CA LUNG WITH
CHRONIC HEART FAILURE

ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 72 ปี

พยาธิสภาพ

Present illness

  • 6 เดือนก่อนมาโรงพยาบาล ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยง่าย มารักษาตัวที่โรงพยาบาลตำรวจ พบ TB ได้รับยากลูโดซมีนซัลเฟตครบ 6 เดือน วันที่ มาF/U CT Chest พบ R/O Lung cancer
  • วันที่ 22 สิงหาคม 2562 เวลา 03.00 น. ผู้ป่วยมีอาการหายใจลำบาก หอบเหนื่อย รู้สึกหายใจไม่อิ่ม ไม่มีนอนราบไม่ได้ ไม่มีเจ็บหน้าอก ญาตินำส่งโรงพยาบาลไทรน้อย E4M6V5 RR 40 ครั้ง/นาที O2 99% ลดเหลือ80% แพทย์พิจารณาใส่ ET-TUBE No.7 Mark 21 แพทย์ให้พ่น Beradual 3 dose , Dexa 8 mg. BP 168/97 mm.Hg
  • วันที่ 23 สิงหาคม 2562 รับย้ายผู้ป่วยมาที่ โรงพยาบาลตำรวจตามสิทธิ์การรักษา ที่ ER ผู้ป่วยตื่นดี ไม่มีไข้ on ET-TUBE ไม่มีหายใจเหนื่อย ไม่มีเจ็บหน้าอก ไม่มีไข้
    V/S(23/สิงหาคม2562) :

Past history

Chief complaint

หายใจหอบเหนื่อย 1 hr. ก่อนมาโรงพยาบาล(รับ refer จากโรงพยาบาลไทรน้อย)

No U/D

  • EGD : Gastritis with H.pylori วันที่ 8/ตุลาคม/2561

-Colonoscopy วันที่ 8/ตุลาคม/2561 ไม่พบความผิดปกติ

-FNA (Fine Needle Aspiration) วันที่ 18/เมษายน/2562

-CT chest (10/ตุลาคม/2561): พบ Suspected Pulmonary TB at RUL

-CT whole abdomen (4/ตุลาคม/2561) : พบ Normal

-Chest x-ray (29/มีนาคม/2562) : suggestive of primary lung cancer with pleural and madiastinal node metastases

EKG (23/สิงหาคม/2562) : Sinus Tachycardia

General appearance

สาเหตุ

ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการ

CHF (Chronic heart disease) ภาวะหัวใจวาย

CA LUNG มะเร็งปอด

ผู้ป่วยหญิงไทย อายุ 72 ปี ผิวขาวเหลือง รู้สึกตัวดี ไม่มีสับสน พูดคุยรู้เรื่อง ผู้ป่วยหายใจ room air รับประทานอาหารได้เองทางปาก ผู้ป่ววย on nss lock ที่มือข้างขวา ผู้ป่วยใส่สายสวนปัสสาวะ ปัสสาวะมีสีเหลืองใส ไม่มีตะกอน ผู้ป่วยขับถ่ายอุจจาระได้เองบน Pampers ไม่มี foot drop ไม่มีข้อติดแข็ง ผู้ป่วยช่วยเหลือตนเองได้เล็กน้อย

ตรวจจุลชีววิทยา (วันที่ 26/สิงหาคม/2562)


pCO2 ต่ำ 31.1
pO2 สูง 231.7
HCO3 act ต่ำ 20.6
HCO3 std สูง 22.0
O2SAT สูง 99.7



แปรผล respiratory alkalosis

การสูบบุหรี่ หรืออยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีควันบุหรี่

อายุตั้งแต่ 65 ขึ้นไป

การสัมผัสสารก่อมะเร็ง เช่น ควันจากท่อไอเสีย

การรักษาด้วยการฉายแสงที่ทรวงอก

สมาชิกในครอบครัวเป็นโรคมะเร็งปอด

มลภาวะทางอากาศ

อาการแสดงที่พบบ่อย

ไอเรื้อรัง

ไอพร้อมมีเลือดออกมา

เจ็บหน้าอก

หายใจได้สั้นๆ

น้ำหนักลดโดยหาสาเหตุไม่ได้

เหนื่อยง่าย อ่อนแรง

ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล

การตรงจวินิจฉัยโรค

การตัดชิ้นเนื้อเพื่อวิเคราะห์ (biopsy)

