1ตาแหน่ง
      - -หายใจตื้น
      - -ปอดแฟบ
      - -อาจจะเกิด Heart Failure
    - - ผู้ป่วยไม่มีบาดเจ็บอื่นร่วมรักษาโดยระงับความเจ็บปวดให้พอเพียงปกติ ความเจ็บปวดมากสุดในสัปดาห์แรกหลังจากนั้นจะค่อย ๆ ลดลงควรแนะนาให้ผู้ป่วยบริหารการหายใจไปพร้อมกันกระดูกซี่โครงที่หักจะหายเองประมาณ 3 สัปดาห์การระงับความเจ็บปวดโดยให้ยากินหรือฉีดระงับปวดสกัดกันเส้นประสาทซีโครง ฉีดยาระงับปวดเข้าช่องอีพิคูรัลช่องทรวงอก
  - - - Tissue Inflammation การอักเสบของเนื้อเยื่อ
      - 2.Decreased consciousness การหายใจลดลง
      - 3.สิ่งแปลกปลอก
      - 4.Trauma
    - - Moderate obstruction
        
        หายใจลาบาก
        
        หายใจเสียงดังเมื่อออกแรงเพียงเล็กน้อย
        
        ซี่โครงถูกดึงรั้งเมื่อหายใจเข้า
        
        ต้องใช้กล้ามเนื้อช่วยการหายใจ
        
        ปีกจมูกบาน
        
        กล้ามเนื้อคอเกร็ง
      - Severe obstruction
        
        -หายใจเสียงดังแม้ขณะพัก
        
        -สับสน กระสับกระส่าย
        
        -ซีด เหงื่อออก
        
        -ความดันโลหิตสูงขึ้น
        
        -อัตราการเต้นของหัวใจเร็ว
        
        -มีภาวะอกรวน
      - Total obstruction
        
        -ไม่มีเสียงหายใจ -ความรู้สึกตัวลดลง
        
        -อัตราการหายใจช้า -หัวใจเต้นช้า
        
        -เขียวอย่างชัดเจน -ความดันโลหิตต่า
      - Mild or potential obstruction
        
        เมื่อออกแรงจะหายใจเสียงดัง
        
        ไอ
        
        เสียงแหบ
    - - การเอาสิ่งแปลกปลอมออกจากปากและลาคอ
        ในผู้ป่วยที่พอรู้ตัว และไอมาก
        
