Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (ผู้ป่วยขาดแรงจูงใจในการเลิกสูบบุหรี่เนื่องจากขาดค…
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
ผู้ป่วยขาดแรงจูงใจในการเลิกสูบบุหรี่เนื่องจากขาดความรู้เรื่องโทษของสารเสพติด
ข้อสนับสนุน
สูบบุหรี่ วันละ 1 ซอง ตั้งแต่ 20 ปีที่แล้ว จนถึงปัจจุบัน
ผู้ป่วยมีอาการเหนื่อยหอบเวลาพูด
อัตตราการหายใจ =26 ครั้ง/นาที
วัตถุประสงค์
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยเลิกสูบบุหรี่
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยรู้ถึงโทษของสารเสพติดในบุหรี่
เกณฑ์การประเมิน
ลักษณะการหายใจปกติไม่มีอาการหายใจลำบาก อัตราการหายใจประมาณ 12-24 ครั้ง/นาที
ผู้ป่วยไม่อยากสูบบุหรี่อีก
กิจกรรมการพยาบาล
พยาบาลสร้างสัมพันธภาพกับผู้ป่วย เพื่อให้เกิดความไว้วางใจ โดยแสดงความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจ รับฟังผู้ป่วยอย่างตั้งใจ ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร อบอุ่น
ให้ข้อมูลทำให้ผู้ป่วยมองเห็นถึงความขัดแย้งที่มีอยู่ในตนเอง เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง จูงใจผู้ป่วยโดยให้รับรู้ว่า พฤติกรรมในปัจจุบันเป็นอุปสรรคอย่างไรกับเป้าหมายในชีวิต
พูดคุยให้ผู้ป่วยได้สำรวจถึงผลดีผลเสียที่ตามมาจากพฤติกรรมของเขา เน้นให้ทราบว่าเขาคือ ผู้ที่รับผิดชอบต่อพฤติกรรมตนเอง
หลีกเลี่ยงการขัดแย้งกับผู้ป่วย ซึ่งในช่วงแรกนี้ผู้ป่วยยังมีความสับสนเกี่ยวกับพฤติกรรมของตนเอง
5.ให้ข้อมูลความรู้ ความเข้าใจ ให้ถูกต้อง เกี่ยวกับสาเหตุการติด แนวทางในการบำบัดรักษา วิธีการที่จะหยุดสูบได้อย่างถูกวิธี
ผู้ป่วยไม่สุขสบายเนื่องจากคาสายสวนปัสสาวะ
ข้อสนับสนุน
หน้านิ่ว คิ้วขมวด เมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย
มีความลำบากเมื่อเคลื่อนไหวร่างกาย
วัตถุประสงค์
เพื่อให้สุขสบายและสามารถไหวร่างกายได้มากขึ้น
เกณฑ์การประเมิน
มีความสุขสบายและนอนหลับพักผ่อน
เคลื่อนไหวร่างกายได้ดีขึ้น
กิจกรรมการพยาบาล
2.จัดสิ่งแวดล้อมให้สะอาดและสงบ เพื่อให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนได้อย่างเต็มที่
1.แนะนำการเคลื่อนไหวให้เปลี่ยนอิริยาบถช้าๆให้การพยาบาลด้วยความนุ่มนวล
3.บันทึกสัญญาณชีพทุก4ชั่วโมง เพื่อประเมินอาการเปลี่ยนแปลง
เกิดภาวะแทรกซ้อนจากการนอนเป็นเวลานาน เช่น
แผลกดทับ กล้ามเนื้อลีบ ข้อยึดติด
ข้อสนับสนุน
เป็นผู้สูงอายุ
ช่วยเหลือตัวเองได้น้อย
มีรอยแดงที่ก้บกบ
วัตถุประสงค์
ป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการนอนเป็นเวลานาน เช่น แผลกดทับ กล้ามเนื้อลีบ ข้อยึดติด
