Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
โฮมสคูล (ปัญหาของระบบการศึกษาเดิม (ระบบการศึกษาไทย ล้มเหลว,…
โฮมสคูล
ปัญหาของระบบการศึกษาเดิม
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
-
เห็นใจครูนะ เพราะกระทรวงใส่เนื้อหามาแน่นเอียด ออกข้อสอบยากขึ้นทุกปี โรงเรียนก็กดดัน อยากให้เด็กสอบได้ที่ดีๆ พ่อแม่ ถ้าลูกตัวเองสอบไม่ติด ก็ด่าครู ด่าโรงเรียน กระทรวงอยากจะกลับมาไม่ตัดเกรด มันก็พลิกหน้ามือเป็นหลังมือไป ชาวบ้านก็รับไม่ได้ .. มันพันกันมั่ว จนแกะไม่ออก
วิถีของเด็กในระบบ ที่เราเห็นแล้วเลยอยากพาลูกเลี่ยงออกมา หลานสาวอยู่ ม.5 เรียนทั้งวัน +เรียนพิเศษเพิ่มกับคุณครูที่เปิดสอนพิเศษในวิชาที่ตัวเองสอน (วิชาฟิสิก หลานบอกเรียนไม่รู้เรื่อง เลยต้องจ่ายเพื่เรียนพิเศษเพิ่ม) แถมบางวิชา เขาก็บ่นไม่ชอบ และบางวิชาก็ดูเกอนความจำเป็นต่อการนำไปใช้ในอนาคต ถ้าเด็กไม่ได้เรียนในสายงานที่ใช้ความรู้ของวิชานั้นๆ สรุป กลับจากเรียนมาค่ำๆ ก็ต้องขลุกกับมือถือ ตอบแทนความเหนื่อยจากการเรียน
พลังงานที่จะมาทำสิ่งที่อยากทำมันน้อย กลับบ้านมาเหนื่อยๆ สิ่งที่ควรจะได้เป็นรางวัล คือ ได้เล่นมือถือ ไรงี้ครับ
มีเรื่องราวของชนเผ่าหนึ่งในหมู่เกาะโซโลมอน เวลาที่ชาวเผ่าต้องการทำลายต้นไม้ต้นไหนก็ตาม ไม่จำเป็นต้องตัดหรือโค่นมันให้เหนื่อย เพียงแค่ให้คนมาล้อมวงกันรอบๆต้นไม้ และตะโกนด่าทอและสาบแช่งมัน วันหนึ่ง ใบไม้ก็จะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง และแห้งตายไปเองในที่สุด
อิชานคงจะเป็นเหมือนต้นไม้ที่แห้งตาย ถ้าเขาไม่ได้พบกับ ‘ครูนิกุม’ ครูสอนศิลปะคนใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาทำงานในโรงเรียนประจำ
-
รัฐออกนโยบาย แก้ปัญหา มาด้วยความหวังดี
มีเป้าหมายเชิงยุทธศาสตร์ นโยบาย เปลี่ยน มี KPI
ส่งผ่านมายังโรงเรียน มายังครู .. คิดแทนครู สั่งให้ครูทำ ไม่มีสิทธิ์ที่จะทำอะไรแปลกใหม่เลย ทำงานอย่างไม่มีความสุข
มัวแต่ทำงาน เพื่อสนองนโยบายกระทรวง และไม่มีเวลาให้เด็ก
โรงเรียน เอารูปเด็กที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยดังๆ ได้ มาแปะรั้ว โรงเรียน เพื่อแสดงให้เห็นว่า เป็นโรงเรียนที่จะช่วยให้ลูกของคุณ สอบได้คณะๆ ดีๆ เกิดการแย่งกันเ
