Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

เตียง 1-12 image with UTI (Medication (vancomycin 1…

- - - - เวียนศีรษะ
      - ไม่อยากอาหาร
      - เรอ ท้องอืด มีแก๊สในกระเพาะอาหาร
      - รู้สึกขมปาก
      - มีปัญหาเกี่ยวกับการนอนหลับ
      - มีภาวะซึมเศร้า
      - รู้สึกตื่นเต้น กระสับกระส่าย แปรปรวน อยู่ไม่สุข
  - - - อุจจาระเป็นเลือด หรือมีสีดำ
      - ปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะน้อยลงอย่างไม่มีสาเหตุ
      - มีอาการไข้ หนาวสั่น
      - ปวดที่หลังส่วนล่างอย่างรุนแรง
      - มีจุดแดงเล็ก ๆ ขึ้นตามผิวหนัง
  - - - หัวใจเต้นเร็วหรือใจสั่น
      - มีอาการบวมที่ใบหน้า ท้อง มือหรือเท้า
      - มีอาการชา ปวดแสบปวดร้อน เจ็บ หรือรู้สึกคล้ายเข็มทิ่ม
  - - - หัวใจเต้นแรง เต้นเร็ว หรือเต้นช้าเกินไป
      - เจ็บหน้าอกมากขึ้น
      - ตามัว ปากแห้ง
      - คลื่นไส้ อาเจียน เหงื่อออก
      - หน้ามืดจะเป็นลม
      - ผิวสีคล้ำ เพลีย หายใจหอบ
  - - - คลื่นไส้อาเจียน
      - ท้องผูก.
      - อาหารไม่ย่อย
      - ปวดท้อง
- - - - Dx. Alteration of consciouse with UTI
        
        Alteration of consciouse
        
        พยาธิสภาพ
        
        ภาวะซึมสับสนเฉียบพลัน เป็นกลุ่มอาการที่สมอง สูญเสียหน้าที่เฉียบพลันทำให้มีการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับ การรู้คิด (cognitive impairment) มีการเปลี่ยนแปลง ระดับความรู้สึกตัว (alteration of consciousness level) และขาดความใส่ใจ (inattention) หรือมีสมาธิ ลดลง อาจมีการรับรู้ผิดปกติ เกี่ยวกับวัน เวลา สถานที่และบุคคล หลงลืมความจำปัจจุบัน (recent memory) จะพบอาการได้เป็นชั่วโมงหรือเป็นวัน และเกิดขึ้นแบบเฉียบพลันแต่ชั่วคราว
        
        อาการ
        
        Hyperactive delirium เอะอะ ก้าวร้าว ร้องเรียกหาคนหรือปีนลงจากเตียง และอาจมีอาการของระบบประสาท อัตโนมัติ เช่น หัวใจเต้นเร็ว รูม่านตาขยาย
        
        Hyperactive delirium ระดับความรู้สึกตัวลดลง มีอาการง่วงซึม หลับ ไม่ค่อยมีพฤติกรรมเรียกร้อง แต่อ่อนเพลีย เหนื่อยล้าง่าย
        
        Mixed delirium มีลักษณะอาการเปลี่ยนกันไปมาทั้ง hyper/hypoactive ทั้งนี้อาจพบว่าอาการดังกล่าวไม่ชัดเจน ให้พิจารณาการเปลี่ยนแปลงดังนี้ มีอาการหลอนทางการมองเห็น
    - - UTI with Sepsis
        
        UTI
        
        พยาธิสรีรวิทยา
        
        สามารถเข้าได้ 3 ทาง
        
        1.การติดเชื้อย้อนกลับขึ้นไปจากท่อปัสสาวะ (ascending infection) แบคทีเรียส่วนใหญ่เข้าสู่ระบบทางเดินปัสสาวะจากบริเวณทวารหนักย้อนกลับขึ้นไปที่ท่อปัสสาวะแล้วเข้าไปในกระเพาะปัสสาวะ การย้อนกลับเข้าสู่ระบบทางเดินปัสสาวะจะพบมากขึ้นในแบคทีเรียที่มี
        
        2.เชื้อโรคกระจายตัวมาทางกระแสเลือด (hematogenous route) การติดเชื้อของไตโดยเชื้อโรค
        กระจายตัวมาทางกระแสเลือด
        