        พยายามไอเอาสิ่งแปลกปลอมออกเอง
        
        ห้ามใช้นิ้วเข้าไปล้วงสิ่งแปลกปลอมภายในปาก
        
        ควรใส่ airway
        
        ดูดออกด้วยเครื่องดูดเสมหะ
      - การเปิดทางเดินหายใจให้โล่ง
        
        Head tilt
        
        Chin lift & Jaw thrust
        
        *ท่านอนหงายลิ้นจะตกไปอุดกั้นทางเดินหายใจ
      - 3.การใส่ Oral airway
        
        : วัดจากปากถึงติ่งหูในผู้ใหญ่
        
        : วัดจากปากถึงมุมขากรรไกรในเด็ก
  - - - Chest pain บาดเจ็บทรวงอก
      - -Paradoxical chest wall movement
      - ผนังทรวงอกเสียรูปทรง หายใจเข้าอกจะแฟบ
      - Poor air movement การเข้าออกของอากาศไม่ดี
      - คลา ผิดปกติ เช่น กระดูกกรอบแกรบในส่วนที่หัก
      - -Respiratory motion หายใจลา บาก
      - Hypoxia ขาดออกซิเจน
      - Cyanosis เขียวคลา
    - - การยึดทรวงอกส่วนนี้ให้อยู่นิ่ง (stabilizing chest wall)
      - ใช้มือกดหรือให้ผู้ป่ วยนอนตะแคงทับส่วน ผนังอกที่เคลื่อนผิดปกติ
      - หรือใช้ผ้าม้วนวางทับบริเวณนี้และพันผ้ายึดไว้โดยรอบในขณะที่นา ส่งโรงพยาบาล
      - ใช้ปลาสเตอร์ผ้ายืด ขนาดกว้างประมาณ 2 นิ้ว ปิ ดทับคร่อมทรวงอกข้างที่มีพยาธิสภาพผ่าน
      - ส่วน flail segment ด้านหลัง
  - - - Dyspnea หายใจลาบาก
      - Chest pain บาดเจ็บทรวงอก
      - Penetrating wound to the chest แผลทุลุที่ทรวงอก
      - Hyperresonance เสียงโปร่ง
      - Sucking sound on inspiration เสียงลมดูดเข้าขณะหายใจเข้า
    - - ปิ ดแผลนั้นให้สนิทด้วย วาสลิน ก๊อช และปลาสเตอร์ผ้ายืด หรืออาจปิ ดแผลด้วยวิธี Threesidedressing คือปิ ดแผลเพียง 3 ด้าน เปิ ดไว้1 ด้าน
        เพื่อให้ช่วงหายใจเข้า ลมผ่านเข้าทางรูแผลไม่ได้แต่ช่วงหายใจออก ลมที่ค้างอยู่สามารถระบายออกมาได้บ้าง
      - เตรียมผู้ป่ วย และเตรียมอุปกรณ์เพื่อช่วยแพทย์
        ใส่Intercostal closed drainage, ICD การใส่สายเข้าไปยังช่องเยื่อหุ้มปอด (pleural cavity) เพื่อระบายลม
        น้า
  - - - • หลอดลมเอียงไปอีกด้านหนึ่ง
      - • เคาะโปร่ง
      - • คลาได้ เสียงกรอบแกรบ
      - • หัวใจเต้นเร็ว อย่างมาก
      - •เขียวคล้า
      - *การหายใจแย่ลง หรือช่วยหายใจด้วยการบีบ AMBU ได้ลาบากขึ้น
      - • ฟังเสียงปอดได้เบาลง
      - • หลอดเลือดดา ที่คอโป่ ง
      - • ผู้ป่วยจะหายใจเร็ว
      - • ความดันต่า
      - • อาจช็อกได้
    - - -ปิดแผลทันทีแบบปิดสนิท
      - แทงเข็มผ่านเข้า ใช้เข็มเบอร์18-20 เจาะที่ช่อง
      - ซี่โครงที่2-3 ด้านหน้าทรวงอก เพื่อให้กลับเป็น
      - simple pneumothorax.
      - Definitive treatment โดยใส่ chest tube
      - -รีบนาส่งโรงพยาบาล
  - - - -Hypotension ความดันโลหิตสูง
      - -Distended or bulging veins เส้นเลือดตีบหรือโป่ง
      - -Weak pulse ชีพจรแรงเร็ว
      - -Cyanosis เขียวคล้า
      - -Severe anxiety or panic ภาวะตื่นตระหนก
    - - -การเฝ้าระวังสังเกตอาการและอาการแสดงในผู้ป่วยที่มีประวัติ
      - -ร่องรอยการบาดเจ็บที่เสี่ยงจะทาให้เกิดการบาดเจ็บต่อหัวใจอย่างใกล้ชิด
      - -เตรียมอุปกรณ์เพื่อช่วยแพทย์ในการเจาะเข้าไปในถุงเยื่อหุ้ม
      - -หัวใจและดูดเอาเลือดออก
      - -ให้สารน้าเพื่อแก้ไขภาวะช็อค
      - -ผ่าตัดเพื่อแก้ภาวะ cardiac tamponade โดยเย็บบาดแผลหรือรูรั่วที่เกิดขึ้นบริเวณหัวใจ
  - - - • เจ็บหน้าอก หายใจตื้น
      - • เขียว ซีดเย็น
      - • หลอดลมเคลื่อน
      - • Breath sound ลดลง
      - • หลอดเลือดดาที่คอแฟบ
      - • BP drop
      - • หายใจลาบาก
      - • ซีด สับสน
      - • หลอดลมเคลื่อน
      - • ข้างที่เป็ น เคาะทึบ
      - • เสียงหายใจเบาลง
    - - Moderate hemothorax
        
        มักต้องได้รับการรักษาโดยการใส่ICD ด้วย
      - Mild hemothorax
        
        การสังเกตและติดตามสัญญาณชีพและการหายใจ
        
        ติดตามผล เอ็กซ์เรย์ทรวงอก เพราะเลือดอาจหยุดออกเพียงแค่นั้น
      - Massive haemothorax
        