การตรวจวินิจฉัยด้วยรังสี

การใช้เข็มขนาดเล็กตัดชิ้นเนื้อ (fine-needle aspiration)

การส่องกล้องตรวจภายในหลอดลม (bronchoscopy)

การใช้เข็มเจาะช่องเยื่อหุ้มปอดแทงผ่านผนังทรวงอก (thoracentesis)

การตรวจช่องกลางทรวงอกโดยการส่องกล้อง (mediastinoscopy)

การตรวจช่องทรวงอกโดยการส่องกล้อง (thorocoscopy)

การตรวจด้วยเครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan)

การตรวจด้วยเครื่อง PET scan (positron emission tomography scan)

และการตรวจโดยใช้คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MRI):

การรักษา

ขึ้นกับชนิดของเนื้อเยื่อมะเร็ง ระยะของโรค ขนาดของก้อนมะเร็งและระดับความสามารถของผู้ป่วย

การรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (small cell lung cancer, SCLC)

การรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งปอดชนิดเซลล์ไม่เล็ก (non-small cell lung cancer, SCLC)

การรักษาด้วยเคมีบำบัด

ในผู้ป่วยที่โรคยังไม่แพร่กระจาย การรักษาด้วยเคมีบำบัดควบคู่กับการฉายแสง

การรักษาจะขึ้นกับชนิดของเนื้อเยื่อมะเร็ง ระยะของโรค และระดับความสามารถของผู้ป่วย

ในผู้ป่วยที่ระยะการดำเนินไปของโรคยังไม่มากและไม่มีการแพร่กระจายของโรค การรักษามักทำโดยการผ่าตัด การฉายแสงหรือเคมีบำบัด

ในผู้ป่วยที่มะเร็งปอดอยู่ในระยะลุกลาม มักได้รับการรักษาด้วยการรักษาแบบเฉพาะเจาะจง (targeted therapy) และผู้ป่วยที่ไม่พบการกลายพันธุ์ของยีนควรได้รับการรักษาด้วยเคมีบำบัด

Problem List

ผู้ป่วยหายใจลำบาก หายใจหอบเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม นอนราบได้ ไม่มีแน่นหน้าอก ไม่มีเจ็บหน้าอก

มีประวัติเคยเป็น TB

-Chest x-ray (29/มีนาคม/2562) : suggestive of primary lung cancer with pleural and madiastinal node metastases

ชนิดของมะเร็งปอด

non-small cell lung cancer (NSCLC)

small cell lung cancer (SCLC)

Squamous cell carcinoma

Adenocarcinoma

Large cell carcinoma

Adenosquamous cell carcinoma

-CT chest (10/ตุลาคม/2561): พบ Suspected Pulmonary TB at RU

EBUS-TBNA วันที่ 11/เมษายน/2562 : พบ patho suspect malignancy with need for re-biopsy

มีเสมหะสีขาวขุ่น

EBUS-TBNA วันที่ 11/เมษายน/2562 : พบ patho suspect malignancy with need for re-biopsy

-FNA (Fine Needle Aspiration) วันที่ 18/เมษายน/2562

มีภาวะCHF (chronic heart failure)

ผู้ป่วยมีPleural Effusion หรือ ภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดขวา

การรักษา

การตรวจวินิจฉัย

สาเหตุ

ชนิดของภาวะหัวใจวาย

ภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน (acute heart failure) เป็นภาวะหัวใจล้มเหลวที่มีอาการเกิดขึ้นใหม่อย่างรวดเร็วหรือมีภาวะหัวใจล้มเหลวที่มีอาการคงที่แต่กลับแย่ลงในเวลาไม่นาน

ภาวะหัวใจล้มเหลวเรื้อรัง ( chronic heart failure) พบได้ในผู้ป่วยที่เคยได้รับการวินิจฉัยว่ามีภาวะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันมาก่อนหรือไม่ก็ได้ แต่ในขณะที่ทำการวินิจฉัยผู้ป่วยมีอาการของภาวะหัวใจล้มเหลวและ/หรือมีการทำงานที่ผิดปกติไปของหัวใจคงอยู่เป็นเวลานาน

อาการและอาการแสดง

อ่อนเพลีย เกิดจากการที่มีเลือดไปเลี้ยงกล้ามเนื้อต่างๆ ของร่างกายลดลง ทำให้ความสามารถในการทนต่อการทำกิจกรรมหรือความสามารถในการประกอบกิจวัตรประจำวันต่างๆ ของร่างกายลดลง