        3.เชื้อโรคกระจายมาทางกระแสน้ำเหลือง (lymphatic route) เป็นการกระจายโดยตรงของแบคทีเรีย
        จากอวัยวะข้างเคียง
        
        ชนิดของการติดเชื้อ
        
        การติดเชื้อครั้งแรก หรือ เป็นการติดเชื้อหลังจากการติดเชื้อครั้งก่อนอย่างน้อย 6 เดือน
        
        การไม่หายจากการมีแบคทีเรียในปัสสาวะระหว่างการรักษา (Unresolved bacteriuria)
        
        การติดเชื้อของระบบทางเดินปัสสาวะใหม่แบบเป็นๆหายๆ (Recurrent urinary tract infection)
        
        Sepsis
        
        พยาธิสภาพ Link Title
        
        ผลจากภาวะการติดเชื้อที่เกิดจากกระบวนการอักเสบที่เกิดขึ้นอยางรุนแรงและ ต่อเนื่อง ในระยะแรกร่างกายจะอยูในภาวะ hypodynamic state โดยจะมีการขยายตัวของหลอดเลือดสวน ปลาย (peripheral vasodilatation) ส่งผลให้ร่างกายขาดสารน้ําที่จะใหระบบไหลเวียนโลหิตนาไปสูบฉีด (hypovolemia) ประกอบกับการทํางานของหัวใจที่แย่ลง เป็นผลจาก cytokines ตางๆที่ถูกหลั่งออกมาจากเซลล์ เม็ดเลือดขาวและกระบวนการอักเสบที่มีอยู ทําใหปริมาณของออกซิเจนที่ถกขนสูงไปยังเนื้อเยื่อตางๆลดลง ในขณะที่เนื้อเยื่อต่างๆมีความต้องการออกซิเจนมากขึ้นจากอัตราการเผาผลาญในรางกายที่เพิ่มขึ้น ทําให เนื้อเยื่อทั่วร่างกายเกิดภาวะขาดออกซิเจนอย่างรุนแรง เนื้อเยื่ออจะปรับตัวโดยพยายามดึงเอาออกซิเจนจากเลือด ซึ่งมีนอยอยูแลวออกจากฮีโมโกลบินและพลาสมาใหมากขึ้น หากยังไมเพียงพอตอความต้องการของเนื้อเยื่อ ต่างๆ ร่างกายจะปรับตัวโดยเปลี่ยนไปใช้ anaerobic metabolism แทน ทําให้ระดับของสาร lactate ในเลือด สูงขึ้น หากไมได้ รับการแก้ไข ร่างกายจะเข้าสู่ภาวะ hyperdynamic state โดยมีการตีบของหลอดเลือดส่วน ปลาย ทําให้เลือดสูบฉีดมากขึ้น cardiac output เพิ่มขึ้น และปริมาณออกซิเจนในกระแสเลือดเริ่มสูงขึ้นไปดวย แต่ปริมาณออกซิเจนที่มากขึ้นเนื้อเยื่อไม่สามารถนําออกซิเจนไปใช้ได้ เนื่องจากภาวะขาดออกซิเจนอย่าง 2 รุนแรงเป็นเวลานานอย่างต่อเนื่อง เซลล์เนื้อเยื่อต่างๆจะค่อยๆเสื่อมสภาพ จนเกิดอวัยวะล้มเหลวในที่สุด หาก อวัยวะล้มเหลวพร้อมๆกันหลายระบบ (Multiple Organ Failure) อาจถึงแก่ชีวิตได้
  - - - รักษาที่ รพ.ตำรวจ
- - - - 01/09/62 จุลทรรศนศาสตร์คลินิก
        
        Blood =3+
        
        Glucose UA=3+
        
        Albumin UA=6.5
        
        Urobillinogen UA=3+
        
        RBC UA=3-5/HPF
        
        WBC UA=>100/HPF
        
        Yeast=3+
        
        Epithelial cell =10-20/HPF
      - 28/08/62 จุลชีววิทยา
        
        Urine Gram stain
        
        PMNS Polymorphonuclear cells
        
        Gram Positive cocci
        
        Gram Negative Bacilli
      - 29/08/62 เคมีคลินิก
        
        K=3.35mmol/L ต่ำ
        
        CO2=14.7 mmol/L ต่ำ
        
        Bun=21.3 mg/dL สูง
        
        eGFR=18.1 mL/min ต่ำ
        
        Creatinine=2.43 mg/dL สูง
      - 1/09/62
        
        จุลชีววิทยา
        
        Urine cultue
        
        10^5 CFU/mL Canida tro piacalis
  - - - 01/09/62
        
        On T-piece 1 ชม. off ET-tube On O2 mask with Bag 10LPM try wean keep O2 sat>94% On O2 canula 5LPM
      - 31/08/62
        
