กรณีศึกษาโรคติดเชื้อร่วมกับการตั้งครรภ์
(การติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบีในหญิงตั้งครรภ์)
นางปีบ ชาวเหนือ อายุ 43 ปี G4P0-2-1-2 บุตรคนแรกและคนที่สองคลอด เมื่ออายุครรภ์ 32 สัปดาห์ น้ำหนักแรกคลอด 2,200 กรัม ทั้งสองคน ครรภ์ที่สามแท้งเอง ไม่ได้ขูดมดลูก
ประวัติการตั้งครรภ์ปัจจุบัน
อายุครรภ์ 36 สัปดาห์ น้ำหนักก่อนตั้งครรภ์ 50 kg. ส่วนสูง 156 cm.
ประวัติการเจ็บป่วย
ปฏิเสธการมีโรคประจำตัว ปฏิเสธการผ่าตัด ปฏิเสธการแพ้ยา
ผลตรวจคัดกรองทาลัสซีเมีย
หญิงตั้งครรภ์ และสามี OF negative DCIP negative ]
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ
VDRL non-reactive, HbsAg positive, HbeAg positive,
Blood group O Rh positive, Hct 33%
การประเมินการตรวจร่างกาย / การประเมินการตรวจครรภ์
วันที่ตรวจ 14 ก.ค. 2562 น้ำหนัก 58 กก. BP 130/90 mmHg, Urine albumin negative, Urine sugar negative ระดับยอดมดลูก 2/3 > SP รู้สึกเด็กดิ้น FHS 156 ครั้ง/นาที ไม่พบบวม ไม่พบตกขาว ตรวจพบ มีไข้ ตัวตาเหลือง จึงส่งพบแพทย์
-
การรักษา
มารดา
ระยะตั้งครรภ์
1) ตรวจพบว่า HBeAg positive ให้การรักษาโดยเมื่อ GA 28-32 Wks. เริ่มให้ TDF 300 mg รับประทานวันละ 1 ครั้ง จนถึง 4 Wks. หลังคลอด
2) ตรวจ Cr หลังเริ่มให้ยา 4 Wks. เพื่อดูการทำงานของไต หากพบว่าการทำงานของไตผิดปกติควรปรึกษาอายุรแพทย์เพื่อปรับยา
3) การให้ความรู้เกี่ยวกับโรค สาเหตุ การติดต่อ การป้องกัน การแพร่กระจายเชื้อ การดำเนินของโรค เเละการรักษาพยาบาล เพื่อการป้องกันการกระจายเชื้อจากเเม่สู่ลูก
-
-
ระยะหลังคลอด
-
-
3) ส่งเสริมการเลี้ยงดูบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียว 6 เดือนและได้นานถึง 2 ปี แนะนำการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาได้อย่างถูกต้อง และการประเมินประสิทธิภาพของการให้นมบุตรที่จะช่วยป้องกันการเจ็บหัวนม หัวนมแตกมากจนเลือดไหลที่เพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อ
4) ให้คำแนะนำการเฝ้าระวังและการตรวจติดตามการดำเนินของโรคอย่างสม่ำเสมอ และแนะนำคู่สมรสที่เป็นพาหะให้รับการตรวจประจำปี
ทารก
ระยะตั้งครรภ์
1) หลีกเลี่ยงหัตถการความถี่สูงต่อการติดเชื้อไวรัสตับอักเสบบี ได้เเก่ chorionic sampling เเละ Amniocentesis
-
3) หากจำเป็นต้องทำ chorionic sampling เเละ Amniocentesis ควรแจ้งมารดาให้ทราบถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
-
ระยะหลังคลอด
-
2) ให้ HB Vaccine 0.5 ml เข้ากล้ามเนื้อโดยเร็วที่สุดภายใน 12 ชั่วโมงหลังคลอด และ 1 เดือนจากนั้นให้ DTP-HB ที่ 2,4,6 เดือน
3) หากน้ำหนักตัวทารกน้อยกว่า 2000 กรัม สามารถฉีด HB ได้ทันที แต่ให้นับเป็นเข็มพิเศษ เเล้วฉีดเข็มถัดไปเมื่ออายุ 1 เดือนหรือน้ำหนักตัวมากกว่า 2000 กรัม
-
การพยาบาล
มารดา
ระยะตั้งครรภ์
2) ควรใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์และควรให้สามีมาตรวจ ถ้าไม่มีภูมิคุ้มกันแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้องกันโรค
-
-
ระยะหลังคลอด