อาการหายใจเหนื่อย เป็นอาการสำคัญของภาวะหัวใจล้มเหลว โดยอาจมีอาการเหนื่อยในขณะที่ออกแรง อาการเหนื่อย/หายใจไม่สะดวกในขณะนอนราบ บางครั้งจะมีอาการไอในขณะนอนราบด้วย หรือในขณะนอนหลับต้องตื่นขึ้นเนื่องจากมีอาการหายใจไม่สะดวก

มีอาการบวมจากภาวะคั่งน้ำและเกลือ เช่น ที่เท้าและขามีลักษณะบวม กดบุ๋ม มีน้ำคั่งในปอดและอวัยวะภายใน เช่น มีตับ ม้ามโต มีน้ำในช่องท้อง ทำให้มีอาการท้องบวม ท้องโตขึ้น แน่นอึดอัด

การรักษาด้วยยา เช่น ยาขับปัสสาวะ ยาลดความดันโลหิต ยาเพิ่มการบีบตัวของหัวใจ ยากลุ่มลดการกระตุ้นระบบนิวโรฮอร์โมน ยาขยายหลอดเลือด ยาต้านเกล็ดเลือด ยาต้านภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ

การใช้เครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติชนิดฝังในร่างกาย การใช้เครื่องกระตุ้นหัวใจถาวรชนิดที่ทำให้หัวใจห้องล่างซ้ายและขวาบีบตัวพร้อมกัน ร่วมหรือไม่ร่วมกับเครื่องกระตุกหัวใจอัตโนมัติชนิดฝังในร่างกาย

การผ่าตัดใส่เครื่องช่วยการสูบฉีดเลือดของหัวใจ

การผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ การผ่าตัดลิ้นหัวใจรั่ว

ความดันโลหิตสูง

โรคลิ้นหัวใจ

กล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน

โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

ไม่ทราบสาเหตุ

การขยายหลอดเลือดหัวใจ (Angioplasty)

ภาพถ่ายทรวงอก X-ray

คลื่นไฟฟ้าหัวใจ (electrocardiography)

การตรวจเลือด

Complete blood count (CBC) : เพื่อตรวจหาภาวะซีด ซึ่งอาจ
ทำ ให้มีอาการเหนื่อย

การทำงานของไต (Renal function): การตรวจ BUN, creatinine
เพื่อประเมินการทำ งานของไต

การตรวจการทำงานของตับ (Liver function test)

การตรวจคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูงหัวใจ (echocardiography)

ข้อที่1

ผู้ป่วยมีภาวะพร่องออกซิเจน เนื่องจาก มีประสิทธิภาพในกาารแลกเปลี่ยนก๊าซลดลงจากภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด

ข้อมูลสนับสนุน
-ผู้ป่วยหายใจลำบาก หายใจหอบเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม นอนราบได้ ไม่มีแน่นหน้าอก ไม่มีเจ็บหน้าอก
-มีเสมหะสีขาวขุ่น
-Chest X-ray พบ pleural effusion
-เจาะ tapping ได้น้ำในปอดมีเลือดปน เจาะได้ Exudatate 500 ซีซี
-CT chest (10/ตุลาคม/2561): พบ Suspected Pulmonary TB at RU
-มีประวัติเคยเป็น TB
-chest X-ray พบ lung cancer
-ตรวจRadiologgy ในวันที่ 28/มิถุนายน/2562 พบ suggestive of progression primary lung node metastases พบ Fibrosis with traction bronchiectases RUL

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการแลกก๊าซ

เกณฑ์การประเมิน
1.ผู้ป่วยไม่มีภาวะซีด ไม่มีปากม่วงคล้ำ ไม่มีเขียวปลายมือปลายเท้า ลักษณะการหายใจปกติ ไม่มีหอบเหนื่อย
2.ประเมิน อัตราการหายใจปกติ อยู่ที่ 12-20 ครั้งต่อนาที O2ได้ > 95%