        PS mode Ps=8 PEEP=5 FIO2=0.4 plan On T-piece
      - 29/08/62
        
        PCMV mode Pc=12 PEEP=5 FIO2=0.4 RR=12 Ti=1 Ptrigger=1
      - 30/08/62
        
        PCMV mode Pc=12 PEEP=5 FIO2=0.4 RR=14 Ptrigger= 1
      - 28/08/62
        
        PCMV mode Pc=12 PEEP=5 RR=12 FIO2=0.4
  - - - จุลชีววิทยา
        
        Blood Hemoculture 1
        
        พบ Escherichia coli
        
        Blood Hemoculture 2
      - โลหิตวิทยา
        
        HB =9.8g/dL ต่ำ
        
        Hct=30.4% ต่ำ
        
        RBC=3.65 10^6/uL ต่ำ
        
        RDW=17.9 % สูง
        
        WBC=24.81 10^3/uL
        
        Neutrophil=97.1% สูง
        
        Lymphocyte=2.0% ต่ำ
        
        Monocyte=0.8%ต่ำ
        
        Eosinophil=0.0 %ต่ำ
        
        Platelet count=93 10^3/uL ต่ำ
        
        PT=19.00 s สูง
        
        INR=1.73 สูง
        
        APTT=190.10 s สูง
    - - โลหิตวิทยา
        
        Hct=22.4%
        
        Hb=6.9g/dL
        
        RBC=2.69 10^6/uL
        
        PT=14.2 s
        
        INR=1.30
    - - ภูมิคุ้มกันวิทยา
        
        Ferritin =566.18 ng/mL สูง
  - - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        SD
        
        OD
        
        มีเสมหะปริมาณมาก สีขาวขุ่น ไม่สามารถขับออกเองได้
        
        RR=20 ครั้ง/นาที
        
        O2 sat=97-99 %
        
        RLL มีเสียง Cerpitation
      - เกณฑ์การประเมินผล
        
        ทางเดินหายใจโล่ง ฟังเสียงหายใจไม่มีเสียงเสมหะ
        
        O2sat >= 94% ตามแผนการรักษา
        
        RR=16-24 ครั้ง
        
        ฟังปอด 2 ข้างไม่มีเสียง Crepitation
        
        ไม่มีอาการแสดงของภาวะหายใจลำบาก เช่น
      - วัตถุประสงค์ทางการพยาบาล
        
        ผู้ป่วยได้รับออกซิเจน เพียงพอ
      - กิจกรรมการพยาบาล
        
        1.ประเมินอัตราการหายใจ ความลึก การใช้กล้ามเนื้ออื่นๆ ช่วยในการหายใจ และภาวะ Cyanosis เช่น ปลายมือปลายเท้าเย็น ซีด เหงื่อออก ตัวเย็น ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง อาการกระสับกระส่าย การตอบสนองต่อสิ่งเร้าได้ง่ายเพื่อเป้นการประเมินความรุนแรงของภาวะพร่องออกซิเจน ฟังเสียงปอด
        
        3.บันทึกสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง และประเมินค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนในเลือก (O2 saturation, O2 sat) keep O2 sat>94% ตามแผนการรักษาของแพทย์
        
        2.จัดท่า Hight Fowler position เพื่อเพื่อให้ปอดสามารถขยายตัวได้อย่างเต็มที่ซึ่งจะทำให้มีการแลกเปลี่ยนแก๊สได้สูงสุดถ้าผู้ป่วยไม่สามารถอยู่ในท่านี้ได้ ให้ผู้ป่วยนอนในท่าตะแคงและพลิกตัวบ่อยๆ
        