1) ส่งเสริมการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดา และควรให้เลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาอย่างเดียว 6 เดือน (Exclusive breastfeeding) และสามารถเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาได้ถึง 2 ปี แนะนำการเลี้ยงบุตรด้วยนมมารดาอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะท่าการให้นมบุตรที่ถูกวิธี การให้ทารกอมหัวนมอย่างถูกต้อง และการประเมินประสิทธิภาพของการให้นมบุตรที่จะช่วยป้องกันการเจ็บหัวนม หัวนมแตกมากจนเลือดไหลที่เพิ่มความเสี่ยงของการติดเชื้อ
ทารก
ระยะหลังคลอด
- ให้ HBIG 0.5 ml. เข้ากล้ามโดยเร็วที่สุด ถ้าไม่ให้ทันที ให้พยายามหา HBIG ให้ทารกภายใน 7 วันหลังคลอด หากเกิน 7 วันจะไม่มีประโยชน์
- ให้ HB Vaccine 0.5 ml. เข้ากล้ามโดยเร็วที่สุด ภายใน 12 ชั่วโมง หลังคลอดและ 1 เดือน จากนั้นให้ DTP-HB ที่ 2,4,6 เดือน
- ทารกน้ำหนักตัวน้อยกว่า 2,000 กรัม สามารถฉีด HB ได้ทันที แต่ให้นับเป็นเข็มพิเศษ แล้วฉีดเข็มถัดไปเมื่ออายุ 1 เดือน หรือน้ำหนักตัวมากกว่า 2,000 กรัม
- ทารกสามารถดูดนมมารดาตามปกติ ยกเว้น มารดาที่มีหัวนมแตกหรือแผล
- ติดตามทารกเมื่ออายุครบ 12 เดือน เพื่อพิจารณาเจาะเลือดตรวจ HBsAg และ Anti-HBs
-
-
-
ระยะคลอด
- ควรรีบดูดสารคัดหลั่งออกจากปากและจมูกทารกให้เร็วที่สุด เช็ดตาและดูแลความสะอาดร่างกายทารกทันที
ระยะตั้งครรภ์
- หลีกเลี่ยงหัตถการความถี่สูงต่อการติดเชื้อ
-
-
- อาจทำการตรวจด้วยวิธี non-invasive prenatal testing ทดแทน
- หากจำเป็นต้องทำ Chorionic sampling และ Amniocentesis ควรแจ้งมารดาให้ทราบถึงความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้น
ความผิดปกติ
-
-
เคยคลอดบุตรน้ำหนัก < 2,500 gm.
(G1 และ G2 น้ำหนักแรกคลอด 2,200 gm.)
-
-
-
-
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการผิดปกติ (HbsAg positive, HbeAg positive)
-
-
-
ภาวะเเทรซ้อน
ยารับประทานกลุ่ม nucleoside analog reverse transcriptase inhibitor โดยยาออกฤทธิ์ยับยั้งการแบ่งตัวเพิ่มของไวรัส จึงต้องทานตลอดชีวิต
-
ยาฉีดกลุ่ม Peg Interferon ออกฤทธิ์กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกายให้มาทำลายไวรัส S/E คือ ไข้ ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร น้ำหนักลด ผมร่วง เม็ดเลือดขาวต่ำ เกล็ดเลือดต่ำ เกิดการกำเริบของโรคไทรอยด์ โรคภูมิคุ้มกันทำลายตัวเอง โรคจิตประสาท โรคซึมเศร้า และมีตับอักเสบ
-
การติดตามการรักษา โดยการตรวจทาง serology หากการรักษาประสบผลสำเร็จ จะพบ viral load ลดลง และเกิด seroconversion จาก HbeAg positive เป็น negative จากนั้น HbsAg positive เป็น negative ตามมา
-
-
ข้อวินิจการพยาบาล
- ทารกมีโอกาสตายในครรภ์ เนื่องจากมารดาติดเชื้อไวรัสตับอักเสบ บี
- ทารกในครรภ์เสี่ยงต่อการเกิดภาวะ IUGR เนื่องจากระดับยอดมดลูกไม่สมดุลกับอายุครรภ์
- เสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนดเนื่องจากมีการติดเชื้อขณะตั้งครรภ์
- เสี่ยงต่อภาวะครรภ์เป็นพิษเนื่องจากมารดามีอายุมาก