Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดปกติการนอนหลับ และการตื่น (Sleep-wake disorder) (ประกอบด้วย 10 โรค…
ความผิดปกติการนอนหลับ และการตื่น
(Sleep-wake disorder)
ประกอบด้วย 10 โรค
(ตาม DSPM)
โรคนอนไม่หลับ (Insomnia disorder) หลับยาก หลับไม่สนิท ตื่นนอนเร็วกว่าปกติ
โรคนอนหลับมากผิดปกติ (Hypersomnolence disorder) หลับมากกว่าปกติ รู้สึกไม่สดชื่นทั้งที่นอนเต็มที่ตั้งแต่ 7 ชั่วโมงขึ้นไป
โรคลมหลับ (Narcolepsy) ง่วงนอนมากเกินไป ควบคุมความง่วงไม่ได้
โรคนอนหลับจากปัญหาการหายใจ (ฺBreating-relate sleep disorder) มีช่วงขาดหายใจทำให้ O2 ในเลือดน้อยลง
ความผิดปกติวงจรเวลาการนอนหลับและการตื่น (Circadian rhythm Sleep-wake disorder) หลับไม่เต็มอิ่ม
โรคตื่นตัวผิดปกติขณะนอนหลับ
ละเมอเดิน (Sleep walking)
ฝันผวา (Sleep terror)
โรคฝันร้าย (Nightmare disorder)
ผิดปกติ ในช่วง rem sleep เคลื่อนไหวร่างกายตามความฝัน
ขาอยู่ไม่สุข (Restless leg syndrom)
โรคการนอนที่เกิดจากสารหรือยา (Substance/medication-induced sleep disorder)
การรักษา
ยานอนหลับกลุ่ม Benzodiazepines
ผลข้างเคียง
ความบกพร่องของความจำ
ผลต่อการรู้การเข้าใจ และpsychomotor ทำให้เกิดอาการง่วงนอน บกพร่องในการมองเห็นภาพ3มิติและความสนใจ
ความเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายต่อสุขภาพ เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ
ผลทางจิตเวชอื่นๆ อาจทำให้การยับยั้งหรือการควบคุมพฤติกรรมลดลง ถ้าใช้ยาเป็นเวลานานจะมีอาการวิตกกังวลและซึมเศร้า
ยาต้านเศร้า (Antidepressants)
Amitriptyline, Nortriptyline, Imipramine, Clomipramine
ยาในกลุ่ม ssri s (escitalopram, sertraline, fluoxetine, fluvoxamine, paroxetine)
ยาต้านเศร้ากลุ่มอื่นๆ (venlafaxine, trazadone, nefazodone, mirtazapine)
Connitive-behaviorol therapy (CBT)
ให้ความรู้เกี่ยวกับวงจรชีวิต
เวลาในการนอน
การรับแสง
เปลี่ยนพฤติกรรมของผู้ป่วย
Sleep hygiene
สิ่งที่ควรปฏิบัติ
ควรรักษาความสมดุล และความสม่ำเสมอในกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ
ในห้องนอน ควรจัดบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
ควรปรับท่านอนให้เหมาะสมกับตนเอง
การรับประทานอาหารว่างเบาๆ ก่อนนอน
ควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียดบ้าง
การอาบ หรือแช่น้ำอุ่นก่อนนอนประมาณ 1 - 1½ ชั่วโมง อาจทำให้หลับดีขึ้นได้
ก่อนนอน ควรทำกิจกรรมสั้นๆ ให้ร่างกายทราบว่าถึงเวลาเข้านอนแล้ว
ควรหลับต่อเนื่องอย่างน้อย 6 -8 ชั่วโมง ต่อวัน และควรเข้านอนก่อนเที่ยงคืน
ถ้าไม่สามารถหลับได้ หลังจากเข้านอนแล้ว เกิน 30 นาที ไม่ควรนอนอยู่บนเตียง ควรลุกขึ้นจากเตียงนอน และออกจากห้องนอน แล้วทำกิจกรรมชนิดอื่นแทน
ถ้าตื่นขึ้นกลางดึก หลังเข้านอนแล้ว ไม่ควรพยายามกดดันตนเองเพื่อให้รีบนอนจนเกินไป
ควรควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้มากเกินไป
ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน
ควรรับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำในแต่ละช่วงเวลา
ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอกบ้าน ควรสัมผัสกับแสงอาทิตย์ หรือแสงธรรมชาติระหว่างวันบ้าง
สิ่งที่ควรเลี่ยง
ในระหว่างกลางวัน พยายามไม่งีบหลับ
หลีกเลี่ยงการบริโภคสารคาเฟอีน (caffeine)
หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นส่วนผสม ภายใน 4-6 ชั่วโมงก่อนนอน
หลีกเลี่ยงการใช้สารนิโคตินภายใน 4-6 ชั่วโมง ก่อนนอน
หลีกเลี่ยงยาที่มีฤทธิ์กระตุ้นประสาท, ยาขยายหลอดลม และยาแก้คัดจมูกบางชนิดในช่วงก่อนนอน
เลี่ยงการรับประทานอาหารจำนวนมาก หรืออาหารที่ย่อยยาก ภายใน 3 ชั่วโมงก่อนนอน
เลี่ยงการออกกำลังกายที่หนักและหักโหม ในช่วงหัวค่ำ หรือภายใน 4-6 ชั่วโมงก่อนนอน
เลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้เกิดความเครียด ในช่วงเวลาใกล้นอน
เลี่ยงการดื่มน้ำจำนวนมากก่อนนอน
เลี่ยงการใช้ยานอนหลับอย่างต่อเนื่องนานเกิน 1 เดือน
เลี่ยงการทำกิจกรรมอื่นๆบนเตียงนอน
ควบคุมการกระตุ้น
จำกัดการนอน
เพิ่มพฤติกรรมและลดพฤติกรรมการตื่นตัว
เข้าถึงระบบการตื่นตัว (arousal sytem) ผ่านการผ่อนคลายร่างกายและจิตใจ ลดความวิตกกังวล
การปฏิบัติตัวเพื่อลดความเครียด
รับประทานให้ครบห้าหมู่
งดสูบบุหรี่
แก้ไขพฤติกรรม ให้มองโลกในแง่ดี สร้างสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่น มีจิตใจเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
ออกกำลังกาย
มีกิจกรรมให้ความสุข
ฝึกผ่อนคลายกล้ามเนื้อ
ปรับวิธีคิดให้ถูกต้อง
การทำสมาธิ
ปฏิบัติตัวตามหลักของพระพุทธศาสนา
เทคนิคการลดความเครียดอย่างอื่น
ฝึกหายใจ การนวด การอบตัว และรสสุคนธ์บำบัด
นางสาวจุฑามาศ รัตนวงค์ เลขที่ 80 ห้อง A รุ่น 24