กิจกรรมการพยาบาล
1.สังเกตุและประเมินผู้ปป่วยไม่มีซีด ปากคล้ำ ปลายมือปลายเท้าเขียว ไม่มีหายใจหอบเหนื่อย ไม่มีกระสับกระส่าย
2.ประเมินสัญญาณชีพของผู้ป่วยทุก 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะ อัตราการหายใจและ O2 Saturation โดยให้อัตราการหายใจอยู่ในระดับปกติ 12-20 ครั้ง/นาที และ O2 Sat>95%
3.ฟังเสียงปอดผู้ป่วยไม่ความผิดปกติ ไม่พบเสียง wheezing
4.จัดท่าผู้ป่วยให้อยู่ในท่าศีรษะสูง จัดท่า Fowler's position หรือ จัดท่าให้ผู้ป่วยนั่งบนเตียงเพื่อเพิ่มการขยายตัวของปอด
5.วางแผนการทำหัตถการกับผู้ป่วยให้ผู้ป่วยได้พัก
6.สอนผู้ป่วยให้หายใจอย่างมีประสิทธิภาพ
7.ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง ดูดเสมหะในลำคอของผู้ป่วย
8.แนะนำให้ป่วยหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกเหนื่อย
9.ติดตามผล chest x-ray ตามแผนการรักษาของแพทย์เพื่อติดตามการรักษา

Pleural effusion

ตรวจเคมีคลินิก (วันที่ 26/สิงหาคม/2562)
Potassium K ต่ำ 3.29 (ค่าปกติ 3.5-5.1 mmol/L)


แปรผล มีภาวะ Hypokalemia

ตรวจโลหิตวิทยา (วันที่ 26/สิงหาคม/2562)


Hemoglobin Hb ต่ำ 11.8
Hematocrit HCT ต่ำ 36.4
แปรผล อาจมีภาวะซีด
WBC สูง 20.53
แปรผล มีการติดเชื้อในร่างกาย

ผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูงตั้งแต่ปี 2544 แต่ loss F/Uไป

ตรวจพบ NSTEMI ในวันที่23/สิงหาคม/2562

ตรวจRadiologgy ในวันที่ 28/มิถุนายน/2562 พบ suggestive of progression primary lung node metastases พบ Fibrosis with traction bronchiectases RUL

ตรวจ CT chest วันที่ 29/สิงหาคม/2562 พบ
-developed several nodules in left lung size up to 2.4 cm.
-fibrosis with traction bronchiectases at apical segment of RUL
-minimal fibrosis at left basal lung
-minimal increased enchancing and irregular thickening,suggestive of pleural metastasis
-increased size of a 3.1 x 2.5 cm. loculated pleural effusion at anteromedial aspect of right hemithorax.

มีไข้ต่ำๆ 37.9 องศาเซลเซียส วันที่ 27/08/62

วันที่ 26/08/62 ผลตรวจCBC พบ WBC สูง 20.53 มีHbต่ำ 11.8 Hct ต่ำ 36.4

ผู้ป่วยมีPleural Effusion หรือ ภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดขวา

เจาะ tapping ได้น้ำในปอดมีเลือดปน เจาะได้ Exudatate 500 ซีซี

ตรวจ E'lyte วันที่ 23/08/62 พบ Potassium ต่ำ 3.47
วันที่ 26/08/62 พบ Potassium ต่ำ 3.29

เจาะ tapping ได้น้ำในปอดมีเลือดปน เจาะได้ Exudatate 500 ซีซี

นำน้ำในปอดไปตรวจพบ LDH สูง 1,058 U/L

EKG (23/สิงหาคม/2562) : Sinus Tachycardia

ข้อที่3

ผู้ป่วยภาวะติดเชื้อที่ปอด

ข้อมูลสนับสนุน
-มีเสมหะสีขาวขุ่น
-มีไข้ต่ำๆ 37.9 องศาเซลเซียส วันที่ 27/08/62
-วันที่ 26/08/62 ผลตรวจCBC พบ WBC สูง 20.53
-เจาะ tapping ได้น้ำในปอดมีเลือดปน
เจาะได้ Exudatate 500 ซีซี นำน้ำในปอดไปตรวจพบ LDH สูง 1,058 U/L
-Chest X-ray พบ pleural effusion
-ผู้ป่วยมีPleural Effusion หรือ ภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดขวา


มีภาวะCHF (chronic heart failure)