เกณฑ์การประเมิน
ไม่เกิดเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการนอนเป็นเวลานาน เช่น แผลกดทับ กล้ามเนื้อลีบ ข้อยึดติด
กิจกรรมการพยาบาล
การป้องกันการเกิดแผลกดทับ
ประเมินลักษณะของผิวหนังบริเวณท่ีถูกกด ทับว่ามีรอยแดงรอยถลอกมีแผลหรือมีการลอกหลุดของ ผิวหนังโดยเฉพาะผิวหนังบริเวณปุ่มกระดูกทุกส่วน
สอนแนะญาติในการดูแลความสะอาดของ ผิวหนัง โดยเฉพาะผิวหนังบริเวณหลัง และก้นกบให้แห้ง และสะอาดอยู่เสมอ
สอนแนะญาติในการดูแลให้สวมใส่เสื้อผ้าที่ สะอาด ผ้าปูที่นอนสะอาด และปูให้เรียบตึงไม่ควรให้ ผิวหนังผู้ป่วยสัมผัสกับผ้ายางโดยตรง เพื่อป้องกันการอับ ชื้น และป้องกันการเสียดสี
สอนแนะญาติในการดูแลผู้ป่วยลดแรงกด ทับที่บริเวณปุ่มกระดูกต่าง ๆ โดยการกระตุ้นให้ขยับตัวยกก้นลอยพ้นจากพื้นเตียงหรือช่วยพลิกตะแคงตัวทุก2ชั่วโมง
5.แนะนำให้ใช้ที่นอนลมปูรองนอนเพื่อลดแรงกดทับที่ผิวหนังส่วนต่างๆ
6.แนะนำญาติในการกระตุ้นให้ผู้ป่วยออกกำลังกายบนเตียงในส่วนอวัยวะส่วนที่ไม่ถูกจำกัดการเคลื่อนไหว เพื่อให้มีการเคลื่อนไหวไม่เกิดการกดทับตลอดเวลา
ป้องกันการเกิดภาวะกล้ามเนื้อลีบ ข้อยึดติด
กระตุ้นใหผู้ป่วยมีการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันด้วยตนเองเท่าท่ีจะสามารถปฏิบัติได้
ดูแลให้มีการพลิกตัวหรือขยับตัว โดยไม่นอนอยู่ท่าเดียวนานเพื่อให้มีการเคลื่อนไหวของร่างกาย
เกิดภาวะผิวหนังเสียหน้าที่เนื่องจากการกดทับเป็นเวลานาน เพราะไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายท่อนล่างได้
ข้อสนับสนุน
ควบคุมการขับถ่ายปัสสาวะและอุจจาระไม่ได้
ผู้ป่วยมี motor power ของขาทั้งสองข้าง อยู่ในระดับ 0 คือ การเคลื่อนไหวขาทั้งสองข้างไม่ได้ ไม่มีการเกร็งของกล้ามเนื้อเลย pain score เท่ากับ 0 คือไม่มีการเจ็บปวดของขาทั้งสองข้างเลย
ไม่สามารถเดินได้
วัตถุประสงค์
ไม่เกิดแผลกดทับเพิ่ม
เกณฑ์การประเมิน
ผิวหนังไม่มีรอยแดงไม่เกิดการฉีกขาดของผิวหนัง หรือแผลถลอกเพิ่มขึ้น
ผิวหนังชุ่มชื้นและมีความยืดหยุ่นดี
กิจกรรมการพยาบาล
4.แนะนําญาติดูแลผิวหนังของผู้ป่วยให้แห้งและสะอาดอยู่เสมอ ถ้าอากาศร้อนควรเช็ด ตัวและเปลี่ยนผ้าปูบ่อยๆ เพื่อลดแบคทีเรียที่อยู่บน
ผิวหนัง
5.แนะนำให้ญาติใช้ครีมทาผิวบริเวณผิวหนังที่แห้งเพื่อรักษาความชุ่มชื้นของผิวหนัง
3.สอนและสาธิตญาติให้ปฏิบัติตามเมื่อเปลี่ยนท่านอนให้ผู้ป่วย ควรใช้ผ้าขวางเตียง ช่วยยกผู้ป่วยขึ้นไม่ให้วิธีลากดึงเพราะจะทำให้ผิวหนังเกิดการเสียดสีทำให้เส้นเลือดฝอยฉีกขาดและเนื้อเยื่อถูกทำลายได้
