Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

UTI with sepsis (ยา (ATB Tazocin 2.25 gm +NSS 100 mlvq 8hr.…

- - - - ประเมินผลการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะสังเกตลักษณะของปัสสาวะขุ่นมากน้อยเพียงใดวัดอุณหภูมิของร่างกายทุก4ชั่วโมง
      - Record V/Oดูภาวะของเสียคั่ง
      - ดูแลให้ได้รับยา ATB Tazocin 2.25 gm +NSS 100 mlvq 8hr. ตามแผนการรักษาของแพทย์
      - ติดตามผลการตรวจปัสสาวะ และการตรวจเลี้ยงเชื้อภายหลังการรักษา
  - - - Change position ทุก2ชั่วโมงเพื่อป้องกันการเกิดแผลกดทับบริเวณอื่นเพิ่ม
        ดูแลทำแผล Dressing NSS และปิดgauze
        ดูแล personal hygiene
        ดูแลให้ผู้ป่วยพักผ่อนบนเดียง
        ดูแลช่วยเหลือกิจกรรม
  - - - ไม่ให้แขนข้างที่จะผ่าตัดถูกวัดความดันโลหิตเจาะเลือด หรือเข็มแทง
        งดยาแอสไพรินหรือยอื่นๆที่มีผลป้องกันการแข็งตัวของเลือด
        งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6ชม.ก่อนผ่าตัด
    - - ประเมินสัญญาณชีพ
        ประเมินอาการและอาการแสดงที่ผิดปกติเกี่ยวกับสายสวนหลอดเลือดดำก่อนการใช้งาน เช่นการอักเสบ, บวม, แดง, กดเจ็บ,อาคารปวด , มีหนอง, มีเลือดชึมติดตามภาวะไข้
        ถ้าพบว่าสายสวนเลื่อนหลุดจากตำแหน่งเดิมให้ใช้พลาสเตอร์ยึดติดให้แน่นห้ามขยับสายสวนให้ลึกเข้าไปในหลอดเลือดและรายงานให้แพทย์ทราบทันที
    - - รักษาความสะอาดไม่แกะเกาบริเวณรอบแผลที่ปิดไว้
        ไม่ใส่เสื้อสวมศีรษะเสื้อผ้าคอกลมเพื่อป้องกันการดึงรั้งของสาย
        ระวังไม่ให้แผลเปียกน้ำหากเกิดการเปียกน้ำ หากเปียกน้ำให้ไปทำแผลภายนอกที่คลินิกหรือโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้านทันที
        ผู้ป่วยที่ได้รับยาด้านเกล็ดเลือดและยาละลายลิ่มเลือดชนิดรับประทาน
        ต้องแจ้งเมื่อพบสิ่งผิดปกติ ได้แก่ จ้ำเลือดเลือดออกง่ายก่อนทำการฟอกเลือดทุกครั้ง
  - - - ประเมินอาการติดเชื้อ
        วัดสัญญาณชีพ ทุก4ชั่วโมง
        ดูแลการทำ perm catheter
        ดูแลความสะอาด
        ดูแลให้ได้รับยาตามแผนการรักษา
        ติดตามผลทางห้องปฏิบัติการ
- - - - Eosinophil 0.0 %ต่ำ
      - Lymphocye 2.0% ต่ำ
      - WBC 24.81 10^3/uL
      - HB 9.8g/dl ต่ำ
      - Hct 30.4% ต่ำ
      - REC 3.65 10^6/uL ต่ำ
      - RDW 17.9 % สูง
      - Neutrophil 97.1% สูง
      - Monocyte 0.8%ต่ำ
      - Platelet count 93 10^3/uL ต่ำ
      - INR 1.73 สูง
      - PT 19.00 s สูง
      - APTT 190.10 s สูง
      - Na 134 ตำ
      - เคมีคลินิก (2/9/2562)
      - K 3.39 ต่ำ
      - cO2 19.0 ต่ำ
      - Bun 47.9 สูง
      - eGFR 9.82 ต่ำ
      - Creatinine 4.03 สูง
      - Albumin 1.9 ต่ำ
      - Ca 7.8 ต่ำ
      - Phosphorus 0.7 ต่ำ