วัตถุประสงค์
-เพื่อลดการติดเชื้อที่ปอด

เกณฑ์การประเมิน
1.ผู้ป่วยไม่มีไข้ อุณหภูมิอยู่ในเกณฑ์ปกติ 36.5 - 37.4 องศาสเซลเซียส
2.ผู้ป่วยไม่มีเสมหะหรือมีเสมหะลดลง
3.ติดตามผลตรวจWBC ในร่างกายให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ
4.ติดตามผลตรวจน้ำในเยื่อหุ้มปอด ค่าLDH อยู่ในเกณฑ์ปกติ <1000

กิจกรรมการพยาบาล
1.ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะอุณหภูมิ ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ 36.5 - 37.4 องศาสเซลเซียส
2.ดูแลดูดเสมหะ ช่วยทำให้ทางเดินหายใจโล่ง
3.ดูแลเช็ดตัวให้ผู้ป่วยเมื่อมีไข้ โดยให้เช็ดเข้าหาหัวใจเพื่อเปิดรูขุมขน
4.ดูแลทำความสะอาดปากและฟันให้ป่วย
5.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยา Tazocin 4.5 gm. v drip ตามแผนการรักษาของแพทย์ และสังเกตุอาการข้างเคียงของยา
6.ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับการพักผ่อนที่เพียงพอ

ข้อที่2

มีภาวะเนื้อเยื่อพร่องออกซิเจน เนื่องจากประสิทธิภาพการบีบตัวของหัวใจลดลง

ข้อมูลสนับสนุน
-ผู้ป่วยหายใจลำบาก หายใจหอบเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม นอนราบได้ ไม่มีแน่นหน้าอก ไม่มีเจ็บหน้าอก
-ผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูงตั้งแต่ปี 2544 แต่ loss F/Uไป
-ผู้ป่วยมีความดันโลหิตสูง keep<180/120 MAP>65
-ผู้ป่วยมีPleural Effusion หรือ ภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดขวา
-มีภาวะCHF (chronic heart failure)
-ตรวจพบ NSTEMI
วันที่23/สิงหาคม/2562
-EKG (23/สิงหาคม/2562) : Sinus Tachycardia
-ตรวจ E'lyte วันที่ 23/08/62 พบ Potassium ต่ำ 3.47
วันที่ 26/08/62 พบ Potassium ต่ำ 3.29

วัตถุประสงค์

  1. เพื่อส่งเสริมการแลกเปลี่ยนก๊าซที่ปอด


  2. เพื่อส่งเสริมให้เนื้อเยื่อได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ

ผู้ป่วยมีPleural Effusion หรือ ภาวะน้ำในช่องเยื่อหุ้มปอดขวา

วันที่ 26/08/62 ผลตรวจCBC พบมีHbต่ำ 11.8 Hct ต่ำ 36.4

ผู้ป่วยมีความดันโลหิตสูง keep<180/120 MAP>65

เกณฑ์การประเมิน
1.ผู้ป่วยไม่มีหายใจหอบเหนื่อย ไม่มีหายใจลำบาก ไม่ใช้กล้ามเนื้อในการหายใจ ไม่มีปลายมือปลายเท้าเขียวคล้ำ
2.อัตราการหายใจอยู่ในเกณฑ์ปกติ อยู่ที่ 12-20 ครั้งต่อนาที HR 60-100 bpm O2 saturation > 95% ความดันโลหิต <180/120 mm.Hg
3.EKG show NSR, no arrythmia
4.Chest x-ray ปกติ ไม่มีฝ่าที่Flim
5.ABG อยู่ในเกณฑ์ปกติ
6.ติดตามผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ E'lyte โดย
ให้ potassium อยู่ในเกณฑ์ปกติ

กิจกรรมการพยาบาล

  1. สังเกตุผู้ป่วยไม่มีอาการหายใจลำบาก หอบเหนื่อย ไม่มีcyanosis
    2.ประเมินสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง
    โดยเฉพาะ อัตราการหายใจอยู่ในช่วง 12- 20ครั้งต่อนาที อัตราการเต้นของหัวใจ 60 - 100 ครั้งต่อนาที ความดันโลหิต keep < 180/120 mm.Hg
    3.จัดท่าให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง จัดท่า high fowler's position ศีรษะสูง 30 - 45 องศา
    4.ให้ผู้ได้รับยา EKCl เมื่อผลตรวจทางห้องปฏิบัติการพบ Kต่ำกว่าปกติ ให้ผู้ป่วยได้รับตามแผนการรักษาของแพทย์ และติดตามอาการข้างเคียงจากยา
    5.สอนผู้ป่วยให้หายใจอย่างมีประสิทธิภาพ
    6.แนะนำให้ป่วยหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้รู้สึกเหนื่อย
    7.ติดตามผล chest x-ray, EKG ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการผล CBC E'lyte และค่าABG

