Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล (มีการดูแลสุขภาพตนเองไม่ดี เนื่องจากไม่ตระหนักถึงค…
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
มีการดูแลสุขภาพตนเองไม่ดี เนื่องจากไม่ตระหนักถึงความสำคัญของการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง
วัตถุประสงค์
ส่งเสริมให้มีความตระหนักเกี่ยวกับการมีพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง เพื่อให้มีการดูแลสุขภาพตนเองได้เหมาะสม
เกณฑ์การประเมินผล
แสดงพฤติกรรมสุขภาพที่ถูกต้อง เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโชยน์
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
งดหรือลดการสูบบุหรี่ให้น้อยลง
ข้อมูลสนับสนุน
สูบบุหรี่ทุกวัน วันละ 1 ซอง
ไม่ชอบออกกำลังกาย
ไม่ตรวจสุขภาพประจำปี
รับประทานอาหารไม่เป็นเวลา
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินความรู้ความสนใจของผู้ป่วยต่อการดูแลสุขภาพของตนเอง
สร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการมีสุขภาพที่ถูกต้อง โดยบอกถึงประโยชน์ของอาหาร และประโยชน์ของการออกกำลังกาย
เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยได้ชักถามถึงสิ่งที่ไม่เข้าใจ และต้องการข้อมูลเพิ่มเติม
การที่ผู้ป่วยนอนอยู่เฉยๆ ส่งผลให้กล้ามเนื้อฝ่อลีบ และอาการอ่อนเพลียก็จะรุนแรงมากขึ้น ควรส่งเสริมให้ผู้ป่วยได้ออกกำลังกายตามสภาพ จะช่วยให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรงมากขึ้น โดยร่วมมือกับผู้ป่วยในการจัดตารางในการทำกิจกรรมและพักผ่อน เพื่อให้มีการสงวนพลังงานและให้ผู้ป่วยมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม และทำให้ผู้ป่วยเห็นถึงความสามารถของตนเอง กระตุ้นและช่วยเหลือให้ผู้ป่วยได้ลุกเดิน และฝึกการเกร็งกล้ามเนื้อเท่าที่ผู้ป่วยจะสามารถทำได้ ส่งเสริมและกระตุ้นให้ผู้ป่วยมีการออกกำลังกายเท่าที่ผู้ป่วยจะทนได้ในช่วงกลางวัน
เสี่ยงต่อการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะเนื่องจากคาสายสวนปัสสาวะเป็นเวลานาน
ข้อมูลสนับสนุน
ผู้ป่วยไม่สามารถดูแลความสะอาดบริเวณที่ใส่สายสวนปัสสาวะได้เอง
มีท่อเปิดสู่กระเพราะปัสสาวะทำให้มีโอกาสที่เชื้อโรคจะเข้าไปในทางเดินปัสสาวะได้ง่าย
ผู้ป่วยอายุ 69 ปี เป็นอัมพาตส่วนล่าง
เกณฑ์การประเมินผล
น้ำปัสสาวะใส ไม่มีตะกอน
อุณหภูมิร่างกายอยู่ที่ระหว่าง 36.0 - 37.4 องศาเซลเซียล
บริเวณที่ใส่สายสวนปัสสาวะ สะอาด ไม่อับชื้น
วัตถุประสงค์
ป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
กิจกรรมการพยาบาล
ดูแลความสะอาดบริเวณที่ใส่สายสวนปัสสาวะอยู่เสมอ
สังเกตลักษณะ ปริมาณและสีของน้ำปัสสาวะ
ดูแลผู้ป่วยได้รับน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายอย่างน้อยวันละ 2000 cc
ประเมินอุณหภูมิร่างกายทุก 4 ชั่วโมง
ดูแล Foley catheter ให้อยู่ในระบบปิด (Closed system) โดยไม่ปลดข้อต่อระหว่างสายสวนปัสสาวะกับถุงรองรับน้ำปัสสาวะ
ดูแลถุงรองรับน้ำปัสสาวะ (Urine bag) ให้อยู่ต่ำกว่ากระเพาะปัสสาวะและจัดให้ urine bag อยู่สูงกว่าระดับพื้นห้องเสมอ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
เปลี่ยน Foley catheter และ Urine bag ทุก 2- 4 สัปดาห์ หากประเมินว่าผู้ป่วยเริ่มมีอาการของการติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะ
ไม่สามารถตอบสนองความต้องการด้านกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติเนื่องจากสูงอายุมาก
ข้อมูลสนับสนุน
ผู้ป่วยเป็นอัมพาตส่วนล่าง
ไม่สามารถขยับขาได้ ต้องใช้มือในการดันตัวไปมา
ผู้ป่วยมีร่างกายปากฟันไม่สะอาด
ผู้ป่วยสูบบุหรี่วันละ 1 ซอง
หยิบสิ่งของไม่ถนัด
เวลาเคลื่อนไหวจะลุกนั่งได้เฉพาะบนเตียงแต่ลงนั่งข้างเตียงและเดินไม่ได้
