Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉิน (กระดูกหัก (เข้าเฝือกชั่วคราว (1…
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นในภาวะฉุกเฉิน
สัตว์กัดต่อย
งูพิษ
พิษต่อระบบประสาท [Neurotoxin]งูจงอาง งูเห่า งูสามเหลี่ยม งูทับสมิงคลา
พิษต่อโลหิต [Hemotoxin ]งูแมวเซา งูกะปะ งูเขียวหางไหม้
พิษต่อกล้ามเนื้อ [Myotoxin]งูทะเล
พิษต่อกล้ามเนื้อหัวใจ [Cardiotoxin]
ผึ้ง ต่อ แตน
การดูแลผู้ที่ถูกผึ้ง ต่อ แตนต่อย
ในกรณีที่มีเหล็กในติดอยู่ในแผล ต้องเอาเหล็กในออกก่อน
ล้างบาดแผลด้วยสบู่และน้ำสะอาด
ประคบด้วยน้ำเย็น
ถ้ามีอาการปวดมากให้รับประทานยาแก้ปวดได้ ถ้ามีอาการมากขึ้นให้นำส่งโรงพยาบาล
แมงกะพรุนกล่อง (Box jellyfish)
ให้ผู้บาดเจ็บอยู่นิ่งๆ เพื่อลดการยิงพิษจากแมงกะพรุน
ล้างบริเวณที่ถูกพิษด้วยน้ำส้มสายชูบ้าน ความเข้มข้น 2-10 % นานอย่างน้อย 30 วินาที หากไม่มีให้ใช้น้ำทะเล
ใช้ถุงมือหนา หรือแหนบคีบหนวดที่ยังติดอยู่ ห้ามใช้มือหยิบ
ให้ใช้วัสดุขอบเรียบ เช่น เปลือกหอย บัตร สันมีด ขูดเอาเมือกออก
ในกรณีของ แมงกะพรุนกล่อง ให้ใช้น้ำแข็งประคบลดอาการปวด หลังจากที่ล้างด้วยน้ำส้มสายชูแล้ว หรือใช้ผักบุ้งทะเลตำพอกที่แผล
แมงป่อง ตะขาบ
ล้าง และฟอกบริเวณแผลด้วยสบู่ ล้างด้วยน้ำสะอาด
ใช้แอมโมเนียหอมชุบปิดแผลไว้
ถ้าปวดให้กินยาแก้ปวดพาราเซตามอล และประคบบริเวณแผลด้วยความเย็น
ถ้ามีอาการแพ้ คือ ไข้สูง ปวดแผลมาก ปวดศีรษะ ควรพาไปพบแพทย์
สารพิษ (Poisons)
1.ทางปาก
มีสติ, ไม่เป็นกรด ด่าง รีบทำให้อาเจียน
หมดสติ, กรด ด่าง ห้ามทำให้อาเจียน
ทางเดินหายใจ
เคลื่อนย้ายผู้ที่ได้รับสารพิษไปยังสถานที่ที่มีอากาศบริสุทธิ์ ถ่ายเทสะดวกและห้ามคนมุง
คลายเสื้อผ้าให้หลวม เปิดทางเดินหายใจให้โล่ง ถ้าหยุดหายใจให้รีบช่วยเหลือ
รีบนำส่งโรงพยาบาล
ทางผิวหนัง
ล้างด้วยน้ำสะอาดนาน ๆ อย่างน้อย 15 นาที
อย่าใช้ยาแก้พิษทางเคมี เพราะความร้อนที่เกิดจากปฏิกิริยาอาจทำให้เกิดอันตรายมากขึ้น
บรรเทาอาการปวดและรักษาภาวะช็อค
ปิดแผล แล้วนำส่งโรงพยาบาล
ข้อเคล็ด (sprain)
หยุดการเคลื่อนไหวข้อที่บาดเจ็บ และให้พักในท่าที่สบายที่สุด
ประคบเย็นภายใน 24 ชม. หลังการบาดเจ็บ
พันด้วยผ้าม้วนยืด (Elastic bandage)