ประเมินผล
ผู้ป่วยไม่มีภาวะ cyanosis ไม่มีหายใจหอบเหนื่อย หายใจลำบาก ผู้ป่วยหายใจ room air ได้เอง

ประเมินผล
ผู้ป่วยไม่มีไข้
ผลตรวจ CBC วันที่ 31/08/62 มีค่า WBC ปกติ 9.65 10^3/uL ผู้ป่วยไม่รับยา Tazocinแล้ว

ประเมินผล
ผู้ป่วยไม่มีภาวะ cyanosis ไม่มีหายใจหอบเหนื่อย หายใจลำบาก ผู้ป่วยหายใจ room air ได้เอง

Dischage Planing

การเตรียมผู้ป่วยกลับบ้านด้วยระบบ D METHOD

D (diagnosis)

M (medicine)

E (environment)

T (treatment)

H (health)

O(out patient referal)

D (diet)

แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรค CA Lung with Congestive heart failure หรือ โรคมะเร็งปอดร่วมกับภาวะหัวใจล้มเหลว

รับประทานยา

รับประทานยาตามแผนการรักษาของแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ไม่ขาดยา ไม่รับประทานยาอื่น นอกเหนือจากที่แพทย์สั่ง เช่น ยาหม้อ ยาลูกกลอน ฯลฯ

ให้มีการจัดการดูแลความสะอาด ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้าน อากาศถ่ายเทสะดวก ป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ

ดูแลสิ่งแวดล้อมภายในบ้านและบริเวณบ้านไม่ให้มีสิ่งกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการของโรค เช่น ป้องกันการสูบบุหรี่ภายในบ้าน

เฝ้าประเมินสังเกตอาการผิดปกติ หากพบอาการผิดปกติให้รีบมาพบแพทย์ทันที

มาตรวจตามนัดที่แพทย์นัดทุกครั้ง

หากมีอาการผิดปกติบ่อยครั้ง หรือไม่ดีขึ้นให้มาพบแพทย์ก่อนนัด

เลิกดื่มสุรา

หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูง ความคุมความดันโลหิต และระดับน้ำตาลในเลือด

มีการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับโรคอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 ครั้ง

หากมีอาการฉุกเฉินให้มารักษาตัวที่โรงพยาบาลใกล้บ้านก่อนที่จะส่งต่อมารักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ

บริโภคอาหารจำพวก ไม่เค็ม ไม่หวาน ไม่มีไขมันสูง

หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่แอลกอฮอล์ ชา กาแฟ หรือเครื่องดื่มชูกำลัง
เพื่อลดการกระตุ้นการทำงานของหัวใจ

ยาที่ผู้ป่วยได้รับ

For one day

For Continuous

23/08/62
-EKCl 50 ml.


-Berodual 1 nb


-fantanyl 50 mcg. v. STAT

27/08/62
-DTX premeal bid
keep 80 - 200 mg%

31/08/62
-Ativan 0.5 mg. 1TAB oral prn.

23/08/62
-Tazocin 4.5 gm. v. q 6 hrs. + NSS 100 ml.

25/08/62
-Beradual 1 nb. q 9.00 น
.
-fantanyl 50 mcg. v. STAT


-Dexa 4 mg. v. STAT


-Valium 5 mg. v. STAT

26/08/62

  • EKCl 50 ml.
  • MO. 4 mg. v. STAT
  • Berodual 1 nb q 6 hrs.

ข้อที่4

ผู้ป่วยวิตกกังวล เนื่องจาก ขาดความรู้เกี่ยวกับโรคที่เป็น

ข้อมูลสนับสนุน
-ญาติผู้ป่วยบอกว่า ผู้ป่วยไม่ทราบว่าตนเองเป็นโรคมะเร็ง
-ผู้ป่วยบอกว่าตนเองเป็นโรคน้ำท่วมปอด
-ผู้ป่วยมีความสงสัยว่าหัตถการต่างๆที่ต้องทำ ทำไปทำไม เป็นโรคร้ายแรงหรือไม่

