Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Hypertension in pregnancy (ปัจจัยเสี่ยง (ระยะห่างของการตั้งครรภ์จากครั้งก่…
Hypertension in pregnancy
ปัจจัยเสี่ยง
ระยะห่างของการตั้งครรภ์จากครั้งก่อน>10ปี
หญิงตั้งครรภ์ที่เคยมีภาวะครรภ์เป็นพิษ
หญิงตั้งครรภ์อายุ <18 ปี หรือ >35ปี
มีโรคประจำตัว เช่น HT DM SLE ไต ลูปัส
G1 หรือ G1กับคู่สมรสใหม่
พี่น้องสายตรงมีภาวะความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
ครรภ์แฝด
ความหมาย
BP > 140/90 mm.Hg
อาจมีหรือไม่มีภาวะบวมก็ได้
มีโปรตีนรั่วในปัสสาวะ
อาการและอาการแสดง
BP สูง / Plt ต่ำ / การทำงานของตับผิดปกติ
หน้าหรือมือบวม
มีโปรตีนในปัสสาวะ / ปัสสาวะออกน้อย
ปวดลิ้นปี่ หายใจลำบาก
ปวดหัวตลอดเวลาบริเวณท้ายทอย/ตาพร่ามัว
น้ำหนักขึ้นอย่างรวดเร็ว คลื่นไส้อาเจียนในไตรมาสที่ 2
ระดับความรุนแรง
Mild preeclampsia
BP ไม่เกิน 160/110 mm.Hg หรือมีโปรตีนรั่วในปัสสาวะไม่เกิน 2 กรัมต่อวัน หรือไม่มีภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น เกล็ดเลือดต่ำ ไตวาย IUGR
Severe preeclampsia
BP > 160/110 mm.Hg หรือมีโปรตีนรั่วในปัสสาวะเกิน 2 กรัมต่อวัน หรือมีภาวะแทรกซ้อนต่างๆ เช่น ปวดศีรษะมาก ตาพร่ามัว เกล็ดเลือดต่ำไตวาย
ชนิด
Chronic hypertension คือ ความดันโลหิตสูง ซึ่งพบก่อนการตั้งครรภ์หรือก่อนอายุครรภ์ 20 สัปดาห์ หรือภาวะความดันโลหิตสูงยังคงอยู่นานกว่า 12 สัปดาห์หลังคลอด
Preeclampsia คือ ความดันโลหิตตั้งแต่ 140/90mmHg ซึ่งพบเป็นครั้งแรกขณะ ตั้งครรภ์และมีโปรตีนในปัสสาวะ (300 mg./24hr. หรือ urine protein โดย random specimen ตั้งแต่ 30mg/dl หรือ dipstick test ตั้งแต่ 1+)
Gestationl hypertension (Transient hypertension) คือ ความดันโลหิตตั้งแต่ 140/90 mm.Hg ซึ่งพบเป็นครั้งแรกขณะตั้งครรภ์ โดยไม่มีโปรตีนในปัสสาวะ (proteinuria) เมื่อหลังคลอด 12 สัปดาห์ ความดันโลหิตจะต้องลดลงเป็นปกติ
Eclampsia คือ พบในผู้ป่วย Preeclampsia ที่มีภาวะชักซึ่งหาสาเหตุอื่นไม่พบร่วมด้วย
Superimposed preeclampsia คือ ภาวะ preeclampsia เกิดกับผู้ป่วยที่มีภาวะ chronic hypertension การวินิจฉัยภาวะ Superimposed preeclampsia ในผู้ป่วยที่ไม่มีโปรตีนในปัสสาวะอยู่ เดิมใช้เกณฑ์การตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะ 300 mg./24hr. สําหรับผู้ป่วยที่มีโปรตีนในปัสสาวะอยู่เดิมใช้เกณฑ์การตรวจพบโปรตีนในปัสสาวะสูงขึ้นอย่างชัดเจน หรือความดันโลหิต Systolic สูงขึ้น 30 mm.Hg หรือความดันโลหิต diastolic สูงขึ้น 15 mmHg หรือเกล็ดเลือดเล็กน้อยกว่า 100,000 mm3
การรักษาและการป้องกัน
การดูแลตนเองที่บ้าน : สังเกตอาการบวม การดิ้นของทารก ปวดศีรษะ ตาพร่ามัว นอนพักในท่าตะแคง ชั่งน้ำหนักตัวทุกวัน รับประทานอาหารโดยควบคุมอาหารเค็มให้อยู่ระดับปานกลาง
การรักษาตัวในโรงพยาบาล : นอนตะแคงซ้าย ควบคุมอาหารเค็ม ตรวจสภาพทารกในครรภ์ ให้ยาสเตียรอยด์
ผลต่อมารดาและทารก
IUGR
ชัก เลือดออกในสมอง HF รกลอกตัวก่อนกำหนด ตับแตก ตกเลือด