Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กรณีผู้ป่วยเกิดความขัดเเย้งในการอยู่ร่วมกัน (ด้านร่างกาย…
กรณีผู้ป่วยเกิดความขัดเเย้งในการอยู่ร่วมกัน
ด้านร่างกาย
เสี่ยงต่อการเกิดอุบัตติเหตุต่อตนเองเเละผู้อื่น
การพยาบาล
การบำบัดรักษาทางชีวภาพ (Biological Therapy)
การรักษาด้วยยา ในรายที่มีการเจ็บป่วยทางกาย จะได้รับการรักษาตามภาวะของการเจ็บป่วยนั้นๆ ในผู้ป่วยจิตเวชที่แสดงความโกรธออกมาด้วยพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง แพทย์จะพิจารณาให้ยาต้านโรคจิต (Antipsychotic drugs) พยาบาลจึงมีบทบาทที่จะประเมินพฤติกรรม รายงานอาการความรุนแรง ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาอย่างถูกต้องตามแผนการรักษา และสังเกตผลข้างเคียงรวมทั้งให้การพยาบาลในกรณีที่เกิดผลข้างเคียงจากยา
การจำกัดพฤติกรรม ในกรณีที่ผู้ป่วยจะเป็นอันตรายต่อตนเองและผู้อื่น จำเป็นต้องจำกัดพฤติกรรมด้วยการผูกมัด (restraint) หรือให้อยู่ห้องแยก (seclusion)
สัมพันธภาพระหว่างพยาบาลเพื่อการบำบัด (Therapeutic Nurse – Patient Relationship)
ก่อนอื่นพยาบาลต้องรู้วิธีที่จะจัดการกับความรู้สึกโกรธ รู้จักที่จะใช้การสื่อสารที่แสดงออกอย่างเหมาะสม (assertiveness communication) ซึ่งทักษะของพยาบาลในการจัดการกับความรู้สึกโกรธ จะช่วยให้การช่วยเหลือผู้ป่วยได้ผลดีมากยิ่งขึ้น (Videbeck, 2006) และพยาบาลต้องดำเนินสัมพันธภาพด้วยท่าทีที่สงบ มั่นคง เป็นมิตร และจริงใจ เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยระบายความคิดความรู้สึก ใช้เทคนิค การฟัง การยอมรับ การให้ข้อมูล การสะท้อน การบอกสิ่งที่สังเกตได้ เพื่อให้ผู้ป่วยตระหนักรู้ถึงความโกรธ เข้าใจผลเสียของการแสดงความโกรธออกมาอย่างไม่เหมาะสม แล้วส่งเสริมให้ผู้ป่วยวางแผนหาวิธีแก้ปัญหาและระบายความโกรธของตนออกมาอย่างเหมาะสม
การจัดสิ่งแวดล้อมเพื่อการบำบัด (Milieu Therapy)
สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงเป็นลำดับแรกคือความปลอดภัยทั้งผู้ป่วยเองและผู้อื่น เพราะผู้ป่วยอาจแสดงความโกรธออกมาเป็นพฤติกรรมก้าวร้าว โดยพยายามลดสิ่งกระตุ้นที่จะทำให้เกิดอารมณ์โกรธ นอกจากนี้การจัดให้ผู้ป่วยเข้าร่วมกิจกรรมบำบัดเมื่อผู้ป่วยมีอารมณ์สงบลง จะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้มีโอกาสฝึกทักษะในการอยู่ร่วมกับผู้อื่น การกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสม ซึ่งจะเป็นประโยชน์มากเมื่อเขากลับไปใช้ชีวิตอยู่ในสังคม
พฤติกรรมบำบัด (Behavior Therapy)
เป็นการให้ผู้ป่วยเรียนรู้การกล้าแสดงออกอย่างเหมาะสมในการอยู่ร่วมกันกับบุคคลอื่นในสังคม โดยการให้แรงเสริมทางบวกเมื่อผู้ป่วยแสดงพฤติกรรมที่เหมาะสม การฝึกเทคนิคการผ่อนคลายให้ผู้ป่วยเมื่อเกิดความรู้สึกโกรธ การให้ผู้ป่วยเห็นความก้าวหน้าของการควบคุมอารมณ์ของตนเอง ซึ่งพฤติกรรมก้าวร้าวจะลดลงเมื่อผู้ป่วยมีการเรียนรู้ใหม่และได้มีโอกาสฝึกทักษะการอยู่ร่วมกันในสังคม
ด้านสังคม
การมีปฏิสัมพันธ์กับสังคมบกพร่อง
