Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ภาวะแทรกซ้อนในระยะ ที่ 3 และ 4 (2.PLACENTA ADHERENT (ปัจจัยส่งเสริม (เคย…
ภาวะแทรกซ้อนในระยะ
ที่ 3 และ 4
1.EARLY POSTPARTUM HEMORRHAGE
การตกเลือดในระยะ 3-4 ของการคลอดและ 24 ชั่วโมงแรกหลัง
คลอด เสียเลือดมากกว่า 500 มล. ขึ้นไป และ 1000 มล. (C/S)
สาเหตุส่งเสริม
มดลูกหดรัดตัวไม่ดี(Tone)
การตั้งครรภ์แฝด(Twin)
ทารกตัวโต(Fetal macrosomai)
กล้ามเนื้อมดลูกยืดขยายมากเกินไป(Overdistention of uterus)
ได้รับยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูกเป็นเวลานาน
(Prolonged oxytocin use)
การคลอดล่าช้า(Prolonged of labor)
ช่องทางคลอดฉีกขาด(Tear)
ทารกมีส่วนนำที่ไม่ใช่ศีรษะ(Fetal malpresentation)
การคลอดเฉียบพลัน(Rapid or precipitate of labor)
ทารกตัวโต(Fetal macrosomia)
การคลอดติดไหล่(Shoulder dystocia)
รกหรือเศษรกค้างในโพรงมดลูก(Tissue)
การติดเชื้อของรกและน้ำคร่ำ
การเคยผ่าตัดเนื้องอกมดลูกมาก่อน
การคลอดก่อนกำหนด
การเคยผ่าตัดทางหน้าท้อง
ความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด(Thrombin)
การติดเชื้อ
ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรถ์
มีเลือดออกในขณะตั้งครรภ์หรือมีประวัติตกเลือดหลังคลอด
รกลอกตัวก่อนกำหนด
การวินิจฉัย
ปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอด>500 cc
อาการซีด, เหงื่อออก, ตัวเย็น, BP drop, PRเบาเร็ว, RRเร็ว
คลำหน้าท้องพบ มดลูกหดรัดตัวไม่ดี
มีการฉีกขาดของช่องทางคลอด
ภาวะแทรกซ้อนPPH
ระยะแรก
Renal failure เนื่องจากภาวะ hypovolemia ที่ยาวนาน
ภาวะแทรกซ้อนจากการได้รับเลือด
ระยะหลัง
ติดเชื้อ AIDS/Syphilis
Sheehan' syndrome เนื่องจากการตายของต่อมใต้สมองส่วนหน้า
2.PLACENTA ADHERENT
2.Placenta increta เข้าไปชั้นกล้ามเนื้อมดลูก แต่ยังไม่เข้าชั้น Serosa
3.Placenta precreta เข้าไปชั้นกล้ามเนื้อมดลูกจนทะลุเข้าชั้น Serosa
1.Placenta accreta เข้าไปชิดกล้ามเนื้อมดลูก แต่ยังไม่เข้าชั้นกล้ามเนื้อ
ปัจจัยส่งเสริม
เคย D/C
Multiparity
เคยผ่าตัดที่มดลูกมาก่อน...C/S
การวินิจฉัย
1.จากการล้วงรกหลังคลอด ในรายรกคลอดช้า หรือตกเลือด
2.ในรายที่ไม่สามารถเซาะรกออกจากมดลูกหลังผ่าตัดไม่ได้
มักวินิจฉัยได้ในระยะที่ 3 ของการคลอด
การรักษา
พยายามเซาะรก มักทำได้ในราย Placenta accreta
ตัดมดลูกออก
ประคับประคอง : ให้สารน้ำและเลือด, ยาแก้ปวด, ยากระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
4.SHOCK IN OBSTETRICS
สภาวะที่เนื้อเยื่อต่างๆได้รับบเลือดไปเลี้ยงไม่พอ จนเซลล์ไม่สามารถทำหน้าที่ได้ตามปกติและทำให้เซลล์ตายในที่สุด
สาเหตุที่ทำให้มีการเสียเลือดทางสูติกรรม
2.การตั้งครรภ์ระยะท้าย
Placenta previa, Abrubtio placenta, PIH(HELLP)
3.ระยะคลอดและหลังคลอด
C/S, Rupture uterine, Inversion of uterus
1.การตั้งครรภ์ระยะแรก
Ectopic pregnancy, Abortion, Molar pregnancy
การวินิจฉัย
อาการและอาการแสดง
V/S...ชีพจรเบาเร็ว ความดันเลือดต่ำ
ปริมาณเลือดที่ออก
ผิวหนังเย็น ซีด เหงื่อออก ปัสสาวะออกน้อย
พูดจาสับสน ไม่รู้เรื่องหรือหมดสติ
อาการและอาการแสดง
ไม่มีแรง, ทนหนาวไม่ได้, ผิวหนังซีด
ขนรักแร้และขนอวัยวะเพศน้อยหรือไม่มี, ประจำเดือนออกน้อยหรือไม่มี
ไม่สามารถหลั่งน้ำนม, Involution of breast เร็วกว่าปกติ, อ่อนเพลีย
ลานหัวนมสีจางลง
การรักษาพยาบาล
กำจัดต้นตอหรือแหล่งที่มีการติดเชื้อ
ให้ยาปฏิชีวนะอย่างเหมาะสม
ทำให้ปริมาตรเลือดที่ไหลเวียนกลับคืนสู่สภาพปกติ
3.UTERINE INVERSION
ภาวะที่ยอดมดลูกถูกรั้งลงมาส่วนล่างของโพรงมดลูก มักเกิดจากการดึงสายสะดือในการช่วยคลอดรก โดยรกยังรอกตัวไม่ดี
ระดับของมดลูกปลิ้น
Second degree : ยอดมดลูกเคลื่อนต่ำเลยปากมดลูกแต่ยังไม่ถึงปาก ช่องคลอด
Third degree : ยอดมดลูกเคลื่อนต่ำออกมาพ้นปากช่องคลอด
Firs degree : ยอดมดลูกเคลื่อนต่ำแต่ไม่เลยปากมดลูก
Fourth degree : มีการปลิ้นของช่องคลอดออกมาด้วย
ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะมดลูกปลิ้น
ดันยอดมดลูกที่หน้าท้อง
ดึงสายสะดืออย่างแรง
ทำคลอดรกในกรณีที่รกยังไม่ลอกตัวหรือมีภาวะรกติด
มดลูกและปากมดลูกอยู่ในสภาวะคลายตัว
การรักษา
ถ้ารกลอกตัวแล้วดันกลับเข้าไปได้เลย
ถ้ารกยังไม่ลอกตัวต้องเซาะรกออกก่อนทำการดันมดลูก เมื่อดันเข้าที่แล้วให่ oxytocin ทันทีพร้อมกับถอนมือออก
ให้สารน้ำและเลือดอย่างเพียงพอ ดมยาสลบโดยให้ Halothane เพื่อให้ทุกส่วนคลายตัวแล้วดันมดลูกกลับเข้าไป อาจต้องให้ยาคลายมดลูก