Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลมารดาที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะหลังคลอด 1 (Postpartum complications)
การพยาบาลมารดาที่มีภาวะแทรกซ้อนในระยะหลังคลอด 1
(Postpartum complications)
การบวมคั่งของเลือด(Hamatoma)
เป็นภาวะที่มีการฉีกขาดของเส้นเลือดดำบริเวณเนื้อเยื่อเกี่ยวพันของอวัยวะสืบพันธ์ภายนอก
ชนิดของ Hamatoma
ตำแหน่งสูงกว่ากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน(Supralevator)
จะไม่มีลักษณะบวมเลือดให้เห็นทางช่องคลอด แต่ผู้ป่วยจะมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง
ตำแหน่งต่ำกว่ากล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน(Infralevator)
มักเกิดขึ้นบริเวณอวัยวะสืบพันธ์ภายนอก ฝีเย็บ และปากช่องคลอด มีลักษณะบวมเลือดให้เห็น
สาเหตุ
การตัดแผลฝีเย็บที่ไม่เหมาะสม
บีบคลึงมดลูกรุนแรงทำให้เลือดคั่งเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ใต้เยื่อบุช่องท้องและใน Broad ligament
การคลอดที่รวดเร็วจนเส้นเลือดดำฉีกขาด
การเย็บซ่อมแซมแผลฝีเย็บไม่ถึงก้นแผล
อาการและอาการแสดง
ตรวจพบก้อนบวม โป่งแข็งที่แผลฝีเย็บ ส่วนใหญ่ก้อนจะใหญ่ขึ้นเรื่อยๆและมีสีม่วงคล้ำ
อาจพบปัสสาวะไม่ได้
ปวดหน่วงแผลฝีเย็บ และช่องคลอดอย่างรุนแรง
การรักษาพยาบาล
หากก้อนมีขนาดเล็กเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 5 cm ให้ประคบน้ำแข็งเพื่อลดอาการปวดและบวม
ควรทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ทุกครั้งหลังการขับถ่ายอุจจาระ
พยาบาลหลังคลอดควรประเมินแผลฝีเย็บทันทีเมื่อแรกรับ
ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2-3 ชั่วโมง
มดลูกเข้าอู่ช้า(Subinvolution of Uterus)
ภาวะที่มดลูกใช้เวลาคืนสู่ภาวะปกติภายหลังคลอดมากกว่า 6 สัปดาห์ขึ้นไป
สาเหตุ
การผ่าคลอดทางหน้าท้อง
ภาาวะที่ทำให้มกลูกมีการยืดขยายมาก เช่น ครรภ์แฝด ทารกตัวโต
มีเศษรกหรือเยื่อหุ้มรกค้างในมดลูก
ไม่ได้ให้ลูกดูดนม
อาการและอาการแสดง
น้ำคาวปลาออกนานหรือปริมาณมากกว่าปกติ
ตรวจพบลักษณะของมดลูกหดรัดตัวไม่ดี
ระดับยอดมดลูกไม่ลดลงตามปกติ
มีอาการปวดมดลูกผิดปกติเกิน 72 ชม.
การรักษาพยาบาล
ประเมินระดับมดลูกวันละ 1 ครั้งในเวลาเดียวกัน และด้วยวิีที่เหมือนเดิม
ดูแลและกระตุ้นให้บุตรดูดนมแม่ทุก 2-3 ชม.
