Birth Asphyxia & Neonatal Resuscitation
ภาวะขาดออกซิเจนของทารกแรกเกิด
Severe birth asphyxia
ทารกแรกเกิดมีคะแนน APGAR (Apgar score) 0-3คะแนน
Moderate birth asphyxia
ทารกแรกเกิดมีคะแนน APGAR (Apgar score) 4 – 5 คะแนน
Mild birth asphyxia
ทารกแรกเกิดมีคะแนน APGAR (Apgar score) 6 - 7 คะแนน
Apgar score and asphyxia
คะแนน 8-10 (ไม่มีภาวะ Asphyxia)
เช็ดตัวให้แห้ง ให้ความอบอุ่น
ดูดเสมหะ
คะแนน 6 - 7 (Mild / Blue asphyxia)
เช็ดตัวให้แห้ง ให้ความอบอุ่น
ดูดเสมหะ
กระตุ้นโดยการสัมผัส
ให้ดมออกซิเจน 100%
คะแนน 4-5 (Moderate / Blue asphyxia)
เช็ดตัวให้แห้ง ให้ความอบอุ่น
ดูดเสมหะ
เริ่มช่วยการหายใจ โดยการใช้ถุงช่วยหายใจ และหน้ากากด้วยออกซิเจน 100% (Ambu bag ĉ O2 100 %)
คะแนน 0 - 3 ( Severe / White asphyxia )
เช็ดตัวให้แห้งอย่างรวดเร็ว ให้ความอบอุ่น
ดูดเสมหะ ( Suction )
ช่วยหายใจด้วยแรงดันบวก (PPV)
ถ้าไม่ดีขึ้นให้ใส่ท่อหลอดลมคอ
ET tube
ถ้า HR < 60 ให้ทำ Chest compressions
หลัง Chest compression ( 45 – 60 วินาที) ถ้า HR < 60 ให้ยากระตุ้นหัวใจ ได้แก่ เอพิเนฟรีน
ให้สารน้ำ (Volume expander ) ได้แก่ Normal saline (0.9% NaCl) หรือ Ringer’ s lactate
แนวทางการช่วยฟื้นคืนชีพ
อาการแสดงของทารกที่มีปัญหาขาดออกซิเจน
ความตึงตัวของกล้ามเนื้อ (Muscle tone) ลดลง
อัตราการเต้นของหัวใจช้าลง (Bradycardia)
ความดันโลหิตต่ำ
ภาวะกดการหายใจ (Respiratory depression)
ภาวะหายใจเร็ว (Tachypnea)
เขียว (Cyanosis)
ภาวะขาดออกซิเจนของทารกในครรภ์และขณะคลอด
การหยุดหายใจขั้นปฐมภูมิ (primary apnea)
ทารกจะหายใจเร็ว ตามด้วยการหยุดหายใจ อัตราการเต้นของหัวใจจะเริ่มลดลง ทารกจะสามารถกลับมาหายใจเองได้ใหม่หลังจากได้รับการกระตุ้นหายใจ
การหยุดหายใจขั้นทุติยภูมิ (Secondary apnea)
ทารกจะเริ่มหายใจเป็นเฮือก (gasp) และตามมาด้วยการหยุดหายใจ ความดันโลหิตจะเริ่มลดลง
ทารกจะไม่ตอบสนองต่อการกระตุ้นหายใจด้วยการสัมผัส ในกรณีนี้ทารกต้องการการช่วยหายใจ
การช่วยเหลือทารกในช่วงการหยุดหายใจขั้นทุติยภูมิ
ขั้นตอนเบื้องต้น
ดูดเสมหะ
เช็ดตัวของทารกให้แห้ง
นอนในท่า ‘ Sniffing position’
กระตุ้นให้หายใจ
ทำให้อุณหภูมิกายของทารกอบอุ่น
มีขี้เทาในน้ำคร่ำ
ทารก Not vigorous: ดูดขี้เทาในหลอดลมคอทันทีหลังคลอด ก่อนให้การช่วยเหลือขั้นต่อไป
ทารก Vigorous: ดูดขี้เทาและสารคัดหลั่งจากปากและจมูก และช่วยเหลือตามขั้นตอน
การกระตุ้นที่อาจเป็นอันตรายกับทารก
การตบบริเวณหลังหรือก้น
การยกหน้าขาขึ้นมาบริเวณหน้าท้อง
การกดเค้นบริเวณซี่โครง
การขยายหูรูดทวารหนัก
การใช้ถุงน้ำร้อนหรือเย็น
การเขย่าตัวทารก
การประเมินอัตราการเต้นของหัวใจ
ฟังเสียงหัวใจที่หน้าอก
คลำชีพจรที่สายสะดือ
ติดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ3-leads
ข้อบ่งชี้ในการให้ยา epinephrine
Epinephrine เป็นยากระตุ้นหัวใจ โดยมีข้อบ่งชี้ในทารกที่ยังมีอัตราการเต้นของหัวใจต่ำกว่า 60 ครั้ง/นาที
การบริหารยา Epinephrine
ความเข้มข้นของยาที่แนะนำ = 1:10,000
ขนาดของยาที่แนะนำ = 0.1-0.3 มล./กก. ของยา epinephrine 1:10,000 (ให้ 0.3-1 มล./กก. ถ้าให้ทางท่อช่วยหายใจ)
วิธีบริหารยาที่แนะนำ = ทางหลอดเลือดดำ (ให้ทางท่อช่วยหายใจได้ในระหว่างรอการใส่สายสวนหลอดเลือดดำ)
การตอบสนองต่อการให้สารน้ำทดแทน
อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
ชีพจรแรงขึ้น
สีผิวซีด ลดลง
ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น
ถ้าภาวะช็อค (hypovolemic shock) ไม่ดีขึ้นพิจารณาให้สารน้ำทดแทนอีกครั้ง
การดูแลหลังการกู้ชีพ
หลังการกู้ชีพควรวัดระดับน้ำตาลในเลือด น้ำตาลต่ำ สมองได้รับอันตราย
การหยุดกู้ชีพ
ในทารกแรกเกิดที่คลำชีพจรไม่พบนาน 10 นาทีก็ควรหยุดทำการกู้ชีพได้
ความยินยอมของบิดามารดา
ไม่ควรทำการกู้ชีพแก่ทารกแรกเกิดในราย
ทารกแรกเกิดในกรณีที่อายุครรภ์<23สัปดาห์
น้ำหนักแรกเกิด<4ขีด
ความผิดปกติของโครโมโซม Trisomy 13
ทารกที่ไม่มีศีรษะ(Anencephaly)