ค่านิยมในสังคม ทำให้เราเชื่อว่า การจะมีชีวิตที่ดี จะต้อง จบจากสถาบันดีๆ .. เด็กจะเข้าสถาบันดีๆ ได้ก็ต้องอยู่ในโรงเรียนดีๆ .. เกิดการสอบแข่งขัน .. โรงเรียนมีนักเรียนมาก ก็จะได้งบสนับสนุนมาก เป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียง เด็กทำข้อสอบได้ กระทรวงก็ขยับเพิ่มความยากเข้าไปอีก .. นโยบายมาใหม่ ก็จัดเข้าหลักสูตร .. เมื่อเนื้อหาแน่นเกินไป ก็ต้องขยับให้เด็ก เรียนเร็วขึ้น บางเรื่องที่เราเคยเรียนตอน ม.3 ตอนนี้ อยู่ในหลักสูตรของเด็ก ป.6 เรียบร้อยแล้ว
-
คนที่ไม่เหมือนคนอื่น ปรับตัวไม่ได้ ก็หลุดออกจากระบบ
เด็กที่ผิดพลาด ติดยา ท้อง ก็ถูกตัดสินทันทีว่าชีวิตจบสิ้นแล้ว
-
-
-
-
ทำไมเด็กเรียนทั้งวัน แต่ยังต้องไปกวดวิชาเพิ่ม จนแทบไม่มีเวลาทำกิจกรรมอย่างอื่น เพื่อแย่งที่นั่งในโรงเรียนดัง เด็กบางคนอาจจะต้องกวดวิชากันตั้งแต่ระดับอนุบาล ส่วนเด็กที่จบ มหาวิทยาลัยจำนวนมาก ยังไม่รู้ว่า ตัวเอง จบมาแล้ว อยากจะทำอะไร
ฟินแลนด์
-
-
-
-
-
เรียนน้อย แต่มีคุณภาพ วันละ สี่ชั่วโมง เริ่มคาบแรก เก้าโมง เลิกสอนบ่ายสอง มีเวลาออกไปเรียนรู้นอกห้องเรียน การเรียนแค่พอดี จึงสำคัญมาก
-
-
-
No Compare , No Competition
-
-
อุปสรรค ความกังวล
ไม่ทันเพื่อน
กลัวลูกออกจากโรงเรียนแล้วจะเสียโอกาส ไม่ทันเพื่อนรุ่นเดียวกัน สอบเข้าโรงเรียนดีๆ มหาวิทยาลัยดีๆ ได้งานดีๆ
-
ฐานะไม่ดี ก็ทำได้
สถานะทางการเงินครอบครัวไม่ดี อาจจะสนับสนุนลูกได้ไม่เพียงพอ เช่น ลูกชอบว่ายน้ำ เล่นดนตรี หรือ กิจกรรมที่มีค่าใช้จ่ายสูง .. ลดมาตรฐานลงมา โฮมสคูล ไม่ใช่การเปย์ลูก ค่อยๆ ฝึกฝนในสิ่งที่ทำได้ พัฒนาไปเรื่อยๆ
มีแค่ คอม กับ Printer ก็สามารถพิมพ์แบบฝึกหัด ภาพวาด โมเดลกระดาษ ฯลฯ กิจกรรมต่างๆ เยอะมาก .. นำกล่องลัง มาประดิษฐ์
กิจกรรมภายในบ้าน อย่างเช่น การกวาดบ้าน ถูบ้าน ซักผ้า ตากผ้า ล้างจาน ทำอาหาร ปลูกผัก ก็ถือเป็นการเรียนรู้
กิจกรรมฟรีมีอยู่มากมาย พิพิธภัณฑ์ เดินเล่นสวนสาธารณะ เก็บดอกไม้ใบไม้ สนามเด็กเล่น ห้องสมุด ศูนย์เยาวชน งานอีเว้นท์ กิจกรรมตามห้าง สลับไปมา ได้ทุกวัน เน้นฟรี ไปก่อน เพื่อลอง ถ้าชอบจริงๆ ค่อยเสียเงิน
-
เราไปในช่วงที่เค้าหยุด ไม่ต้องไปแย่งใคร รถเมล์ก็ว่าง รถไม่ติด ห้องสมุดก็ไม่มีคน เหมือนเปิดมาเพื่อเราเลย สบายมากๆ
