Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยารักษาโรคจิต (Antipsychotic Drugs/Major Tranquillizers) (ผลข้างเคียงของยา…
ยารักษาโรคจิต (Antipsychotic Drugs/Major Tranquillizers)
Typical antipsychotic drugs หรือ Dopamine Antagonists (DA)
กลุ่ม Aliphatic Phenothiazine
Chlorpromazine (Largactil) 25 mg, 50 mg, 100 mg, 200 mg
มีฤทธิ์ Sedative สูง มีฤทธิ์ข้างเคียงทำให้ความดันโลหิตต่ำมากกว่ายาชนิดอื่น
Piperazine Phenothiazine
มีฤทธิ์ Sedative ปานกลาง มี Extrapyramidal Symptoms น้อย แต่มีฤทธิ์ข้างเคียง Anticholinergic สูงกว่ายาอื่น
Thioridazine (Melleril, Tidazine, Thiomed) 10 mg, 25 mg, 50 mg, 100 mg
กลุ่ม Piperazine Phenothiazine
มีฤทธิ์ Sedative ต่า แต่ Extrapyramidal Symptoms สูง ลดความคิดหลงผิด และประสาทหลอนได้ดี
Perphenazine (Trilafon, pernazine, Pernamed) 2 mg, 4 mg. 8 mg
Trifluoperazine (Stelazine, Triflazine, Psyrazine) 1 mg, 2 mg, 5 mg, 10 mg
Fluphenazine (Fendec, Phenezine, Prolixin) 25 mg/ml
กลุ่ม Thiozanthenes
Zuclopenthixol Acetate (Clopixol Acuphase) 50 mg/ml, 200 mg/ml
Flupenthixol Decanoate (Fluanxol Depot) 20 mg/ml, 40 mg/ml
กลุ่ม Butyrophenone
มี Potency สูง มีฤทธิ์ Sedative น้อยละมี Extrapyramidal Symptoms สูง ใช้ในการควบคุมอาการวุ่นวาย ก้าวร้าว ประสาทหลอน หลงผิด และ Mania
Haloperidol (Haldol, Halop, Haridol) ชนิดรับประทาน 0.5 mg, 2 mg, 5 mg, 10 mg และ ชนิดฉีด 5 mg/ml
Bromperidol (Impromen) 5 mg, 10 mg มีทั้งชนิดรับประทานและฉีด
Atypical antipsychotic drugs หรือ Serotonin-Dopamine Antagonists (SDA)
เป็นยารักษาโรคจิตกลุ่มใหม่ ซึ่งยากลุ่มใหม่นี้มีคุณสมบัติทางเภสัชวิทยาต่างจากยากลุ่มเดิม มีการตอบสนองต่อการรักษาและผลข้างเคียงประเภท Extrapyramidal Symptoms น้อยกว่ายากลุ่มเดิม แต่ราคาจะค่อนข้างสูงกว่า ยากลุ่มใหม่
Clozapine (Clozaril, Clopaze) 25 mg, 100 mg
Risperidone (Risperdal) 1 mg, 2 mg, 3 mg, 4 mg
Olanzapine (Zyprexa) 5 mg, 7.5 mg, 10 mg
Quetiapine (Seroquel) 25 mg, 100 mg, 200 mg
Ziprasidon (Geodon) 20 mg, 40 mg
ผลข้างเคียงของยา และการพยาบาล
Extrapyrmidal Symptoms (EPS)
ทำให้เกิดความผิดปกติทางการเคลื่อนไหว