วัตถุประสงค์
1.เพื่อไม่ให้ผู้ป่วยเกิดความวิตกกังวล

เกณฑ์การประเมิน
1.ผู้ป่วยไม่มีสีหน้าวิตกกังวล
2.ผู้ป่วยมีความรู้ในการดูแลตนเอง

กิจกรรมการพยาบาล
1.สังเกตุลักษณะสีหน้าทางของผู้ป่วย สังเกตุสีหน้าวิตกกังวล คิ้วขมวด
2.พูดคุยกับผู้ป่วยสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วย
3.เปิดโดอกาสให้ผู้ป่วยยระบายความรู้สึกต่าง ๆ
และซักถามข้อสงสัย โดยพยาบาลเป็นผู้ฟังที่ดี
4.. อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงโรคที่ผู้ป่วยเป็น และการดูแลตนเอง

  1. ให้ญาติมีส่วนร่วมในการดูแลและให้
    กำลังใจผู้ป่วย
    6.ให้กำลังใจและปลอบโยนผู้ป่วย
    7.ให้ความช่วยเหลือผู้ป่วยในการำทกิจกรรมโดยไม่ต้องรอผู้ป่วยขอความช่วยเหลือ
    8.แนะนำเทคนิคการผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง พูดคุย

ข้อที่5

การเตรียมความพร้อมให้ผู้ป่วยก่อนทำCT Chest

ข้อมูลสนับสนุน

  • ผู้ป่วยมีความสงสัยว่าหัตถการต่างๆที่ต้องทำ ทำไปทำไม เป็นโรคร้ายแรงหรือไม่
    -แพทย์นัด CT Chest ในวันที่ 6 / 09 / 62

วัตถุประสงค์
-ผู้ป่วยมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจก่อนไปทำหัตการ

เกณฑ์การประเมิน
1.ผู้ป่วยมีความพร้อมทั้งด้านร่างกายและจิตใจก่อนไปทำหัต
2.ผู้ป่วยไม่มีเกิดความสงสัยเกี่ยวกับการทำหัตการ

กิจกรรมการพยาบาล
1.สังเกตุลักษณะสีหน้าทางของผู้ป่วย สังเกตุสีหน้าสงสัย คิ้วขมวด
2.พูดคุยกับผู้ป่วยสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้ป่วย
3.เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยซักถามข้อสงสัย โดยพยาบาลเป็นให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้ป่วย
4.ให้ข้อมูลแก่ผู้ป่วยเพื่อเตรียมตัวก่อนไปทำ CT Scan โดย
-งดนํ้าและอาหารก่อนการตรวจ 6 ชั่วโมง
-แจ้งเจ้าหน้าที่เวลามานัดหรือก่อนรับการตรวจในกรณีต่อไปนี้
1สตรีตั้งครรภ์หรือสงสัยว่าตั้งครรภ์
2ผู้ป่วยเคยมีประวัติแพ้สารทึบรังสีมาก่อน
3ผู้ป่วยมีประวัติแพ้อาหารทะเล
4ผู้ป่วยมีประวัติแพ้ยาอื่นๆ
5ผู้ป่วยมีประวัติโรคประจำ ตัวต่างๆ เช่น โรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด และลมบ้าหมู เป็นต้น
-ผู้ป่วยต้องมีผลการทำงานของไต (Creatinine) ก่อนการตรวจไม่เกิน 3 เดือน
5.แนะนำญาติให้อยู่ดูแลผู้ป่วยและเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด

เปรียบเทียบกับผู้ป่วย

-ตรวจพบ NSTEMI ในวันที่23/สิงหาคม/2562
-ผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูงตั้งแต่ปี 2544 แต่ loss F/Uไป
-มีภาวะCHF (chronic heart failure)
-ตรวจ E'lyte วันที่ 23/08/62 พบ Potassium ต่ำ 3.47
วันที่ 26/08/62 พบ Potassium ต่ำ 3.29

เปรียบเทียบกับผู้ป่วย

  • Chest x-ray (29/มีนาคม/2562) : suggestive of primary lung cancer with pleural and madiastinal node metastases
  • ตรวจRadiologgy ในวันที่ 28/มิถุนายน/2562 พบ suggestive of progression primary lung node metastases พบ Fibrosis with traction bronchiectases RUL
  • ผู้ป่วยหายใจลำบาก หายใจหอบเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม นอนราบได้ ไม่มีแน่นหน้าอก ไม่มีเจ็บหน้าอก