6.สร้างเสริมความแข็งแรงของผิวหนัง
และเนื้อเยื่อทั่วไปดังนี้
6.1ประเมินและรักษาภาวะความเจ็บปวดอื่นๆที่มีส่วนเสริมให้เกิดแผลกดทับ เช่น การไข้สูงหรือการติดเชื้อในร่างกาย
6.2ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับอาหาร วันละ2000แคลอรี่ เพื่อให้เพียงพอกับความต้องการของร่างกาย
2.พลิกตัวเปลี่ยนท่าให้ผู้ป่วยทุก2ชั่วโมง ใช้หมอน ช่วยในการจัดท่า นอนตะแคง 30 องศา แบะใช้หมอนป้องกันปลายเท้าดก
1.ประเมินการสภาพผิวหนังโดยการสังเกต ว่ามีรอยแดง หรือรอยกดทับหรือไม่ โดยเฉพาะผิวหนังบริเวณที่มีปุ่มกระดูก
มีภาวะพร่องสุขวิทยาส่วนบุคคล เนื่องจากไม่สามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้
ข้อสนับสนุน
ผู้ป่วยไม่สามารถขยับร่างกายส่วนร่างได้
กล้ามเนื้อขาของผู้ป่วยลีบและอ่อนแรง
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยสามารถปฏิบัติกิจวัตรประจําวันได้ ญาติสามารถดูแลผู้ป่วยในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้
เกณฑ์การประเมิน
1.คะแนนADL มากกว่า 5
2.ญาติสามารถปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน ทดแทนผู้ป่วยได้ตามปกติ
กิจกรการพยาบาล
ดูแลเรื่องโภชนาการของผู้ป่วย ส่งให้ ญาติเรียนการทําอาหารป่นกับนักโภชนากรและวิธีการจัดเก็บอย่างสะอาด มีฝาชีปิดอย่างมิดชิด
4.ดูแลแบบแผนการพักผ่อนและการ
นอนหลบัของผู้ป่วยแนะนําให้นอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอแนะนําให้จัดหาที่นอนที่นิ่มและจัดสถานที่ให้ผู้ป่วยนอนในที่โล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก
แนะนําผู้ป่วยและสอนญาติดูแลใน ด้านการเคลื่อนไหวของผู้ป่วย เช่น การเคลื่อนไหว การลุกนั่ง และการเสริมสร้างทักษะและการกระตุ้น ให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ
5.ดูแลแบบแผนการคิดและการตัดสินใจ ของผู้ป่วยและญาติ โดยพูดคุยกระตุ้นให้ผู้ป่วย และญาติได้คิดและตัดสินใจในการปฏิบัติกิจกรรม ร่วมกัน
ประเมินการปฏิบัติกิจวัตรประจําวัน โดยใช้เครื่องมือ Bathel ADL Index
ผู้ป่วยเสี่ยงต่อการติดเชื้อของกระเพาะปัสสาวะเนื่องจากมีการคาสายสวนปัสสาวะ
ข้อสนับสนุน
ผู้ป่วยไม่สามารถดูแลความสะอาดบริเวณที่คาสายสวนปัสสาวะได้เอง
มีท่อเปิดสู่กระเพาะปัสสาวะทำให้มีโอกาสติดเชื้อโรคเข้าไปในทางเดินปัสสาวะได้ง่าย
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยสามารถดำเนินชีวิตประจำได้ตามปกติ
ป้องกันการติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะ
เกณฑ์การประเมิน
บริเวณ perineum สะดาดไม่อับชื้น
น้ำของปัสสาวะใส ไม่มีตะกอนขุ่น
