Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉิน (หลักการพันผ้ายืดที่ถูกต้อง…
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉิน
หลักการพันผ้ายืดที่ถูกต้อง
ผ้าที่พันต้องอยู่ในลักษณะเป็นม้วน แน่นและสะอาด เพื่อให้มีน้ำหนักในการพันทุกครั้ง
การพันต้องหงายผ้าพันขึ้นเสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้าหล่นจากมือ
ควรใช้ส่วนที่เจ็บเป็นจุดกึ่งกลางและแบ่งพื้นที่ที่จะพันออกไปแต่ละข้าง
การพันให้เริ่มจากส่วนปลายของอวัยวะไปยังส่วนโคน เพื่อรีดเลือดที่คั่งกลับสู่หัวใจ เป็นการลดบวม
การพันที่ทำให้เกิดประสิทธิภาพควรพันแบบเลข 8 หรือแบบไขว้
อวัยวะถูกยึดแน่น
ข้อระวังในช่วงแรกของการบาดเจ็บ (24-48 ชม.แรก)
ใช้หลักการ (No HARM Factor
H (heat) การใช้ความร้อนประคบ ทำให้บวมและปวดมากขึ้น
A (alcohol) การทายาที่มีฤทธิ์ร้อน
R (running/exercise) การวิ่งหรือทำกิจกรรม จะทำให้บาดเจ็บมากขึ้น
M (massage) การนวดจะยิ่งทำให้เลือดออกและบวมมากขึ้น
ข้อเคล็ด (sprain)
การฉีกขาดของกล้ามเนื้อรอบๆ ข้อต่อเนื่องจากการถูกดึง ยึด หรือบิดมากเกินไป
การดูแล
หยุดการเคลื่อนไหวข้อที่บาดเจ็บ และให้พักในท่าที่สบายที่สุด
ประคบเย็นภายใน 24 ชม. หลังการบาดเจ็บ
พันด้วยผ้าม้วนยืด (Elastic bandage)
ยกอวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บให้สูง เพื่อลดอาการปวด บวม
กระดูกหัก (Fracture)
การแตกหักของกระดูกในลักษณะต่างๆ แบ่งออก 2 ชนิด
กระดูกหักชนิดไม่มีบาดแผลหรือชนิดปิด (Closed fracture)
กระดูกหักชนิดมีบาดแผลหรือชนิดเปิด (Open fracture)
การดูแลกระดูกหัก
ระมัดระวังไม่ให้มีการเคลื่อนไหวบริเวณที่มีข้อเคลื่อน หรือกระดูกหัก
ถ้าต้องถอดเสื้อผ้า ต้องตัดตามตะเข็บ อย่าพยายามให้ผู้บาดเจ็บถอดเอง
ถ้าบวมและชามากให้จับชีพจรเปรียบเทียบกับแขนหรือขา ทั้ง 2 ข้างเปรียบกัน
การตรวจบริเวณที่หัก ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ปลายกระดูกที่หักเคลื่อนมาเกยกัน
ถ้าต้องมีการห้ามเลือด หลีกเลี่ยงวิธีการห้ามเลือดแบบขันชะเนาะ เพราะถ้ารัดแน่นเกินไป อาจจะทำให้เลือดแดงไปเลี้ยงส่วนปลายไม่พอ
ในรายที่กระดูกหักแบบเปิดให้ใช้ผ้าสะอาดคลุมทับ แล้วพันไว้
เข้าเฝือกชั่วคราว
หลักการเข้าเฝือกชั่วคราว
1.วัสดุที่ใช้ดามต้องยาวกว่าอวัยวะส่วนที่หัก
2.ไม่วางเฝือกลงบนบริเวณที่กระดูกหักโดยตรง ควรมีวัสดุอ่อนนุ่มรอง
