Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
DX.หลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตันเรื้อรัง Chronic peripheral artery occlusion
DX.หลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตันเรื้อรัง
Chronic peripheral artery occlusion
อาการและอาการแสดง
มึนชาบริเวณปลายเท้าด้านซ้ายเวลาเดินนั่งพักแล้วดีขึ้นเป็นๆหาย
เท้าซ้ายเย็นกว่าเท้าขววา
ปวดขาแบบตุ๊บๆร้าวมาที่น่องตั้งแต่ใต้เข่าลงมา
การวินิจฉัย/ตรวจร่างกาย
ผิวเป็นสีม่วงคล้ำเท้าซ้ายเย็นกว่าเท้าขวา
คลำชีพจร Left dorsalis pedis =0 (คลำไม่พบ)
ทดสอบโดยใช้เข็มทิ่มตั้งแต่เข่าลงมารู้สึกชา
คลำชีพจร Right dorsalis pedis =2 (ชีพจรเต้นปกติ)
ปวดขาระดับ Pain Score 10/10
ตรวจ Ankle Brachial index ค่าเท่ากับ 0.6
ตรวจ Dopper ultrasound ที่ Dorsalis pedis artery พบmonophasic
ตรวจ Femoral angiographa พบ occlusion Toledo popliteal artery
)
การรักษา
Morphine 3 mg dilute IV q 4 hrs.
Heparin 5000 unit IV bolus then Heparin 600 unit/hr
Aspirin grv 1 tab tid.pc
Endarterectomy ผ่าตัดเข้าไป !ตามความยาวของหลอดเลือดแล้วเลาะเอาแผ่นไขมันและผนังชั้นในและชั้นกลางที่มีความผิดปกติออก
Set OR for thrombectomy เตรียมผ่าตัดเอาก้อนลิ่มเลือดออก
สาเหตุ
1.หลอดเลือดแดงแข็งตัว(arterosclerosis) ส่วนใหญ่เกิดจากการมีไขมันสะสมในผนังหลอดเลือดหนาตัวขึ้น ทำให้รูหลอดเลือดเกิดการตีบแคบส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงเนื้อเยื่อบริเวณนั้นไม่เพียงพอ
2.หลอดเลือดมีการอักเสบบ่อยครั้งทำให้เกิดพังผืด ผนังหลอดเลือดหนาตัวขึ้น ทำให้หลอดเลือดแดงอุดตัน เช่น Bureger's disease
3.การหดตัวของหลอดเลือดแดงส่วนปลายมากผิดปกติจนทำให้มือซีด ได้แก่โรค Raynaud's disease
4.เกิดโรคเรื้อรังต่อผนังหลอดเลือด เช่น โรคเบาหวาน โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเส้นเลือด
ปัจจัยเสี่ยง
สูบบุหรี่วันละ 2 ซองต่อวัน ระยะเวลา 20 ปี
ดื่มเหล้าประมาณ 1 ขวดกลมต่อวัน ระยะเวลา 10 ปี
เพศชาย อายุ 37 ปี
อาการตามหลัก 6 Pและการพยาบาล
Pain (ปวด)
ไม่สุขสบายเนื่องจากปวด
จัดให้ผู้ป่วยนอนพักบนเตียงตลอดเวลา จัดท่านอนศีรษะสูง30-40 องศา เหยียดเท้าตรง ไม่ยกขาสูง ห้ามนั่งห้อยเท้า หรืองอส่วนข้อพับต่างๆ
ดูแลให้ได้รับยา Morphine 3 mg dilute IV q 4 hr. ตามแผนการรักษาของแพทย์
ประเมินระดับ Pain Score
ในผู้ป่วยที่มีอาการปวดขณะทำกิจกรรม ให้เดินออกกำลังกายทุกวันให้หยุดเดินก่อนที่จะปวดหรือมีอาการปวดให้หยุดทันที การเดินจะทำให้เลือดไหลเวียนดีขึ้น
บริหารเท้าด้วยวิธี Buerger - Allen exercise
2.นั่งห้อยเท้า กระดกปลายเท้าขึ้นลง หมุนข้อเท้านาน 3 นาที