  - - - วันที่ 28 สิงหาคม 2562 PCMV mode Pc12 PEEP 5 RR 12 FIO2 0.4
        วันที่ 29 สิงหาคม 2562 PCMV mode Pc12 PEEP 5 FIO2 0.4 RR 12 Ti 1 Ptrigger 1
        วันที่ 30 สิงหาคม 2562 PCMV mode Pc12 PEEP 5 FI020.4 RR 14 Ptrigger 1
        วันที่ 31 สิงหาคม 2562 PS mode Ps8 PEEP 5 FI02 0.4 plan On T-piece
        วันที่ 1 กันยายน 2562 On T-piece 1 ชม. off ET-tube On O2 mask with Bag 10LPM try wean keep O2 sat-94% On O2 cannula 5LPM
- - - - ภาวะฉุกเฉินทางประสาทวิทยาหรือความรู้สึกตัว
        เปลี่ยนแปลงความรู้สึกตัว จากน้อยไปมาก Drowsy-stupor-semicoma-coma
      - สาเหตุของพยาธิสภาพ
        1.ในสมองส่วน Reticular activating system
        2.สมองทั้ง 2 ข้าง
        3.การกดการทำงานของ thalamocerebral pathway : จากยา สารพิษ metabolic etc.
      - การวินิจฉัย
        ประวัติต้องซักให้ละเอียด: ได้รับอุบัติเหตุที่ศีรษะ
        การกินหรือใช้ยา อาการร่วมกับการไม่รู้สึกตัว
        การอ่อนแรงแขน ขา-ชัก คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ภาพซ้อน-สารเสพติด สุรา โรคประจำตัว เป็นต้น
        ตรวจร่างกายต้องเป็นการตรวจอื่นๆ: CT MRI EEG LP
  - - - สาเหตุของการติดเชื้อในกระแสเลือดที่พบได้มากที่สุด โดยเชื้อแบคทีเรียจะซึมเข้าสู่กระแสเลือดและแบ่งตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดทันที ปัญหาสุขภาพซึ่งเป็นสาเหตุของการติดเชื้อในกระแสเลือดได้แก่โรคที่เกี่ยวกับการติดเชื้อในปอด เช่น ปอดบวม การติดเชื้อที่ไต โรคทางเดินปัสสาวะอักเสบ การติดเชื้อบริเวณท้อง
      - การวินิจฉัยการติดเชื้อในกระแสเลือด
        การตรวจอาการ
        การตรวจเลือด
        การตรวจปัสสาวะ
        การตรวจสารคัดหลั่งจากบาดแผล
        การตรวจน้ำมูกหรือเสมหะ
        การตรวจด้วยภาพสแกน
        เอกซเรย์ อัลตราซาวด์
        ซีทีสแกน เอ็มอาร์ไอ
      - ภาวะการติดเชื้อในกระแสโลหิต
        ซึ่งเกิดจากเชื้อแบคทีเรีย โดยผู้ป่วยติดเชื้อแบคทีเรียที่ส่วนใดส่วนหนึ่งของร่างกาย จากนั้นเชื้อแบคทีเรียซึมเข้าสู่กระแสเลือดทำให้ลิ่มเลือดอุดตันการลำเลียงออกซิเจนไปยังอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย เมื่อไม่ได้รับออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงอย่างเพียงพอ การทำงานของอวัยวะส่วนนั้นจึงล้มเหลว
  - - - ส่วนมากแล้วใหญ่มักจะเกิดขึ้นบริเวณทางเดินปัสสาวะส่วนล่าง ซึ่งได้แก่ กระเพาะปัสสาวะ (bladder) เรียกว่า “Cystitis” และ ท่อปัสสาวะ (urethra –ท่อที่ลำเลียงน้ำปัสสาวะออกไปจากร่างกาย) เรียกว่า “Urethritis”
      - ส่วนการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะส่วนบน ได้แก่ บริเวณ ไต (kidney) เรียกว่า “Pyelonephritis” และ ท่อไต (ureter) ทำให้เกิดโรคกรวยไตอักเสบก็สามารถเกิดขึ้นได้