Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Birth Asphyxia & Neonatol Resucitation (ผลของการขาดออกซิเจน …
Birth Asphyxia
&
Neonatol Resucitation
ปัยจัยเสี่ยงก่อนคลอด
อายุครรภ์,ความดันโลหิตสูง,ภาวะครรภ์แฝด,
ทารกตัวเล็ก, NO ANC,ภาวะบวมน้ำทั้งตัว,Fetal Macrsomia
ความผิดปกติ หรือ ความพิการ
ปัจจัยระหว่างคลอด
การใช้สูติศาสตร์หัตถการ,ท่าผิดปกติ,รกลอกตัวผิดปกติ
เลือดออกมาผิดปกติระหว่างคลอด,สายสะดือย้อย
หัวใจทารกเต้นผิดปกติ,ภาวะน้ำคร่ำมีขี้เทาปน,การติดเชื้อ
มารดาได้รับยาดมสลบแบบ GA ,มารดาได้รับยา แมกนีเซียม
อาการ
หายใจไม่สม่ำเสมอหรือไม่หายใจหรือหายใจเร็ว
อัตราการเต้นของหัวใจช้าลงหรือหัวใจเต้นเร็ว
ความตึงตัวของกล้ามเนื้อลดลง,ค่าออกซิเจนในเลิอดต่ำ,ความดันโลหิตต่ำ
ผลของการขาดออกซิเจน
แรกเกิดต่ออวัยวะต่างๆ
ผลต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด
ผลต่อสมองและประสาท
ผลต่อระบบหายใจ
ผลต่อระบบทางเดินปัสสาวะ
ผลต่อระบบทางเดินอาหาร
ผลต่อการเปลี่ยนแปลงทางเมตาบอลิซึม
การเตรียมความในการช่วยเหลือ
1.การคาดคะเนล่วงหน้า (อายุครรภ์ สีน้ำคร่ำ จำนวนทารก ปัยจัยเสี่ยง)
2.บุคลากรอย่างน้อย2คน
3.อุปกรณ์
แบ่งตามหลักทั่วไป
1.ภาวะขั้นรุนแรง คะแนน 0-3
2.ภาวะขั้นปานกลาง คะแนน4-5
3.ภาวะขั้นน้อย คะแนน6-7
แบ่งตามหลัก IDC10
1.Severe birth asphyxia คะแนน0-3
2.Mild and Moderate birth asphyxia คะแนน 4-7
การแปลผล Apgar score และให้การช่วยเหลือ
คะแนน 8-10
1.เช็ดตัวให้แห้งให้ความอบอุ่น
2.ดูดเสมหะ
คะแนน 6-7
1.เช็ดตัวให้แห้งให้ความอบอุ่น
2.ดูดเสมหะ
3.กระตุ้นโดยการสัมผัส
4.ให้ดมออกซิเจน 100%
คะแนน 4-5
1.เช็ดตัวให้แห้งให้ความอบอุ่น
2.ดูดเสมหะ
3.เริ่มช่วยการหายใจ ด้วย Ambu bag
คะแนน 0-3
1.เช็ดตัวให้แห้งให้ความอบอุ่น
2.ดูดเสมหะ
3.ช่วยหายใจด้วยแรงดันบวก PPV
4.ถ้าไม่ดีขึ้นให้ใส่ท่อหลอดลมคอ
5.Chest compressions
6.ให้ยา เอพิเนฟรีน
7.ให้สารน้ำ Normal saline
ภาวะขาดออกซิเจนของ
ทารกในครรภ์และขณะคลอด
การหยุดหายใจขั้นปฐมภูมิ
ช่วยโดยกระตุ้นโดยการสัมผัส ถูหลังและดีดฝาเท้า
ทารกจะสามาระกลับมาหายใจเองได้ใหม่หลังจากได้รับการกระตุ้นหายใจ
การหยุดหายใจขั้นทุติยภูมิ
ต้องช่วยการหายใจ
ต้องเอาไปกู้ชีพ 7 ขั้นตอน
การช่วยเหลือทารกในช่วงการหยุดหายใจขั้นทุติยภูมิ
การประเมิน
อายุครรภ์ครบกำหนดหรือไหม
ทารกร้องไห้หรือหายใจไหม
กล้ามเนื้อของทารกมีแรงหรือไม่
มีขี้เทาในน้ำคร่ำ
ทารก Not vigorous
ดูดขี้เทาในหลอดลมคอทันที
ทารก vigorous
ดูดขี้เทาและสารคัดหลั่งจากปากและจมูก
การกระตุ้นที่อันตรายกับทารก
การตบบริเวณหลังหรือก้น
การกดเค้นบริเวณซี่โครง
การยกหน้าขาขึ้นมาบริเวณหน้าท้อง
การขยายหูรูดทวารหนัก
การใช้ถุงน้ำร้อนหรือเย็น
การเขย่าตัวทารก
อาการที่บ่งชี้ว่าทารกดีขึ้น
อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
ทารกมีผิวสีชมพูขึ้น
ทารกหายใจได้เอง
ความตึงตัวของกล้ามเนื้อดีขึ้น
การให้ยา Epinephrine
1.ให้ที่สายสะดือก่อน
2.ถ้าให้ที่สายสะดือไม่ได้ให้ที่ ET tube
3.ให้ซ้ำได้ถ้าเด็กไม่ดีขึ้น แต่ให้ที่ ET tube ไม่ได้ ไปให้ที่สายสะดือ
การบริหารยา
ความเข้มข้นของยา 1:10,000
ขนาดของยา 0.1-0.3 มล./กก. (ให้สายสะดือ)
ขนาดของยา 0.3-1 มล./กก. (ให้ทางET tube)
การดูแลหลังการกู้ชีพ
เฝ้าติดตามสัญญาณชีพอย่างต่อเนื่อง
ควรวัดระดับน้ำตาลในเลือด
รักษาการควบคุมอุณภูมิร่างกายให้อยู่ในช่วง 33.5-34.5 องศาเซลเซียล
การหยุดการกู้ชีพ
คลำชีพจรทารกไม่พบนาน 10 นาที
ความยิมยอมของบิดามารดา
ไม่ควรทำการกู้ชีพทารกแรกเกิดในราย
ทารกแรกเกิดในกรณีอายุครรภ์ <23 wk
น้ำหนักแรกเกิด <400g
มีความพิการแต่กำเนิดที่ทำให้มีโอกาสรอดชีวิตต่ำ
ความผิดปกติของโครโมโซม Trisomy13
ทารกไม่มีศรีษะ
590225 นายอนันต์ หล่อดำรงเกียรติ