3.มัดเฝือกกับอวัยวะที่หักให้แน่นพอควร ระวังปมเชือกกดแผล คอยตรวจบริเวณที่หักเป็นระยะ
4.บริเวณที่เข้าเฝือกจะต้องจัดให้อยู่ในท่าที่สุขสบายที่สุด อย่าจัดกระดูกให้เข้ารูปเดิม ควรเข้าเฝือกในท่าที่เป็นอยู่
ภาวะเสียเลือด
อาการของภาวะเสียเลือด
ซีด ตัวเย็น ชีพจรเบา-เร็ว หายใจเร็ว กระสับกระส่าย กระหายน้ำ ความดันโลหิตต่ำ --> ช็อก
การดูแล
บาดแผลปิด (closed wound)
ประคบเย็นภายใน 24 ชม. แรก ต่อมาให้ประคบความร้อน
บาดแผลเปิด (open wound)
ทำความสะอาดแผล
ใช้ผ้าสะอาดกดลงบนแผลจนกว่าเลือดจะหยุดไหล ถ้าผ้าปิดแผลชุ่มเลือด ไม่ควรเอาออก ให้ใช้ผ้าสะอาดผืนใหม่ปิดทับ
แผลถูกแทงวัตถุปักคา
หากเป็นวัตถุขนาดใหญ่ ห้ามดึงออก
ใช้ผ้าสะอาดกดรอบๆ พันยึดให้แน่นพอควร
แผลถูกยิง
อวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บหรือไม่ สังเกตการหายใจ การเสียเลือด
แผลหน้าท้องไส้ทะลัก
ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ วางบนลำไส้ (ห้ามพยายามยัดลำไส้กลับ)
ผ้าสะอาดพันรอบแน่นพอควร
ถ้าช็อกยกปลายเท้าให้สูง ให้ห่มผ้า
ไฟฟ้าดูด
อาการที่พบ
ไม่รู้สึกตัว หายใจลำบาก/หยุดหายใจ ชีพจรเต้นไม่สม่ำเสมอ/หยุดเต้น แผลไหม้
การดูแล
ห้ามจับตัวผู้ป่วยก่อนตัดกระแสไฟ
กำจัดสาเหตุ โดยใช้วัตถุที่เป็นฉนวนเขี่ยสายไฟออก หรือสับสะพานไฟลง
ตรวจชีพจรและการหายใจ
ตรวจดูแผลไหม้
เป็นลม (fainting)
การหมดความรู้สึกในช่วงสั้นๆ เนื่องจากเลือดไปเลี้ยงสมองไม่พอ
การดูแล
นอนราบ ยกปลายเท้าสูง
คลายเสื้อผ้าให้หลวม หายใจเข้า-ออกลึกๆ
ให้ดื่มน้ำหวาน และหรือน้ำเกลือแร่
จัดสิ่งแวดล้อมให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก
ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก (Burn)
การที่ผิวหนังถูกทำลายด้วยความร้อนที่อุณหภูมิที่สูงกว่า 45 องศาเซลเซียสขึ้นไป ได้แก่ เปลวไฟ น้ำเดือด ไอน้ำ สารเคมี ไฟฟ้า และรังสีต่างๆ
การดูแล
ชั้นผิวหนัง
ระบายความร้อนออกจากแผล ไม่ควรใช้น้ำแข็งประคบโดยตรง
ทาด้วยยาทาแผลไหม้
ห้ามเจาะถุงน้ำหรือตัดส่วนที่พองออก
ปิดด้วยผ้าสะอาด แล้วพันไว้
การดูแลชั้นเนื้อเยื่อใต้ผิวหนัง
ไม่ต้องระบายความร้อนออกจากแผล
ห้ามใส่ยาใดๆ ทั้งสิ้นลงในบาดแผล
ใช้ผ้าสะอาดปิดบริเวณบาดแผล
ให้ผู้ป่วยนอนราบ ยกขาสูง และรีบนำส่งโรงพยาบาล
ตะคริว (muscle cramp)
การหดเกร็งมัดกล้ามเนื้อ ทำให้เกิดการเจ็บปวด
การรักษา
หยุดพักทันที ยืดเหยียดกล้ามเนื้อ 5-10 นาที นวดด้วยน้ำมันร้อนเบาๆ ห้ามบีบหรือขยำ