ประเมินการหดรัดตัวของมดลูกใน 2 ชม. แรกหลังคลอด ทุก 15 นาที
หลีกเลี่ยงไม่ให้กระเพาะปัสสาวะเต็ม
การติดเชื้อหลังคลอด(Puerperal infection)
ภาวะที่มีการติดเชื้อของระบบอวัยววะสืบพันธ์หลังคลอดบุตรทางช่องคลอด โดยทั่วไปมีตัวบ่งชี้จาก มีไข้ที่อุณหภูมิ 38 องศาเซลเซียส อย่างน้อย 2 ครั้งในระยะ 10 วันแรก
ปัจจัยเสี่ยงภาวะติดเชื้อหลังคลอด
การผ่าตัดคลอดบุตร
มีภาวะถุงน้ำคร่ำแตกก่อนการเจ็บครรภ์อยู่นาน
ภาวะซีด
อาการและอาการแสดง
น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็น และไหลนานกว่าปกติ
กรณีมีการอักเสบ อาจมีอาการปวดมากกว่าปกติร่วมกับมีแผลผ่าตัดบวมแดง แผลแยก ขอบไม่ติด
ไข้ อุณหภูมิระหว่าง 38-39 องศาเซลเซียส อาจมีปวดศีรษะ หรือปวดหลังร่วมด้วย
การรักษาพยาบาล
การพักผ่อนและได้รับสารน้ำและอาหารที่เพียงพอ
ประเมินการหดรัดตัวและระดับของมดลูก รวมทั้งปริมาณ สี และกลิ่นน้ำคาวปลา
เมื่อมีการติดเชื้อจะได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ
การพยาบาลหลัก Aseptic Technigue
ผลกระทบ
ปวดท้องน้อยเรื้อรัง
มีพังผืดในช่องท้อง
ทำให้มดลูกเข้าอู่ช้ากว่าปกติ
เต้านมอักเสบเป็นฝี(Breast abscess)
ภาวะที่มีหนองเฉพาะที่ภายในเต้านม เป็นผลมาจากการอักเสบที่รุนแรงของเต้านม
ปัจจัยเสี่ยง
แม่ให้ลูกดูดนมไม่ถูกวิธี
ท่อน้ำนมอุดตัน
ลูกดูดนมออกไม่เกลี้ยงเต้า ทำให้มีน้ำนมค้างในเต้านม
อาการและอาการแสดง
เต้านมมีสีแดงคล้ำ ปวดถ่วงที่เต้านมกว่าปกติ
เต้านมข้างที่เป็นฝีน้ำนมไม่ไหล หรืออาจพบว่าน้ำนมมีสีเขียวปนเหลืองคล้ายหนอง
เจ็บที่เต้าคลำได้ก้อน
การรักษาพยาบาล
ในกรณีที่สีน้ำนมไม่เปลี่ยน หรือตรวจไม่พบเชื้อโรคในน้ำนม จะต้องกระตุ้นให้ลูกดูดนมข้างที่เป็นก่อน โดยใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นจัดประคบที่เต้านม ก่อนให้นมบุตร
กระตุ้นให้มารดาหลังคลอดดื่มน้ำมากๆ ร่วมกับนมต่างๆอย่างน้อยวันละประมาณ 3,000 มิลลิลิตร
ในกรณีที่ให้งดดูดเต้านมข้างที่เป็นก่อน ต้องดูแลช่วยเหลือมารดาในการทำให้เต้านมข้างที่เป็นว่าง
หลังจากลูกดูด หรือหลังบีบน้ำนม ใช้ความเย็นประคบเพื่อลดอาการปวด และลดบวม
หลอดเลือดดำอักเสบจากการอุดตัน(Thrombophlebitis)
ภาวะที่มีก้อนหรือลิ่มเลือดภายในหลอดเลือด ทำให้เส้นเลือดบางส่วนเกิดการอุดตัน ทำให้อวัยวะส่วนนั้นบวมแดงอักเสบ
แบ่งการอุดตันได้ 3 ประเภท คือ
การอุดตันของหลอดเลือดที่อยู่ลึก(Deep venous thrombosis )
การอุดตันของหลอดเลือดที่ปอด(Pulmonary embolism)
การอุดตันอักเสบของหลอดเลือดระดับตื้น(Superficial venous thrombosis)
สาเหตุ
การมีบาดแผลที่ผนังด้านในของหลอดเลือดำ
เลือดแข็งตัวได้ง่าย
การเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนของเลือดดำ
อาการและอาการแสดง
ปวดเวลาเดิน กดเจ็บ คลำร้อน
มีการเปลี่ยนสีที่ผิวหนัง เริ่มแรกจะมีสีแดงหากนานไปจะเปลี่ยนเป้นสีคล้ำ
เท้าและขาบวมใหญ่ขึ้น
มีอาการปวดที่น่องเมื่อ กระดกปลายเท้าขึ้น(Positive homan's sign)
การรักษาพยาบาล
กระตุ้นให้มีการเคลื่อนไหวโดยเร็วที่สุด (early ambulation)
แนะนำให้ยกขาสูงกว่าหัวใจเพื่อเพิ่มการไหลกลับของเลือดดำ