        4.ให้ผู้ป่วย Bed rest เพื่อลดการใช้ออกซิเจน
        
        5.ติดตามผลทางห้องปฏิบัติการ และผล Chest x ray ปอด
        
        เคาะปอดและ ฝึกให้ผู้ป่วยหายใจลึกๆ และไออย่างมีประสิทธิภาพ อย่างน้อยทุกๆ 1 ชั่วโมง โดยให้ผู้ป่วยวางฝ่ามือใต้ชายดครงให้ชิดขอบชายโครงผู้ป่วยแล้วสูหายใจเข้าออกลึกๆ เนื่องจากถ้ามีเสมหะคั่งค้างในปอดเป็นปัจจัยส่งเสริมให้เกิดการติดเชื้อที่ปอด
        
        ดูแลให้ได้รับ O2 cunala 5LPM ตามแผนการรักษาของแพทย์
    - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        SD
        
        OD
      - วัตถุประสงค์ทางการพยาบาล
        
        ลดภาวะติดเชื้อในกระเเสเลือด
      - เกณฑ์การประเมินผล
        
        v/s อยู่ในเกณฑ์ปกติ
        
        CBC อยู่ในเกณฑ์ปกติ
        
        ผล Hemoculture ไม่พบเชื้อ E.coli
      - กิจกรรมทางการพยาบาล
        
        1.ประเมินและบันทึกสัญญาณชีพอาการและอาการแสดงทุก 15 นาทีในชั่วโมงแรกที่ให้สารน้ำทุกๆ 30 นาทีในชั่วโมงที่ 2 และทุกๆ 4 ชม.
        
        2.ทำหัตถการด้วยเทคนิคปลอดเชื้อ เพื่อไม่เป็นการเพิ่มการติดเชื้อในผู้ป่วย ลดการแพร่ระบาดเชื้อเช่นล้างมือก่อนและหลังทำหัตถการการส่ง
        ตรวจเพาะเชื้อ
        
        3.ดูแลให้ได้รับยา ATB Tazocin 2.25 gm + NSS 100 ml v q 8 hr. ตามแผนการรักษาของแพทย์
        
        4.ติดตามผลทางห้องปฏิบัติการ H/C ติดตามผลโลหิตวิทยาโดยดูจากเม็ดโลหิตขาว (WBC) และค่านิว
        โตรฟิว (neutrophil) เพื่อประเมินภาวะติดเชื้อ
    - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        SD
        
        ญาติผู้ป่วยให้ประวัติว่า เป็น ESRD มา 2 ปีและล้างไตที่รพ.บางนา 1 3ครั้ง/wk (จ พ ส) ก่อนไปล้างไตจะมีอาการเพ้อ สับสน ระหว่างล้างไตบางครั้งมีอาการความดันต่ำ อ่อนเพลียมาก และมีไข้ หลงล้างไตมีอาการ ซึมลง และอ่อนเพลียมากขึ้น
        
        OD
        
        ผู้ป่วยได้รับการฟอกไตทาง Prem-cath Rt subclavian
      - วัตถุประสงค์ทางการพยาบาล
        
        ลดภาวะของเสียคั่ง ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนหลังล้างไต
      - เกณฑ์การประเมินผล
        
        v/s อยู่ในเกณฑ์ปกติ
        
        ผลทางห้องปฏบัติการ BUN Cr Electrolyte อยู่ในเกณฑ์ปกติ
        
        ระดับความรู้สึกตัวปกติ ไม่มีอาการสับสน
        
        ไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนหลังล้างไต
      - กิจกรรมทางการพยาบาล
        
        1.ดูแลให้ได้รับ HD วันอังคาร ศุกร์ ตามแผนการรักษาของแพทย์
        
        หลังได้รับ HD
        
        วัดสัญญาณชีพ โดยเฉพาะความดันโลหิตทั้งท่านั่งและท่านอน
        
        ประเมินระดับความรู้สึกตัว
        
        ตรวจบริเวณรอยเเทงเข็มว่าไม่มีเลือดออก
        
        ประเมิน Vascular access คลำ trill ฟัง bruit
        
        ชั่งน้ำหนักหลังฟอกเลือด
        
        2.ดูแลให้ได้รับยา Furosemide 500 MG 1x1 ๐ pc เช้า Hold if BP <90/60 mmHg. ตามแผนการรักษาของแพทย์
        