สร้างสัมพันธภาพเพื่อให้เกิดความไว้วางใจ เข้าใจและยอมรับ จะช่วยให้ผู้ป่วยมั่นใจที่จะเปิดเผย ความคิดและความรู้สึกของเขาออกมา ซึ่งจะท้าให้พยาบาลเข้าใจผู้ป่วย รู้ปัญหาและ อันตรายที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังท้าให้ผู้ป่วยเกิดความความรู้สึกของเขาออกมา ซึ่งจะท้าให้พยาบาลเข้าใจผู้ป่วย รู้ปัญหาและ อันตรายที่จะเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังท้าให้ผู้ป่วยเกิดความเกิดความเข้าใจตนเองยอมรับการเจ็บป่วยที่ เกิดขึ้น เชื่อมั่นในการดูแลของพยาบาล และร่วมมือ ในการรักษา
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีการแสดงออกของพฤติกรรมอย่างเหมาะสม โดยจัดให้ผู้ป่วย โดยการเข้าร่วมกลุ่มกิจกรรมบ้าบัดและมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่น ให้ผู้ป่วยเกิดสัมพันธภาพที่ดีทางสังคม และเห็นคุณค่าในตัวเอง
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในรักษา และรับผิดชอบการกระท้าตนเอง โดยสนับสนุนให้บอกเล่าแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับทีมการรักษา เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยบอกความคิดความรู้สึกและปัญหาในการ ปรับตัวต่อการรักษาที่ได้รับ ให้ข้อมูลและสนับสนุนให้ผู้ป่วยวางแผน แก้ปัญหาด้วยตนเอง
ด้านจิต
มีภาวะสิ้นหวัง (Hopelessness)
กสนพยาบาล
สร้างสัมพนัธภาพเพื่อการบำบัดระหว่างพยาบาลและผปู้่วยเพื่อให้ผู้ป่วยใหค้วามร่วมมือในการรักษา ท้งัน้ีพยาบาลตอ้งใหเ้วลามีความอดทนในการรับฟังแสดงความเขา้อกเขา้ใจ มีท่าทีเป็นมิตรและอบอุ่น
ประเมินสาเหตุของภาวะซึมเศร้าและสิ้นหวงั เช่นสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรงโรคเร้ือรังที่รักษาไม่หาย สูญเสียอวยัวะหรือพิการกระทนั หนั มีปัญหาดา้นเศรษฐกิจ มีปัญหาครอบครัวเป็นต้น
เปิดโอกาสใหผู้ป่วยระบายความรู้สึกในสถานที่ที่มีความเป็นส่วนตัวไม่บุคคลอื่นรบกวน
ประเมินสิ่งยึดเหนี่ยวทางจิตใจเช่น ครอบครัวศาสนา ความเชื่อ
สนับสนุนใหกำลังใจแนะนำการฝึกคิดด้านบวก
จัดให้ผู้ปู้่วยเข้ากลุ่มบำบัดเช่น กลุ่มจิตบำบัดแบบประคับประคองการบำบัด
แบบปรับเปลี่ยนความคิดและพฤติกรรม (Cognitive Behavior Therapy:CBT)
ด้านจิตวิญญาณ
ความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ
การพยาบาล
ประเมินการรับรู้คุณค่าในตนเอง
ผู้ป่วยแยกตัวอยู่คนเดียว พยาบาลควรสร้างสัมพนัธภาพเพื่อการบำบัดผู้ป่วยภายในระยะแรกใช้เวลาสั้นๆ แต่ไปพบทักทายกับผู้ป่วยบ่อย ๆ จะเพิ่มความรู้สึกมีคุณค่าของผู้ป่วยและเกิดความรู้สึกไว้วางใจ
ผู้ป่วยมองตนเองในด้านลบทำให้มีความภาคภูมิใจในตนเองต่ำ (Low Self-Esteem)พยาบาลต้องยอมรับผปู้่วยใหเ้วลากับผู้ป่วยให้ผู้ป่วยบอกถึงข้อดีของตนเอง หากผปู้่วยบอกไม่ได้พยาบาลให้ผู้ป่วยทราบฝึกให้ผู้ป่วยคิดด้านบวก
ใหผู้ป่วยเขา้กลุ่มกิจกรรมบา บดัที่ไม่ยากเกินไป ซึ่งผู้ป่วยสามารถทำได้สำเร็จให้แรงเสริมทางบวกตามความเป็นจริง เพื่อส่งเสริมความภาคภูมิใจ
กระตุ้นให้ผู้ป่วยมีปฏิสัมพนัธ์กบัผู้ป่วยอื่น
มอบหมายชิ้นงานตามความถนัดของผู้ป่วยและเมื่อผู้ป่วยสามารถทำได้สำ เร็จพยาบาลให้แรงสนับสนุนเชิงบวก