Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
7.ภาวะน้ำคร่ำอุดตันในหลอดเลือดปอด Amniotic fluid embolism syndrome…
7.ภาวะน้ำคร่ำอุดตันในหลอดเลือดปอด Amniotic fluid embolism syndrome
ความหมาย
หมายถึงภาวะที่มีน้ำคร่ำพลัดเข้าไปในกระแสเลือดทางมารดาส่วนประกอบของน้ำคร่ำมีผลทำให้เกิดภาวะล้มเหลวของการทำงานระบบไหลเวียนเลือดหัวใจและระบบหายใจ
การวินิจฉัยแยกโรค
Septic shock
Aspiration pneurmonia
Acute myocardial infarction Pulmonary thromboembolism
Placental abruption
สาเหตุ
น้ำคร่ำเข้าสู่กระแสเลือดบริเวณปอดเกิดการหดเกร็งของหลอดเลือด
เกิดภาวะล้มเหลวของระบบไหลเวียนโลหิต Left ventricular failure
อาการและอาการแสดง
1.ระยะแรก-ระยะภาวะโลหิตไหลเวียนล้มเหลว (Hemodynamic collapse) จะเหนื่อยหอบหลอดลมตีบเขียวขึ้นมาทันทีทันใดจนเกิดภาวะขาดออกซิเจนร่วมกับอาการความดันโลหิตต่ำไม่กี่นาทีต่อมาหัวใจและปอดจะหยุดพานานอาจมีอาการชักเกร็งได้ร้อยละ 10-20 ถ้าไม่ได้รับการรักษาทันที่จะเสียชีวิตได้ถึงร้อยละ 50
2.ระยะที่ 2-ระยะภาวะเลือดไม่แข็งตัว (Magulapatly) ระยะนี้เกิดภาวะเลือดไม่แข็งตัวซึ่งไม่ทราบกลไกแน่ชัดอาจเกิดการตกเลือดหลังคลอดมดลูกหดรัดตัวไม่ดีตวรจพบว่า Filorinogen และเอาดได้ตาม
การช่วยเหลือ AFE
1.cardiopulmonary resuscitation
2.พิจารณาผ่าตัดคลอดในรายที่มารดามีภาวะหัวใจหยุดเต้น
3.ให้ออกซิเจนความเข้มข้นสูงในปริมาณที่เพียงพอ
4.ให้สารละลาย Crystaloid เพื่อทดแทนภาวะขาดน้ำ
5.แก้ไขภาวะความดันโลหิตต่ำ
6.เตรียมเลือดเกร็ดเลือด
7.ถ้ามีภาวะตกเลือดหลังคลอดจากมดลูกหดรัดตัวไม่ดีอาจพิจารณาให้ Prostaglandins
8.รักษาภาวะ DIC โดยการให้ยา Heparin
9.รักษาภาวะ ARDs โดยการให้ยา Corticosteroid
การดูแลรักษา
1.Oxygenation อย่างเพียงพอ
2.Circulation ป้องกันภาวะความดันโลหิตต่ำและ Left ventricular failure
3.Coagulopathy การป้องกันและแก้ไขโดยเร็ว
การวินิจฉัย
1.การถ่ายภาพรังสีทรวงอก-ส่วนใหญ่ไม่พบความผิดปกติแต่อาจพบ Pulmonary ederma ได้
2.การตรวจการไหลเวียนของเลือดในปอด (Lung scan) อาจพบ Perfusion defect
3.การตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ (EKG) จะพบลักษณะ Tachycardia-ST และ TWave เปลี่ยนแปลงมี RV strain ได้
4.การตรวจหาเซลล์ผิวหนังขนอ่อน (Lanugo hair) เมือกของทารกหรือเซลล์จากทารกซึ่งต้องอาศัยการย้อมพิเศษ