Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
วิเคราะห์พระมหากษัตริย์ไทยที่มีส่วน ต่อการสร้างสรรค์ชาติไทย…
วิเคราะห์พระมหากษัตริย์ไทยที่มีส่วน
ต่อการสร้างสรรค์ชาติไทย
ด้านกฎหมาย
ลดภาษีอากร ลดหย่อนค่านา ยกเลิกการเก็บอากรตลาด เปลี่ยนเป็นเก็บภาษีโรงร้านเรือนแพจากผู้ค้าขายรายใหม่ และมีการนำภาษีที่ยกเลิกแล้วมาใช้ใหม่ เช่น
ภาษีฝิ่น
เพื่อเป็นการจำกัดและควบคุมการดูดฝิ่นของประชาชน
ต่อมาได้มีการยกเลิกการเสพและค้าฝิ่นโดยเด็ดขาดในปี พ.ศ. 2502
ภาษีปลาทูสด ปลาทู
ที่เกิดจากการประมูลของภาคเอกชน และได้รับสิทธิผูกขาดจากรัฐบาล ต่อมาได้มีการยกเลิกในปี พ.ศ. 2470
อากรมหรสพ
เพื่อจัดเก็บรายได้จากผู้จัดมหรสพ
พระราชบัญญัติใหม่ให้การซื้อขายทาส เป็นไปด้วยความยินยอมของเจ้าตัวที่จะถูกขายเป็นทาสเท่านั้น
ออกพระราชบัญญัติกำหนดใช้ค่าที่ดินให้ราษฎร
ด้านวรรณคดีพระพุทธศาสนา
พระองค์ทรงเอาพระทัยใส่ทำนุบำรุงเป็นอย่างดี
บทพระราชนิพนธ์ที่สำคัญ
ชุมนุมพระบรมราโชบาย 4 หมวด
หมวดวรรณคดี โบราณคดี ธรรมคดี และตำรา
ตำนานเรื่อง พระแก้วมรกต เรื่องปฐมวงศ์
ทรงริเริ่มให้มีการค้นคว้าศิลาจาลึกในประเทศไทยขึ้นเป็นครั้งแรก คือ จารึกหลักที่ 1 ของพ่อขุนรามคำแหงและ
จารึกหลักที่ 4 ของพระยาลิไทย
ด้านพระพุทธศาสนา
พระองค์ทรงฟื้นฟูพระพุทธศาสนาให้รุ่งเรือง โดยทรงตั้งธรรมยุตติกาวงศ์ขึ้น เป็นนิกายใหม่ในพระพุทธศาสนา ที่มีความเคร่งครัดในพระธรรมวินัยและระเบียบแบบแผน ด้านพระพุทธศาสนา
ด้านความสัมพันธ์กับต่างประเทศ
สนธิสัญญาเบาริง
เกิดจากการประเทศอังกฤษเป็นประเทศแรกที่เข้ามาเจริญสัมพันธไมตรีกับประเทศไทย โดยสมเด็จพระนางเจ้าวิคตอเรีย พระบรมราชินีนาถแห่งอังกฤษ
ได้ส่งราชทูตชื่อ เซอร์ จอก๋วยเตี๋ยวเบารองนำพระราชสาสน์และเครื่องราชบรรณาการเข้ามาขอเจริญพระราชไมตรีด้วยในปี พ.ศ.2398
ข้อดี
2.การยกเลิกระบบการค้าผูกขาดมาเป็นการค้าแบบเสรีทำให้เศรษฐกิจของประเทศเติบโตอย่างรวดเร็ว
3.คนในประเทศมีฐานะดีขึ้น เพราะการค้าเปิดกว้าง
1.ทำให้ประเทศไทยรักษาความเป็นเอกราชได้ตลอดมา
ข้อเสีย
1.ไทยถูกจำกัดให้เก็บภาษีขาเข้าที่อัตราร้อยละ 3
2.ชาวอังกฤษทำผิด ไม่ต้องขึ้นศาลไทย
ด้านการศึกษาศิลปวิทยา
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ จัดตั้งโรงอักษรพิมพ์การขึ้นในพระบรมมหาราชวัง ผลิตข่าวสารของทางราชการเผยแพร่ให้ราษฎรได้ทราบทั่วถึงกันใช้ชื่อว่า
ราชกิจจานุเบกษา ซึ่งยังคงพิมพ์มาจนถึงปัจจุบัน
ด้านโหราศาสตร์
