Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Diaster nursing ((I - Incident command (4ฝ่ายปฏิบัติการ (Operations)
…
Diaster nursing
I - Incident command
4ฝ่ายปฏิบัติการ (Operations)
หน่วยนี้รับผิดชอบในการควบคุมสถานการณ์ และจัดการทรัพยากรทั้งหมด บทบาทค่อน ข้างแปรเปลี่ยนได้ง่าย อาจขยายการทำงานออกไปด้านกฎหมาย การควบคุมเพลิง และอื่นๆที่เกิดขึ้นกับเหตุการณ์ ลักษณะการทำงานของหน่วยนี้เพื่อนำเอาทีมค้นหา คัดแยก รักษา และขนย้ายมาทำงานร่วมกัน
1 ฝ่ายวางแผน(Planning)
ส่วนนี้จะรับรายละเอียดจากทุกฝ่ายแล้วทำการวิเคราะห์ ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และวางแผนการทำงานเพื่อนำเสนอต่อทีมผู้บัญชาเหตุการณ์ในที่สุด
3ฝ่ายจัดหา (Logistics)
รับผิดชอบในการจัดหาบริการต่างๆ อุปกรณ์ และวัตถุดิบที่จำเป็นในการสนับสนุนผู้ปฏิบัติงาน อาจรวมถึงการติดต่อสื่อสาร อาหาร น้ำดื่ม ยา และสิ่งปลูกสร้าง
2ฝ่ายงบประมาณ (Finance/Administration )
ส่วนนี้รับผิดชอบค่าใช้จ่าย หรือจัดทำข้อตกลงเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพยากรที่ทีมผู้บัญชาเหตุการณ์ต้องการ รวมทั้งบันทึกกำลังคนที่ใช้ไป การบาดเจ็บ ความเสียหาย และค่าใช้จ่ายอื่นๆในการบริหารจัดการเหตุการณ์
คือระบบ
ผู้บัญชาเหตุการณ์ ทั้งนี้เพื่อสามารถขอความร่วมมือในทุกหน่วยงาน ขยายงาน ยุบงาน เพื่อให้การบริหารจัดการที่คล่องตัว ในทุกสถานการณ์รุนแรง
-
ควรมีการวาดแผนผังของพื้นที่ปลอดภัย ถนน พื้นที่สำคัญและตำแหน่งของโรงพยาบาลไว้ด้วย สังเกตทิศทางลมและภูมิประเทศที่อาจมีผลต่อการวางแผนเรื่องความปลอดภัย รวมทั้งตั้งจุดรวบรวมผู้บาดเจ็บ จุดปล่อยผู้บาดเจ็บ และจุดที่ผู้บาดเจ็บอยู่
ผู้เผชิญเหตุก็ควรฝึกคิดเตรียมสถานการณ์ที่อาจพบไว้ล่วงหน้า ทั้งนี้เพราะสถานการณ์สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอด เวลา เมื่อทีมสามารถเข้าพื้นที่เหตุการณ์ได้แล้ว ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยและป้องกันตนเองรวมทั้งทีมเป็นอันดับแรก จากนั้นจึงค่อยคำนึงถึงการป้องกันชุมชนเช่นคิดว่าทำอย่างไรเพื่อไม่ให้มีผู้ อื่นได้รับบาดเจ็บจากที่นี่อีก
-
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุต้องคำนึงถึงความปลอดภัยต่อผู้ปฏิบัติงานทุกคนด้วย โดยในที่เกิดเหตุอาจจำเป็นต้องขอความร่วมมือจากหน่วยงานความปลอดภัย นักผจญเพลิง พนักงานกู้ภัยและหน่วยงานอื่นๆในการร่วมกันทำงานในที่เกิดเหตุ
-
R – Recovery
หลังจากเหตุการณ์ผ่านไปแล้ว ในช่วงฟื้นฟูสภาพนั้นควรมีการทบทวนทุกครั้งเพื่อเป็นการเรียนรู้จาก ประสบการณ์ รวมทั้งทำการวางแผนแนวทางปฏิบัติ แผนนโยบายในการป้องกันหรือบรรเทาเหตุอันเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรับกับ ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ช่วงการฟื้นฟูเริ่มต้นทันทีหลังจากเกิดเหตุการณ์ ควรให้ความสนใจกับผลกระทบในระยะยาว ค่าใช้จ่าย และลดผลกระทบของเหตุการณ์ต่อผู้บาดเจ็บ ผู้เข้าช่วยเหลือ ชุมชน รัฐ ประเทศและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ ได้แก่ การซ่อมแซมสาธารณสุขในพื้นที่ขึ้น การให้คำปรึกษาในการจัดการภาวะวิกฤตทั้งด้านผลกระทบทางจิตใจ ความเครียดที่เกิดขึ้นในชุมชน นอกจากนี้ยังดูแลเรื่องการจัดที่พักและเครื่องมือเครื่องใช้สำหรับผู้ประสบ อุบัติเหตุและครอบครัวอีกด้วย
-