ให้ยาละลายลิ่มเลือด และยากิน เช่น Heparin, Warfarin
กระตุ้นให้บริหารเท้าและข้อเท้า
ภาวะอารมณ์เศร้าหลังคลอด(Postpartum blues)
เป็นสภาวะทางจิตใจที่ผู้หญิงหลังคลอดบุตรรู้สึกซึมเศร้า กังวล ไม่สดชื่น ถือว่าเป็นภาวะที่เกิดขึ้นชั่วคราว มักเกิดขึ้นนในวันที่ 4-5 วันหลังคลอด แต่ไม่เกิน 2 สัปดาห์
สาเหตุ
การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน และโปรเจสเตอโรน อย่างมากในช่วงหลังคลอด รวมทั้งการสูญเสียพลังงานในระยะคลอด
อาการ
นอนไม่หลับ, รู้สึกเศร้า อยากร้องไห้, อ่อนเพลีย, วิตกกังวลง่าย, ไม่ค่อยมีสมาธิ, ปวดศีรษะ
การบำบัดรักษา
แนะนำให้สามีและครอบครัวให้กำลังใจ อยู่เป็นเพื่อน ไม่ไปให้ความสำคัญกับลูกจนลืมความสำคัญของมารดาที่ตั้งครรภ์มา
การพักผ่อนอย่างเพียงพอ
ให้ความมั่นใจและกำลังใจกับมารดาหลังคลอดว่า อาการนี้เป็นภาวะปกติ พบได้บ่อยและจะหายไปได้เอง
ควรติดตามอาการอย่างต่อเนื่องเพื่อแยกออกจากอาการของภาวะซึมเศร้าหลังคลอด
ภาวะซึมเศร้าหลังคลอด(Postpartum Depression)
เป็นความผิดปกติทางด้านจิตใจ อารมณ์ และมีการรับรู้ลกลง มักเกิดขึ้นภายใน 4 สัปดาห์หลังคลอด และมีอาการนานกว่า 2 สัปดาห์
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
มารดามีอายุน้อย
สูญเสียความเป็นตัวของตัวเอง หรือถูกครอบครัวและสังคมทอดทิ้ง
การสูญเสียคุณค่าในตนเองในระยะตั้งครรภ์ ส่วนใหญ่เกิดจากความไม่พร้อมในการตั้งครรภ์
มีประวัติซึมเศร้าก่อนตั้งครรภ์
อาการและอาการแสดง
ปัญหาการนอนหลับ เช่น นอนไม่หลับหรือนอนมากเกินไป
มีความคิดที่จะฆ่าตัวตาย
ความวิตกกังวล อารมณ์แกว่งอย่างไม่มีเหตุผล
ขาดความสนใจในตัวลูก
ฉุนเฉียวง่ายหรืออารมณ์โกรธ
การรักษาพยาบาล
แยกลูกออกไปก่อนเพื่อป้องกันการทำร้าย
หากมีอาการควรประเมินอาการเบื้องต้นทันทีทุกราย
ปรึกษาจิตแพทย์ เพื่อให้การวินิจฉัยและบำบัดรักษา
Sheehan syndrom
ภาวะที่ต่อมใต้สมอง เกิดการขาดเลือดไปเลี้ยงอย่างเฉียบพลันทำให้ต่อมใต้สมองส่วนหน้าสูญเสียการทำงาน มีผลให้ต่อมไร้ท่อที่ผลิตฮอร์โมนต่างๆในร่างกายเปลี่ยนแปลงไป
สาเหตุ
มีการเสียเลือดระหว่างตั้งครรภ์ หรือการตกเลือดหลังคลอดอย่างรุนแรง
สตรีที่มีภาวะตกเลือดก่อนคลอด หรือตกเลือดหลังคลอดอย่างรุนแรง
สตรีที่มีภาวะการแข็งตัวของเลือดผิดปกติทั่วร่างกาย
อาการและอาการแสดง
การทำงานต่อมหมวกไตผิดปกติ
การไม่ผลิตน้ำนม
ความรุนแรงขึ้นอยู่กับการสูญเสียการทำงานของต่อมใต้สมองส่วนที่สร้างฮอร์โมนชนิดใดเสียไปหรือได้รับผลกระทบจากการขาดเลือด
มีอาการฮอร์โมนไทรอยด์ต่ำ
มีอาการอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า เบื่ออาหาร ขี้หนาว มักตรวจพบว่าผู้ป่วยมีอาการซูบผอม ซีด ความดันต่ำ ผิวหนังแห้งหยาบ
การรักษาพยาบาล
การป้องกันระยะ 24 ชม. หลังคลอดต้องเฝ้าระวังภาวะตกเลือดหลังคลอดอย่างใกล้ชิด
การให้ลูกดูดนมทุก 2-3 ชม. เพื่อกระตุ้นการหลั่ง Oxytocin กระตุ้นให้มดลูกหดรัดตัวดี
ในกรณีที่ไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำต้องรักษาโดยการเสริมไทรอยด์ฮอร์โมน เช่น eltroxin, hydrocortisone
การได้รับยาบำรุงเลือดหลังคลอด
ต้องกินฮอร์โมนตลอดชีวิต