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยได้รับการตอบสนองความต้องการด้านกิจวัตรประจำวันตามปกติ และส่งเสริมให้ผู้ป่วยสามารถดูแลกิจวัตรประจำวันของตนเองได้มากที่สุดโดยมีญาติช่วยเหลือ
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินความสามารถในการทำกิจกรรมต่างๆ
สอนญาติให้ช่วยเหลือผู้ป่วยได้ถูกวิธี และกระตุ้นให้ผู้ป่วยฝึกปฏิบัติด่วยตนเองบ่อยๆ
เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ผู้ป่วยทุกครั้งเมื่อมีการเปียกชื้น
กระตุ้นให้ญาติมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วย
ดูแลความสะอาดบริเวณperinem อยู่เสมอโดยเฉพาะบริเวณรอบๆสายสวนปัสสาวะ (Foley catheter)
จัดหาแปรงสีฟัน ยาสีฟัน และน้ำให้ผู้ป่วยได้ทำความสะอาดปากและฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งและดูแลให้
เกณฑ์การประเมินผล
ผู้ป่วยช่วยตัวเองในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันได้มากขึ้น
ร่างกาย ปาก และฟันสะอาด
เสื้อผ้าและสิ่งแวดล้อมสะอาด
เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายเนื่องจากร่างกายส่วนล่างเป็นอัมพาต
ข้อมูลสนับสนุน
เป็นอัมพาตส่วนล่าง
กล้ามเนื้อขาอ่อนแรง
กล้ามเนื้อขาไม่มีกำลัง
นั่งทรงตัวไม่ได้ต้องคอบจับราวข้างๆ
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยปลอดภัยไม่เกิดอุบัติเหตุ
เกณฑ์การประเมิน
ผู้ป่วยไม่ตกเตียง
ผู้ป่วยไม่มีบาดแผลเกิดขึ้นที่ใดของร่างกาย
กิจกรรมการพยาบาล
จัดแก้วน้ำ เครื่องใช้ต่างๆที่ผู้ป่วยใช้บ่อยๆ ไว้ด้านที่ผู้ป่วยสามารถหยิบเองได้สะดวก เพื่อผู้ป่วยจะได้ไม่ต้องเอื้อมหยิบของใช้ป้องกันการตกเตียง
ไม่ปล่อยให้ผู้ป่วยอยู่คนเดียว
กระตุ้นให้ญาติมีส่วนร่วมในการดูแลผู้ป่วยและสอนญาติให้มีทักษาในการช่วยเหลือผู้ป่วยอย่างปลอดภัย
ดูแลสายสวนปัสสาวะให้อยู่ถูกที่ ถูกตำแหน่ง
หมดความภาคภูมิใจในตนเองเนื่องจากต้องพึ่งพาผู้อื่น
ข้อมูลสนับสนุน
ผู้ป่วยพูดว่า อายุ 69 ปี แล้ว
ขณะพูดมีสีหนน้าเศร้า
ไม่ค่อยอยากทำความรู้จักกับใคร
ผู้ป่วยบอกว่า ถึงไปโรงพยาบาลก็ไม่สามารถรักษาโรคที่เป็นอยู่หายได้
ผู้ป่วยบอกว่า ไม่มีใครสนใจ ญาติไม่สนใจ
วัตุประสงค์
ส่งเสริมให้ผู้ป่วยรู้สึกว่าตนเองมีคุณค่ามากขึ้นและเป็นที่รักของครอบครัว
เกณฑ์ประเมินผล
ไม่พูดถึงตนเองในแง่ลบ
เอาใจใส่ ดูแลตนเองมากขึ้น
ผู้ป่วยซึมเศร้าลดลงไม่เงียบเฉย พูดคุยมากขึ้น
พูดคุยกับญาติ
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินความรู้สึก การแสดงออกของผู้ป่วยทั้งคำพูดและพฤติกรรม
บอกผู้ป่วยทุกครั้งเมื่อจะทำอะไรให้ผู้ป่วย
ให้กำลังใจผู้ป่วย พูดให้ผู้ป่วยเห็นความสามารถของตนเอง
ส่งเสริมสัมพันธภาพที่ดีในครอบครัว ให้ครอบครัว ญาติๆมีควาามเข้าใจผู้ป่วย และมีส่วนร่วมในการส่งเสริมความรู้สึกภูมิใจในตนเองของผู้ป่วยให้มีมากขึ้น
ไม่ตำหนิผู้ป่วยเมื่อผู้ป่วยทำอะไรผิดพลาด
มีภาวะเครียด เนื่องจากต้องปรับเปลี่ยนแบบแผนการดำเนินชีวิต
ข้อมูลสนับสนุน
บ่นว่าถ้าต้องย้ายไปที่โณงพยาบาลก็รักษาไม่หาย
น้อยใจไม่มีญาติมาดูแล
เคยมีคนมาดูแล แต่ปัจจุบันไม่มี
วัตถุประสงค์
ภาวะเครียดลดลงและสามารถปรับตัวให้เข้ากับแบบแผนการดำเนินชีวิตที่เปลี่ยนแปลงได้
เกณฑ์การประเมินผล
สีหน้าเครียดน้อยลงพูดคุยมากขึ้น
สีหน้ายิ้มแย้มไม่แสดงอาการวิตกกังวล
สามารถบอกวิธีปฎิบัติตัวได้ถูกต้องและให้ความร่วมมือในการรักษา
กิจกรรมการพยาบาล
สร้างสัมพันธภาพที่ดีกับผู้ป่วยและครอบครัว
เปิดโอกาสให้ผู้ป่วยและญาติซักถามในสิ่งที่สงสัยและตตอบปัญหาต่างๆให้ผู้ป่วยและครอบครัวเข้าใจ
ให้ความรู้และแนะนำวิธีปฏิบัติตัวที่ถูกต้องเมื่อกลับบ้าน ได้แก่ เรื่องอาหาร การใช้ยา การออกกำลังกาย การรักษาความสะอาดของร่างกาย
https://www.youtube.com/watch?v=uG9FVBfba40
https://www.youtube.com/watch?v=q3lSD-FoBoU