        3.ติดตามผลทางห้องปฏิบัติการ BUN ,Cr,Electrolyte
    - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        SD
        
        OD
      - วัตถุประสงค์ทางการพยาบาล
        
        ลดภาวะติดเชื้อในระบบทางเดินปัสสาวะ
      - เกณฑ์การประเมินผล
        
        v/s อยู่ในเกณฑ์ปกติ
        
        ผลทางห้องปฏิบัติการ ไม่พบเชื้อ
      - กิจกรรมทางการพยาบาล
        
        1.ประเมินผลการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ สังเกตลักษณะของปัสสาวะขุ่นมากน้อยเพียงใด วัดอุณหภูมิของร่างกายทุก 4 ชั่วโมง
        
        Record I/O ทุก 8 ชม.
        
        4.ติดตามผลการตรวจปัสสาวะ Urine Culture และการตรวจเลี้ยงเชื้อภายหลังการรักษา
        
        3.ดูแลให้ได้รับยา ATB Tazocin 2.25 gm + NSS 100 ml v q 8 hr. ตามแผนการรักษาของแพทย์
        
        ดูแล สายสวนให้อยู่ในระบบปิด ไม่ให้สายหักพับงอ วางถุงให้ต่ำกว่าระดับเตียง เทน้ำปัสสาวะด้วยวิธีที่ถูกต้อง เพื่อไม่เป็นการเพิ่มเชื้อให้ผู้ป่วย
    - - ข้อมูลสนับสนุน
        
        SD
        
        OD
        
        มีรอยจ้ำเลือดบริเวณแขน
      - วัตถุประสงค์ทางการพยาบาล
        
        ไม่เกิดอันตรายจากภาวะเลือดออกง่าย
        หยุดยาก
      - เกณฑ์การประเมินผล
        
        ไม่มีรอยจ้ำเลือดบริเวณผิวหนัง
        
        ผล PT PTT INR ปกติ
      - กิจกรรมทางการพยาบาล
        
        1.ดูแลไม่ให้เกิดการพลัดตกหกล้มหรือได้รับการกระแทก
        
        3.ติดตามผลทางห้องปฏิบัติการ PT PTT INR
        
        2.แนะนำให้ญาติสังเกตอาการผิดปกติจากการใช้ยา เช่น จุดจ้ำเลือดตามตัว เลือดออกตามไรฟันปัสสาวะเป็นเลือด
    - - ก่อนทำ perm catheter
        
        ไม่ให้แขนข้างที่จะผ่าตัดถูกวัดความดันโลหิต เจาะเลือด หรือเข็มแทง
        
        งดยาแอสไพรินหรือยอื่นๆที่มีผลป้องกันการแข็งตัวของเลือด
        
        งดน้ำและอาหารอย่างน้อย 6ชม.ก่อนผ่าตัด
      - หลังทำ perm catheter
        
        ประเมินอาการและอาการแสดงที่ผิดปกติเกี่ยวกับสายสวนหลอดเลือดดำก่อนการใช้งาน เช่น การอักเสบ, บวม, แดง, กดเจ็บ,อาการปวด , มีหนอง, มีเลือดซึม ติดตามภาวะไข้
        
        ถ้าพบว่าสายสวนเลื่อนหลุดจากตำแหน่งเดิมให้ใช้พลาสเตอร์ยึดติดให้แน่นห้ามขยับสายสวนให้ลึกเข้าไปในหลอดเลือดและรายงานให้แพทย์ทราบทันที
        
        ประเมินสัญญาณชีพ
        
        post op
      - แนวทางการดูแล
        
        รักษาความสะอาดไม่แกะเกาบริเวณรอบแผลที่ปิดไว้
        
        ไม่ใส่เสื้อสวมศีรษะ เสื้อผ้าคอกลมเพื่อป้องกันการดึงรั้งของสาย
        
        ระวังไม่ให้แผลเปียกน้ำหากเกิดการเปียกน้ำให้ไปทำแผลภายนอกที่คลินิก หรือโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้บ้านทันที
        
        ผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านเกล็ดเลือดและยาละลายลิ่มเลือดชนิดรับประทานต้องแจ้งสิ่งผิดปกติ ได้แก่ จ้ำเลือด
        เลือดออกง่าย ก่อนทำการฟอกเลือดทุกครั้ง