        อาจมีภาวะช็อค
        
        การเฝ้าระวังสัญญาณชีพอย่างใกล้ชิด
        
        การดูแลชนิดและอัตราสารน้า
        
        ระบายเลือดออกโดยการใส่ICD
        
        บางรายอาจจาเป็นต้องทาผ่าตัดด่วน เข้าไปใน
        
        ช่องอก ( thoracotomy ) เพื่อเข้าไปแก้ไขจุดที่เป็
        
        สาเหตุของเลือดออกในปอด
- - - - -Sucking wound
      - -ลมเข้าได้ และออกได้
      - -ไม่มี Mediastenal shift
      - -รักษาโดยใช้ three site dressing
    - - -One way valve
      - -ลมเข้าได้ แต่ออกไม่ได้
      - -รักษาโดยใช้ closed site dressing
  - - - -Hypovolemic shock
      - -CVP ต่า
      - -Neck vien แฟบ
      - -รักษาโดยการใส่ ICD หรือ
      - Thoracotomy การผ่าตัดทรวงอก
    - - -Cardiogenic shock
      - -CVP สูง
      - -Neck vien โป่งตึง
      - -รักษาโดยการ ทา Pericardiocentesis การเจาะถุงหุ้มหัวใจ
  - - - -เจ็บบริเวณตรงกลาง
      - หายใจเข้าปกติ
      - -รอยแตกหักชนิด
      - Linear Transverse Fracture
    - - -มีการบาดเจ็บ 1ตาแหน่ง
      - -หายใจเข้าหน้าอกยกตัวขึ้น
    - - -หายใจเข้า fail sement จะยุบตัวลงปอดข้างนั้นจะไม่ขยาย
      - -หายใจออกส่วนของfail segmentจะขยายตัวขึ้นทาให้ไม่สามารถขับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาได้จึงทาให้เกิดการคั่ง
- - - - ดูบริเวณทรวงอกแต่ละข้าง รูปร่างและการเคลื่อนไหวตรวจดูร่องรอยของการบาดเจ็บ เช่น รอยฟกช้า บาดแผลลักษณะบาดแผลที่ปรากฎ
      - ดูบริเวณหน้าและคอ : subcutaneous emphysema
        cardiac tamponade
      - ดูบริเวณท้อง กรณีที่ผู้ป่วยมีบาดแผลบริเวณส่วนบนของ
        ท้อง ต้องนึกถึงการบาดเจ็บทรวงอกด้วยเสมอ
    - - การคลำบริเวณทรวงอก : ตา แหน่งที่มีความเจ็บปวดอาจคลา พบปลายกระดูกซี่โครงซึ่งหัก
      - หรือ คลา พบว่ามีลมออกอยู่ใต้ผิวหนังได้
      - คลา หลอดลม ( trachea ) อยู่ในตา แหน่งปกติหรือไม่
      - ( ปกติจะอยู่กลางลา คอ )
      - คลา ชีพจรในตา แหน่งต่างๆ ซึ่งอาจบอกถึงการบาดเจ็บ
      - ของหลอดเลือดในช่องอกได้
    - - การเคาะบริเวณปอด
      - ถ้าเคาะได้เสียงทึบจะแสดงว่ามี haemothorax หรืออาจมีpulmonary contusion
      - ถ้าเคาะได้เสียงโปร่งกว่าปกติแสดงว่ามักจะมีภาวะ pneumothorax
      - การเคาะบริเวณหัวใจ ถ้าพบว่ามีเสียงทึบกว่าปกติอาจแสดงว่าผู้ป่ วยมีภาวะ cardiac tamponade
    - - เสียงหายใจ เป็นปกติเท่ากันทั้ง 2 ข้างหรือไม่
      - เสียงหัวใจเป็นปกติค่อยกว่าปกติหรือมีเสียงแทรก( murmur )
      - เสียงผิดปกติอื่นๆ ในรายที่มีการบาดเจ็บ กระบังลมทะลุและมีลา ไส้เคลื่อนขึ้นไปอยู่ในช่องอก
      - จะฟังได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวของลา ไส้( bowel sound ) บริเวณทรวงอกได้