Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉิน :<3: (การบาดเจ็บที่กระดูกและกล้ามเนื…
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉิน :<3:
มีภาวะเสียเลือด
แผลหน้าท้องไส้ทะลัก
ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ วางบนลำไส้
ผ้าสะอาดพันรอบแน่นพอควร
ถ้าช็อกยกปลายเท้าให้สูง ให้ห่มผ้า
แผลถูกแทงวัตถุปักคา
หากเป็นวัตถุขนาดใหญ่ ห้ามดึงออก
ใช้ผ้าสะอาดกดรอบๆ พันยึดให้แน่นพอควร
แผลถูกยิง
อวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บหรือไม่ สังเกตการหายใจ การเสียเลือด
บาดแผลปิด (closed wound)
ประคบเย็นภายใน 24 ชม. แรก ต่อมาให้ประคบความร้อนบาด
แผลเปิด (open wound)
ทำความสะอาดแผล
ใช้ผ้าสะอาดกดลงบนแผลจนกว่าเลือดจะหยุดไหล ถ้าผ้าปิดแผลชุ่มเลือด ไม่ควรเอาออก ให้ใช้ผ้าสะอาดผืนใหม่ปิดทับ
สัตว์กัดต่อย
2. พิษต่อโลหิต [Hemotoxin ]
ได้แก่ งูแมวเซา งูกะปะ งูเขียวหางไหม้
:warning:ทำให้มีเลือดออกตามที่ต่างๆ ตามผิวหนัง เหงือก อาเจียนเป็นเลือด ปัสสาวะเป็นเลือด
3. พิษต่อกล้ามเนื้อ [Myotoxin]
ได้แก่ งูทะเล
:warning: ทำอันตรายต่อกล้ามเนื้อปวดกล้ามเนื้อมากปัสสาวะสีดำเนื่องจากกล้ามเนื้อถูกทำลายเกิดmyoglobinuria
4. พิษต่อกล้ามเนื้อหัวใจ [Cardiotoxin]
1. พิษต่อระบบประสาท [Neurotoxin]
ได้แก่ งูจงอาง งูเห่า งูสามเหลี่ยม งูทับสมิงคลา
:warning:จะทำให้เกิดอัมพาตของกล้ามเนื้อ ลืมตาไม่ได้ กลืนลำบาก และที่สำคัญคือทำให้หยุดหายใจเสียชีวิตได้
การดูแลผู้ที่ถูกงูพิษกัด
หยุดการเคลื่อนไหวของร่างกาย ปลอบโยน ให้กำลังใจ
ล้างแผลด้วยน้ำสะอาดหรือน้ำเกลือทันที ปิดแผลด้วยผ้าสะอาด ทำเฝือกชั่วคราว
จัดให้อวัยวะที่ถูกกัดอยู่ต่ำกว่าระดับหัวใจ
นำตัวผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้ให้เร็วที่สุด
ผึ้ง ต่อ แตน
การดูแลผู้ที่ถูกผึ้ง ต่อ แตนต่อย
ในกรณีที่มีเหล็กในติดอยู่ในแผล ต้องเอาเหล็กในออกก่อน
ล้างบาดแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาด
ประคบด้วยน้ำเย็น
ถ้ามีอาการปวดมากให้รับประทานยาแก้ปวดได้ ถ้ามีอาการมากขึ้นให้นำส่งโรงพยาบาล
แมงกะพรุนกล่อง (Box jellyfish)
การดูแล
ให้ผู้บาดเจ็บอยู่นิ่งๆ เพื่อลดการยิงพิษ
ล้างบริเวณที่ถูกพิษด้วยน้ำส้มสายชูอย่างน้อย 30 วินาที หากไม่มีให้ใช้น้ำทะเล
คีบหนวดที่ยังติดอยู่ ห้ามใช้มือหยิบ
ให้ใช้วัสดุขอบเรียบ ขูดเอาเมือกออก