ยกอวัยวะที่ได้รับบาดเจ็บให้สูง เพื่อลดอาการปวด บวม
กระดูกหัก
ระมัดระวังไม่ให้มีการเคลื่อนไหวบริเวณที่มีข้อเคลื่อน หรือกระดูกหัก
ถ้าต้องถอดเสื้อผ้า ต้องตัดตามตะเข็บ อย่าพยายามให้ผู้บาดเจ็บถอดเอง
ถ้าบวมและชามากให้จับชีพจรเปรียบเทียบกับแขนหรือขา ทั้ง 2 ข้างเปรียบกัน
การตรวจบริเวณที่หัก ต้องทำด้วยความระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ปลายกระดูกที่หักเคลื่อนมาเกยกัน
ถ้าต้องมีการห้ามเลือด หลีกเลี่ยงวิธีการห้ามเลือดแบบขันชะเนาะ เพราะถ้ารัดแน่นเกินไป อาจจะทำให้เลือดแดงไปเลี้ยงส่วนปลายไม่พอ
ในรายที่กระดูกหักแบบเปิดให้ใช้ผ้าสะอาดคลุมทับ แล้วพันไว้
เข้าเฝือกชั่วคราว
1.วัสดุที่ใช้ดามต้องยาวกว่าอวัยวะส่วนที่หัก
2.ไม่วางเฝือกลงบนบริเวณที่กระดูกหักโดยตรง ควรมีวัสดุอ่อนนุ่มรอง
3.มัดเฝือกกับอวัยวะที่หักให้แน่นพอควร ระวังปมเชือกกดแผล คอยตรวจบริเวณที่หักเป็นระยะ
4.บริเวณที่เข้าเฝือกจะต้องจัดให้อยู่ในท่าที่สุขสบายที่สุด อย่าจัดกระดูกให้เข้ารูปเดิม ควรเข้าเฝือกในท่าที่เป็นอยู่
มีภาวะเสียเลือด
บาดแผลปิด (closed wound) ประคบเย็นภายใน 24 ชม. แรก ต่อมาให้ประคบความร้อน
บาดแผลเปิด (open wound) ทำความสะอาดแผล ใช้ผ้าสะอาดกดลงบนแผลจนกว่าเลือดจะหยุดไหล ถ้าผ้าปิดแผลชุ่มเลือด ไม่ควรเอาออก ให้ใช้ผ้าสะอาดผืนใหม่ปิดทับ
แผลถูกแทงวัตถุปักคา
หากเป็นวัตถุขนาดใหญ่ ห้ามดึงออก
ใช้ผ้าสะอาดกดรอบๆ พันยึดให้แน่นพอควร
แผลถูกยิง
อวัยวะภายในได้รับบาดเจ็บหรือไม่ สังเกตการหายใจ การเสียเลือด
แผลหน้าท้องไส้ทะลัก
ใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำหมาดๆ วางบนลำไส้ (ห้ามพยายามยัดลำไส้กลับ)
ผ้าสะอาดพันรอบแน่นพอควร
ถ้าช็อกยกปลายเท้าให้สูง ให้ห่มผ้า
ไฟฟ้าดูด
ห้ามจับตัวผู้ป่วยก่อนตัดกระแสไฟ
กำจัดสาเหตุ โดยใช้วัตถุที่เป็นฉนวนเขี่ยสายไฟออก หรือสับสะพานไฟลง
ตรวจชีพจรและการหายใจ
ตรวจดูแผลไหม้
เป็นลม (fainting)
นอนราบ ยกปลายเท้าสูง
คลายเสื้อผ้าให้หลวม หายใจเข้า-ออกลึกๆ
ให้ดื่มน้ำหวาน และหรือน้ำเกลือแร่
จัดสิ่งแวดล้อมให้มีอากาศถ่ายเทสะดวก
ไฟไหม้ น้ำร้อนลวก (Burn)
ระบายความร้อนออกจากแผล ไม่ควรใช้น้ำแข็งประคบโดยตรง
ทาด้วยยาทาแผลไหม้
ห้ามเจาะถุงน้ำหรือตัดส่วนที่พองออก
ปิดด้วยผ้าสะอาด แล้วพันไว้