ทรงแต่งตำราทางโหราศาสตร์ที่เรียกว่า "เศษพระจอมเกล้า" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตำราที่ได้รับการยอมรับว่าแม่นยำ
และทรงได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติว่าทรงเป็น
“พระบิดาแห่งโหราศาสตร์ไทย”
ให้ก่อสร้าง พระที่นั่งภูวดลทัศไนย เพื่อใช้เป็นหอนาฬิกาหลวงบอกเวลามาตรฐานของไทย
ด้านวิทยาศาสตร์
ทรงเป็นนักดาราศาสตร์ไทย
ทรงการคำนวณการเกิดสุริยุปราคาเต็มดวง
ได้อย่างแม่นยำล่วงหน้า 2 ปี
พระองค์ยังทรงเป็น“พระบิดาแห่งวิทยาศาสตร์ไทย”
โดยอนุมัติให้วันที่ 18 สิงหาคมของทุกปีเป็น
วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ
ด้านประเพณีและวัฒนธรรม
ทรงยกเลิกพิธีการห้ามประชาชนเข้าเฝ้าหรือจ้องมองพระเจ้าแผ่นดิน
ให้ประชาชนเข้าเฝ้าได้โดยทั่วถึง พร้อมกับพระราชทานพระบรม
ราชานุญาตให้ประชาชนถวายฎีการ้องทุกข์กับพระองค์
รัชกาลที่ 4 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างวัดต่างๆ ได้แก่
วัดมกุฏกษัตริยาราม
วัดโสมนัสวิหาร
วัดราชประดิษฐ์
วัดปทุมวนาราม
ทรงริเริ่มให้สตรีในราชสำนักได้มีโอกาสเล่าเรียนวิชาภาษาอังกฤษจากสตรีในคณะมิชชันนารีอเมริกัน นับเป็นการเปลี่ยนแปลงแนวความคิดทางการศึกษาของสตรีอย่างที่ไม่เคยมี
มีประกาศให้ข้าราชการสวมเสื้อเวลาเข้าเฝ้า ให้ชาวตะวันตกที่อยู่ในกรุงเทพฯ
เข้าเฝ้าขณะเสด็จออกมหาสมาคมพร้อมกับข้าราชการไทยเป็นครั้งแรก
ด้านการเปลี่ยนชื่อประเทศ
ในปีพ.ศ. ๒๓๙๘ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำริว่า ควรเปลี่ยนชื่อประเทศจากกรุงศรีอยุธยาเป็นสยามเนื่องจากกรุงศรีเป็นชื่อของราชธานีเดิมเมื่อเปลี่ยนที่ตั้งราชธานีแล้วควรเปลี่ยนชื่อประเทศใหม่ เพื่อเป็นการแสดงให้รู้ว่ามีการย้ายเมืองหลวงมาตั้งในสถานที่ใหม่แล้ว
ด้านการปกครอง
ให้มีการจัดตั้งตำรวจนครบาลขึ้นเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองหรือ ชาวบ้านเรียกว่า หัวแดงแข้งดำ พร้อมกับทรงจัดตั้งศาลยุติธรรม และโปรดเกล้าฯ ให้แก้ไขกฎหมายให้ทันสมัยและเป็นสากลมากขึ้น
ด้านสังคม
ชาวต่างประเทศทำค้าขายกับชาวไทยมากขึ้น จึงนำเหรียญของชาติตนเองมาแลกกับเงินพดด้วง กับรัฐบาลไทย แต่เงินพดด้วงไม่เพียงพอความต้องการ เนื่องจากทำด้วยมือ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้สร้างโรงกษาปณ์แห่งแรกของไทยเริ่มใช้เหรียญกษาปณ์ ที่ทำจากเครื่องจักร
ทรงเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์แรกที่ร่วมดื่มน้ำ
พระพิพัฒน์สัตยาร่วมกับข้าราชการ
อันหมายถึงการดื่มน้ำที่เสกแล้วเพื่อสาบานตนว่า จะซื่อสัตย์ไม่คดโกง และจงรักภักดี