ในกรณีของ แมงกะพรุนกล่อง ให้ใช้น้ำแข็งประคบลดอาการปวด หลังจากที่ล้างด้วยน้ำส้มสายชูแล้ว หรือใช้ผักบุ้งทะเลตำพอกที่แผล
แมงป่อง ตะขาบ :
การดูแล
ล้าง และฟอกบริเวณแผลด้วยสบู่ ล้างด้วยน้ำสะอาด
ใช้แอมโมเนียหอมชุบปิดแผลไว้
ถ้าปวดให้กินยาแก้ปวดพาราเซตามอล และประคบบริเวณแผลด้วยความเย็น
ถ้ามีอาการแพ้ คือ ไข้สูง ปวดแผลมาก ปวดศีรษะ ควรพาไปพบแพทย์
ได้รับสารพิษ
:
ทางเดินหายใจ
เคลื่อนย้ายผู้ที่ได้รับสารพิษไปยังสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ่ายเทสะดวกและห้ามคนมุง
คลายเสื้อผ้าให้หลวม เปิดทางเดินหายใจให้โล่ง ถ้าหยุดหายใจให้รีบช่วยเหลือ
รีบนำส่งโรงพยาบาล
ทางปาก
มีสติ, ไม่เป็นกรด ด่าง รีบทำให้อาเจียน และ หมดสติ, กรด ด่าง ห้ามทำให้อาเจียน
ทางผิวหนัง
ล้างด้วยน้ำสะอาดนาน ๆ อย่างน้อย 15 นาที
อย่าใช้ยาแก้พิษทางเคมี เพราะความร้อนที่เกิดจากปฏิกิริยาอาจทำให้เกิดอันตรายมากขึ้น
บรรเทาอาการปวดและรักษาภาวะช็อค
ปิดแผล แล้วนำส่งโรงพยาบาล
เป็นลม (fainting) การดูแล :
นอนราบ ยกปลายเท้าสูง
คลายเสื้อผ้าให้หลวม หายใจเข้า-ออกลึกๆ
ให้ดื่มน้ำหวาน และหรือน้ำเกลือแร่
จัดสิ่งแวดล้อมให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก
การบาดเจ็บที่กระดูกและกล้ามเนื้อ
:forbidden:
PRICED
P=Protection คือการป้องกันการบาดเจ็บที่จะตามมาอีก
R=Rest คือการพัก
I=Ice ประคบเย็น
C=Compression การพันผ้ายืด
E=Elevation การยก
D=Diagnosis/Disposal การวินิจฉัย/การจัดการ
ไฟฟ้าดูด :explode: การดูแล
ห้ามจับตัวผู้ป่วยก่อนตัดกระแสไฟ
กำจัดสาเหตุ โดยใช้วัตถุที่เป็นฉนวนเขี่ยสายไฟออก หรือสับสะพานไฟลง
ตรวจชีพจรและการหายใจ
ตรวจดูแผลไหม้
ตะคริว (muscle cramp)
สาเหตุ :
ขาดน้ำ เกลือแร่ กล้ามเนื้อไม่แข็งแรง วิ่งหรือใช้งานมากเกินไป
การรักษา
: หยุดพักทันที ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ 5-10 นาที นวดด้วยน้ำมันร้อนเบาๆ ห้ามบีบหรือขยำ
ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
:fire:
ชั้นผิวหนัง การดูแล
ระบายความร้อนออกจากแผล
ทาด้วยยาทาแผลไหม้
ห้ามเจาะถุงน้ำหรือตัดส่วนที่พองออก
ปิดด้วยผ้าสะอาด แล้วพันไว้
ชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง การดูแล
ไม่ต้องระบายความร้อนออกจากแผล
ห้ามใส่ยาใดๆ ทั้งสิ้นลงในบาดแผล
ใช้ผ้าสะอาดปิดบริเวณบาดแผล
ให้ผู้ป่วยนอนราบ ยกขาสูง และรีบนำส่งโรงพยาบาล