ควรมีประเมินที่เกิดเหตุซ้ำๆเพื่อระแวดระวังวัตถุอันตรายต่างๆที่อาจเหลือ ตกค้างในที่เกิดเหตุ ได้แก่ อาจมีระเบิดชุดที่2 ที่วางไว้โดยผู้ก่อการร้าย ความรู้ที่สำคัญคือ ทำงานให้เสร็จและย้ายออกให้เร็วที่สุด
หาข้อมูลในอดีตของการเผชิญกับภัยพิบัติต่างๆจะช่วยทำให้คาดการณ์ถึงสิ่งของ จำเป็นที่ต้องใช้ในที่เกิดเหตุได้
-
.T – Triage/Treatment
หลังจากแยกประเภทของผู้ป่วยได้แล้ว บุคลากรควรเข้าไปประเมินผู้ป่วยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ซึ่งอาจเป็นกลุ่ม ที่ต้องได้รับการรักษาเร่งด่วนเป็นลำดับแรก หรืออาจเป็นผู้บาดเจ็บที่เสียชีวิตแล้วก็ได้ เมื่อให้การรักษากลุ่ม immediateแล้วจึงมาทำการช่วยเหลือกลุ่ม
delayedในลำดับต่อไป การแยกแยะวิธีนี้ไม่ได้ลงไปดูรายละเอียดของผู้ป่วยแต่ละราย ในเวลาต่อมา บางรายอาจมีอาการแย่ลงและต้องการการช่วยเหลือเร่งด่วน ดังนั้นการคัดกรองจึงต้องทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เพียงขั้นตอนเดียว
ขั้นตอนแรกไปที่กลุ่มImmediate โดยมองหาตำแหน่งที่มีผู้บาดเจ็บซึ่งไม่สามารถเดินได้ และไม่ทำตามสั่ง จากนั้นให้ประเมิน ABC อย่างรวดเร็ว โดยสังเกตว่าทางเดินหายใจโล่งหรือไม่ หายใจสะดวกหรือไม่ ถ้ามีภาวะเลือดออกก็ควรกดแผลเพื่อห้ามเลือดไปก่อน แต่ถ้าผู้ป่วยมีอาการปางตายหรือเป็นการบาดเจ็บที่รักษาไม่ได้ก็ถือเป็น กลุ่มExpectantซึ่งแพทย์ควรปล่อยไว้และรีบไปให้การรักษาแก่ผู้ป่วยรายอื่น ต่อไป
S-sort
ทำได้โดยการแยกแยะผู้ป่วยออกเป็น4กลุ่มตามID-me (Immediate, Delayed, Mininmal และExpectant)
I- Immediate คือผู้ป่วยซึ่งมีภาวะคุกคามชีวิตหรืออวัยวะ ส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยที่มีภาวะแทรกซ้อนบางอย่างเกี่ยวกับABCเช่น ไม่มีแรงพอในการหายใจ เลือดออกมากจนควบคุมไม่ได้ หรือแขนขาที่คลำชีพจรไม่ได้ เป็นต้น
D-Delayed คือผู้ป่วยที่สามารถรอรับการดูแลรักษาพยาบาลได้โดยที่อาการไม่แย่ลงอย่าง รวดเร็วนัก รวมทั้งยังมีสัญญาณชีพปกติและทางเดินหายใจเปิดโล่งอีกด้วย
M-Minimal คือผู้บาดเจ็บที่สามารถเดินไปมาได้ เป็นผู้ป่วยที่มีสัญญาณชีพปกติและสามารถรอการรักษาได้เป็นวันโดยไม่เกิดผล เสียอะไร ผู้ป่วยกลุ่มนี้สามารถได้รับการช่วยเหลือจากบุคคลอื่นที่ไม่ใช่แพทย์ได้ นอกจากนี้พวกเขายังอาจทำหน้าที่อาสาสมัครในที่เกิดเหตุเพื่อช่วยเหลือ ผู้ป่วยรายอื่นได้อีกด้วย
E-Expectant คือผู้ป่วยที่มีโอกาสรอดชีวิตน้อยมากและทรัพยากรที่มีอยู่ไม่เพียงพอในการช่วยเหลือผู้ป่วยเหล่านี้ แท้จริงแล้วผู้ป่วยทุกรายควรได้รับการรักษาแต่ระหว่างสถานการณ์ภัยพิบัติ การดูแลควรทำสิ่งที่ดีที่สุดให้คนจำนวนมากที่สุดเท่านั้น
-
เหตุการณ์ที่มีผู้บาดเจ็บเกิดขึ้นจำนวนมากจนต้องระดมกำลังความช่วยเหลือจาก ทุกแผนกในโรงพยาบาลโดยอาจจำต้อง ส่งต่อไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลอื่นทั้งในและนอกจังหวัด (MCI =Healthcare Needs > Resource) ทั้งนี้ MCI อาจจะไม่เกินกำลังความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ในพื้นที่และในภูมิภาคก็ได้
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติหรือโดยมนุษย์อย่างทันทีและทำให้ระบบการ ดูแลรักษาที่มีอยู่เดิมชะงักลงหรือเพิ่มความต้องการในการปฏิบัติงานของ องค์กร เหตุการณ์เช่นเดียวกันแต่เกิดในที่ห่างไกลหรือชนบทซึ่งอาจถือว่าเกินกำลัง ของโรงพยาบาลแห่งนั้นและต้องการความช่วยเหลือจากนอกโรงพยาบาล
-
-
-
-
-
-
-
-
-