อุณหร่างกายอยู่ระหว่าง36.0-37.4องศา
กิจกรรมการพยาบาล
2.พยาบาลควรให้กำลังใจกับผู้ป่วยร่วมกับการให้ความรู้ในเรื่องการปฏิบัติตน เพื่อป้องกันการติดเชื้ออย่างถาวร
3.หลีกเลี่ยงการสวนปัสสาวะ ดูแลให้ได้รับสารน้ำอย่างเพียงพอ และควรติดตามดูแลทำงานของไตบันทึกจำนวนสารที่เข้าและออก
4.พยาบาลควรแนะนำผู้ป่วยให้ระมัดระวังเรื่องการติดเชื้อบริเวณอวัยวะสืบพันธุ์เพราะเป็นบริเวณที่มีความชื้นค่อนข้างสูง ซึ่งเป็นตัวกลางสำคัญของการติดเชื้อ อาจแนะนำให้ผู้ป่วย สวมเสื้อผ้า , กางเกงที่โปร่งสบาย ควรเป็นผ้าคอตตอลมากกว่าไนลอน
ประเมินภาวะการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ โดยการซักถามเกี่ยวกับการขับถ่ายปัสสาวะ ลักษณะของปัสสาวะขุ่นมากน้อยเพียงใด วัดอุณหภูมิของร่างกายทุก 4 ชั่วโมง ติดตามผลการตรวจปัสสาวะ ซักถามอาการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดบริเวณบั้นเอวหรือไม่
5.ดูแลความสะอาดบริเวณ Perineum อยู่เสมอโดยเฉพาะบริเวณรอบๆสาย Foley’s Catheter
8.ดูแลถุงรองรับน้ำปัสสาวะ (urine bag) ให้อยู่ต่ำกว่ากระเพาะปัสสาวะ และจัดให้ถุงรองรับน้ำปัสสาวะ (urine bag) อยู่สูงกว่าระดับพื้นห้องเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อเนื่องจากน้ำปัสสาวะจากถุงรองรับน้ำปัสสาวะ (urine bag) ไหลย้อนเข้าไปในสายสวนปัสสาวะ (Ascending infection)
7.ดูแลสาย Foley’s Catheter ให้อยู่ในระบบปิด (close system) โดยไม่ปลดข้อต่อระหว่างสายสวนปัสสาวะกับถุงรองรับน้ำปัสสาวะ
6.สังเกตลักษณะ ปริมาณ และสีของน้ำปัสสาวะ
รู้สึกด้อยค่าเนื่องจากต้องพึ่งพาคนอื่น
กิจกรรมการพยาบาล
ให้กำลังใจผู้ป่วย พูดให้ผู้ป่วยเห็นคุณค่าและความสำคัญในตัวเอง
1.พูดว่าผู้ป่วยด้วยความนุ่มนวลอ่อนโยนและรับฟังผู้ป่วยด้วยความเห็นอกเห็นใจ เมื่อพูดป่วยต้องการพูดรับฟังอย่างตั้งใจไม่แสดงท่าทีเร่งรีบหรือรังเกียจ
ให้คำแนะนำญาติเกี่ยวกับการดำเนินของโรค การดูแลเอาใจใส่ หมั่นมาเยี่ยมผู้ป่วยอย่างสม่ำเสมอเพื่อช่วยให้ผู้ป่วยรู้สึกอบอุ่นและไม่ถูกทอดทิ้ง
เกณฑ์การประเมิน
เอาใจใส่ดูแลตนเองมากขึ้น
ผู้ป่วยซึมเศร้าลดลงไม่เงียบเฉยพูดคุยมากขึ้น
วัตถุประสงค์
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่ามากขึ้น และเป็นที่รักของครอบครัว
ข้อสนับสนุน
ผู้ป่วยพูดว่า “ชีวิตมนุษย์ คนเรา พระเรา ต้องเป็นแบบนี้ ทุกคนเลยไม่ต้องคิดอะไรแล้ว
ผู้ป่วยพูดว่า “อยากไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลสงฆ์ และอยากไปอยู่ใกล้บ้าน
ไม่สนใจร่างกายและการปฏิบัติกิจวัตรประจำวัน
ผู้ป่วยบอกว่า “อยากให้ญาติมาเยี่ยมง่ายขึ้น”