บางคน เด็ก ชอบอวกาศ อยากเจอมนุษย์อวกาศตัวเป็นๆ อยากลองนั่งยานอวกาศจริงๆ .. อยากไปป่าอเมซอน .. อันนี้ก็ต้องหาวิธีส่งเสริมไปในแบบอื่นที่พอจะทำได้
-
-
-
-
-
-
โฮมสคูลคืออะไร
-
เมื่อ
ระบบการศึกษา ที่เราเคยมอบหน้าที่ให้กับโรงเรียนเป็นผู้ดูแลลูกๆ ไม่สามารถตอบสนองความต้องการ หรือสร้างเสริมพัฒนาการให้เด็กได้อย่างที่ควรจะเป็น
-
ถ้าให้ยกมือโหวต ว่าระบบการศึกษาไทย ทำให้เด็กเรียนหนักไปหรือไม่ ควรถุกเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ผมว่าเกือบ 100% บอกว่าควรเปลี่ยน
-
แต่
“เด็กทุกคนมีความพิเศษและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ผู้ใหญ่ควรทำความเข้าใจและยอมรับในธรรมชาติของเด็กโดยไม่ปิดกั้น ให้อิสระอย่างเหมาะสม”
-
-
-
ถามเด็กคนไหนก็ได้ ถ้าให้เลือกระหว่าง ทำสิ่งที่ชอบอยู่บ้าน กับไปโรงเรียน เด็กส่วนใหญ่ต้องตอบว่าอยู่บ้านแบบไม่ต้องคิด
-
อีกข้อที่ผมพูดกับ คุณภรรยา .. เดี๋ยวนี้มันไม่เหมือนสมัยก่อน ความรู้อยู่ที่ วัด อยู่ที่โรงเรียน เท่านั้น .. แต่สมัยนี้ มีอยู่ทั่วไป
-
-
ทำอย่างไร
-
-
โตขึ้นอยากให้ลูกเป็นอะไร มีชีวิตยังไง .. เค้าจะตอบประมาณว่า แล้วแต่ลูก อยากให้เค้ามีความสุข แน่นอน .. เราก็บอกไปว่า แล้วจะให้เค้า ทรมาณเรียนเหมือนที่เราผ่านมา เรียนจบ ถึงค่อยมาค้นหาตัวเอง หรือ ให้เวลาเค้าได้ค้นหาตัวเองตั้งแต่เดี๋ยวนี้ .. เดี๋ยวนี้ ใครเจอ สิ่งที่ชอบก่อน คนนั้น ได้เปรียบ .. จะทรมาณลูกไปทำไม
คนแต่ละคน ไม่เหมือนกัน ทุกคนมีศักยภาพในตัวเอง เด็กทุกคนเหมือนดวงดาวที่ส่องประกาย ต่างมีแสงสว่างในตัวเอง หรือความสามารถที่ซ่อนอยู่
-
-
-
-
Critical Thinking การคิดเชิงวิเคราะห์ คือ การตั้งคำถาม และจำแนกออกมาเป็นข้อๆ .. เรามีการเรียนแบบ A แล้วต้อง B .. A E I O U ก็ได้ เป็นต้น
-
-
พ่อแม่ไม่ได้เป็นครู นั่งสอน ..แต่ พ่อแม่จะเรียนรู้ ค้นหาบางอย่างไปด้วยกัน .. เป็น ผู้อำนวยการสะดวกในการเรียนรู้ .. พ่อแม่ไม่ต้องมีความรู้ในเรื่องนั้นก็ได้ แต่สามารถแนะนำ ส่งเสริมได้
ข้อดี
-
-
ไม่ต้องจ่ายค่าเทอมที่สูง อีกต่อไป ไม่ต้องเสียเวลาไปรับไปส่ง เอาเงินและเวลา ส่วนนี้ มาทำกิจกรรมต่างๆ ให้เด็ก ได้อย่างเต็มที่
-
-
-
-
-