3.นอนราบไม่หนุนหมอน ห่มผ้าที่ปลายเท้าให้อุ่น 3 นาที ครั้งละ 6 รอบนาน 4 ครั้ง
1.นอนราบยกขาสูง 45 องศา ใช้หมอนรองนาน 3 นาที
ประเมินและบันทึก สีผิว อุณหภูมิ การรักความรู้สึก ความปวด ชีพจรทั้ง 2 ข้าง
หลีกเลี่ยงการนวดการกดไปบนกล้ามเนื้อ
เบี่ยงเบนความสนใจ เช่น การพูดคุย ทำสมาธิ
ให้คำแนะนำพูดคุยญาติเกี่ยวกับสาเหตุการปวด อยู่เป็นเพื่อนให้กำลังใจขณะที่ปวด
Pallor (ซีด)
เนื้อเยื่อส่วนปลายได้รับออกซิเจนไปเลี้ยงไม่เพียงพอจากการอุดตันของหลอดเลือด
สังเกตและบันทึกการเปลี่ยนแปลงชีพจร ทั้ง 2 ข้าง สีผิว อุณหภูมิ ของผิวหนัง อาการปวดทุก 4 ชั่วโมง
ดูแลให้ยา Heparin 5000 unit Iv bolus then Heparin 600 unit/hr ตามแผนการรักษา
ดูแลให้ได้รับ Aspirin gr v 1 Tab tid. pc ตามแผนการรักษา
จัดสิ่งแวดล้อมให้อากาศถ่ายเทได้ดี รักษาปลายเท้าให้อุ่น
ระวังการเกิดบาดแผลที่ปลายเท้า ล้างเท้าด้วยสบู่ทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่นและเช็ดให้แห้งทาด้วยโลชั่น หลีกการแช่เท้าในน้ำร้อน การตัดเล็บ
ให้ผู้ป่วยนอนราบศีรษะสูง 45 องศา แขนขาวางราบไม่งอหรือกดทับ
Paresthessia (อาการชาและรู้สึกเจ็บน้อยลง)
แนะนำให้รับประทานวิตามินที่สามารถบำรุงปลายประสาทได้ เช่น วิตามิน B2 B3 B5 B6 B12
แนะนำให้รับประทานผัก ผลไม้ ข้าวซ้อมมือ ให้เพียงพอกับการใช้งานของร่างกาย
Pulselssness (คลำชีพจรไม่ได้)
Left dorsalis pedis = 0
แนะนำให้ผู้ป่วยนั่งพัก นอนพัก5-10 นาที แล้วคลำชีพจรใหม่
แนะนำให้ผู้ป่วยหายใจเข้าออกลึกๆ
กรณีศึกษาผู้ป่วยชายไทยอายุ37 ปี มีประวัตสูบบุหรี่ประมาณ2ซองต่อวันมา20ปี ดืมเหล้าประมาณ1ขวดกลมต่อวัน ดื่มมา 10 ปี มาด้วย 10 เดือนก่อนมามีอาการปวดขาและรู้สึกชาบริเวณปลายเท้าด้านซ้าย เป็นมากขึ้นเวลาเดิน นั่งพัก แล้วอาการดีขึ้น เป็นๆ หายๆ ไม่ได้ไปรับการรักษาที่ใด 1 สัปดาห์ก่อน มีอาการปวดบริเวณปลายเท้าซ้าย ปวดตุ๊บๆ ร้าวมาที่น่อง ร่วมกับมีอาการชา นั่งพักอาการไม่ทุเลา1วันก่อนมา มีอากรปวดมากขึ้น ปวดตลอดเวลา ขาซ้ายตั้งแต่ใต้เข่าลงมารู้สึกชา ผิวเป็นสีม่วงคล้ำ ญาติจึงมาโรงพยาบาล
พยาธิสภาพ
ขยายเข้าหลอดเลือดแดงทำให้รูของหลอดเลือดแดงตีบลง
ทำให้เลือดไหลเวียนไม่ดี (Poor perfusion)
เป็นเวลานานจนเกิดคราบ Plaque ขนาดใหญ่
ความยืดหยุ่นของผนังหลอดเลือดเสียไป (Vascular functions impair)
ทำให้มีเม็ดเลือดขาว Monocytes หรือ Macrophage
จับกินสิ่งแปลกปลอม
ผนังหลอดเลือดได้รับการกระแทกจากการที่เลือดไหลเวียนอยู่นาน
เกิดจากผนังหลอดเลือดแดงได้รับอันตราย
ผนังหลอดเลือดและ Plaque แตกออก เกิดเลือดออกบริเวณ Plaque
เกาะเป็นก้อนเลือด มีการขยายขนาดใหญ่ขึ้น
จึงทำให้เกิดหลอดเลือดแดงส่วนปลายอุดตัน
ภาวะแทรกซ้อน
1.เกิดแผลเรื้อรังจากการขาดเลือด (Ischemic ulcer)
2.เกิดการอุดตันในอวัยวะอื่นๆ เช่น สมอง และหัวใจ