Pseudoparkinsonism/Parkinsonism มีอาการเหมือนกับคนเป็นโรค Parkinson เช่น การเคลื่อนไหวช้า (Akinesia) เดินขาลาก มีอาการสั่น (Tremor) กล้ามเนื้อแข็งเกร็ง (Rigidity) สีหน้าเฉยเมยไม่แสดง
ความรู้สึก เหมือนใส่หน้ากาก (Mask Face) กลืนน้าลายไม่ลง ทำให้มีน้าลายเต็มปาก
Acute Dystonia ผู้ป่วยจะมีอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ (Muscle Spasm) คอบิดไปข้างใดข้างหนึ่งหรือลำตัวบิดไปด้านข้าง กล้ามเนื้อที่หน้ากระดุก ขากรรไกรแข็ง น้าลายไหล ลิ้นคับปาก พูดไม่ชัด กลืนลำบาก ตาเหลือกขึ้นค้างบนตลอดเวลา หลังแอ่น
Akathisia
ระวังการเกิดอุบัติเหตุ และการรบกวนผู้อื่น คอยดูแลการรับประทานอาหาร
เป็นความรู้สึกกระวนกระวาย กระสับกระส่าย อยู่นิ่งไม่ได้ ต้องเคลื่อนไหวตลอดเวลา มือและแขนสั่น มีอาการคล้าย Agitation
อธิบายให้ผู้ป่วยทราบว่าอาการเหล่านี้จะเกิดได้ในระยะแรกที่ได้รับยา จะเกิดขึ้นชั่วคราวเท่านั้น จะหายไปได้เมื่อใช้ยาแก้แพ้ (Antiparkinson drugs) และร่างกายจะค่อยๆ ปรับตัวได้ อาการดังกล่าวจะไม่มีอันตรายกับผู้ป่วย เพื่อลดความวิตกกังวลของผู้ป่วย
Tardive dyskinesia
คอยสังเกตอาการ ถ้าพบควรให้อาหารที่มีแคลลอรี่สูง อาหารอ่อน ให้ผู้ป่วยพักผ่อนให้เพียงพอแนะนำผู้ป่วยให้พูดช้าๆ ให้ผู้ป่วยพูดถึงความรู้สึกเขาออกมา
จะมีอาการของการเคลื่อนไหวซ้าๆ ของกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าลิ้น และลำคอ ผู้ป่วยอาจไม่รู้ตัวหรือควบคุมไม่ได้ เช่น ดูดปาก แลบลิ้น เลียริมฝีปาก เคี้ยวปาก แสยะใบหน้า กลืนลำบาก ซึ่งเกิดจากการใช้ยาในขนาดสูงเป็นระยะนานติดต่อกันอย่างน้อย 3 เดือน เป็นอาการที่ดื้อต่อการรักษา
Neuroleptic malignant syndrome (NMS)
เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก อาการสำคัญ คือ มีอาการกล้ามเนื้อแข็งเกร็งอย่างรุนแรง ไข้สูง หัวใจเต้นเร็ว เหงื่อออกมาก ปัสสาวะออกน้อย ความดันโลหิตไม่สม่ำเสมอ ระดับการรู้สึกตัวลดลง อาจเกิดภาวการณ์ทางานของระบบหายใจล้มเหลว และอาจเสียชีวิตได้
คอยสังเกตการ ถ้าพบรีบรายงานแพทย์ทราบเพื่อให้การช่วยเหลือ
Anticholinergic side effect
จะทำให้มีผลต่อระบบประสาทอัตโนมัติ เกิดจากการใช้ยา Thioridazine เป็นส่วนใหญ่ โดยมีอาการปากแห้ง ตาพร่า ปัสสาวะลำบาก ท้องผูก
ให้อมน้ำแข็งหรือจิบน้าบ่อยๆ
ให้ความมั่นใจว่าอาการจะหายไปได้ ไม่ควรขับรถจนกว่าอาการตาพร่าจะดีขึ้นระวังการพลัดตกหกล้มจากการมองเห็นไม่ชัด
จดบันทึกน้ำดื่มและปัสสาวะเพื่อดูความสมดุลของน้ำที่ได้รับและการขับถ่ายออกไป หาหลายๆ วิธีที่จะทาให้ผู้ป่วยปัสสาวะได้เอง
แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานอาหารที่มีกากใยมากๆ เช่น ผัก ผลไม้ ดื่มน้ำเพิ่มขึ้นถ้าไม่มีข้อห้าม และกระตุ้นให้ผู้ป่วยออกกำลังกาย
Adrenergic side effect
มีความดันโลหิตต่ำเมื่อเปลี่ยนอิริยาบถ (Orthostatic hypotension) ทำให้ผู้ป่วยมีอาการเวียนศีรษะและหน้ามืด
แนะนำผู้ป่วยให้ลุกขึ้นอย่างช้าๆจากท่านอนเป็นท่านั่ง หรือท่านั่งเป็นท่ายืน วัดความดันโลหิตท่านอนและท่ายืนเพื่อเปรียบเทียบกัน
ผลต่อระบบต่อมไร้ท่อ (Endocrine effect)
ผลต่อการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนในร่างกายกลายชนิด ที่พบบ่อย คือ ผู้หญิงมีการเพิ่มระดับ Prolactin ซึ่งเป็นผลให้มีเต้านมคัด และบางรายมีการหลั่งน้ำนม (Lactation) ประจำเดือนผิดปกติ ความต้องการทางเพศลดลง สำหรับผู้ชายอาจมีเต้านมโตขึ้น การหลั่งอสุจิลดลง มักเกิดจากยา Thioridazine นอกจากนี้ที่พบบ่อย คือ หิวบ่อย กินจุ น้าหนักตัวเพิ่มขึ้น (Weight Gain)
อธิบายให้ผู้ป่วยฟังว่าอาการเล่านี้จะเกิดชั่วคราวเท่านั้นและจะเป็นปกติได้ แนะนำเรื่องอาหารและการออกกำลังกาย
ผลต่อผิวหนัง
(Skin reaction)
อาจจะมีลมพิษหรือผิวหนังอักเสบ เนื่องจากผิวหนังไวต่อแสงแดด
มักจะพบบริเวณใบหน้าและแขนผิวหนังอาจจะไหม้เมื่อถูกแสงแดด
หรือสีผิวอาจเปลี่ยนไป โดยเฉพาะในส่วนที่ถูกแสงแดด
เกิดจาก Chlorpromazine
อาจจะหยุดยาชั่วคราว หรือให้ยาแก้แพ้และแนะนำผู้ป่วยให้ระวัง โดยใส่เสื้อแขนยาวหรือกางร่ม หรือใช้ยาทาผิวกันแสงแดดเมื่อจะออกไปข้างนอก
ผลต่อตับ (Hepatologic effect)
ทำให้เกิดดีซ่านได้ จากยา Chlorpromazine ใน 1-2 เดือนแรกของการใช้ยา
สังเกตอาการดีซ่าน เช่น ตัวเหลือง ตาเหลือง
ผลต่อระบบเลือด (Hematologic effect)
ทำให้มีจำนวนเม็ดเลือดขาวน้อยกว่าปกติ (Agranulocytosis) ผู้ป่วยจะมีอาการติดเชื้อง่าย (เจ็บคอ มีไข้) พบได้จากยา Chlorpromazine
สังเกตอาการของผู้ป่วย เช่น เจ็บคอ มีไข้ รายงานให้แพทย์ทราบ
ความต้านทานต่อการชักลดลง
(Effect on seizure threshold)
ผู้ป่วยจะมีอาการชักง่ายขึ้น ในผู้ป่วยที่มีประวัติโรคลมชัก
คอยสังเกตอาการชักของผู้ป่วยที่อาจจะเกิดขึ้นได้
ผลต่อตา
(Ocular effect)
มีการเปลี่ยนสีที่เลนส์ถูกตาและที่ Retina ทำให้ตาพร่ามองเห็นไม่ชัด พบในรายที่ได้รับการรักษาเป็นเวลานานเป็นผลจาก Thioridazine ขนาดสูง (800 mg/day)
คอยสังเกตอาการของผู้ป่วยและถ้าพบแนะนำให้ผู้ป่วยระวังการเคลื่อนไหว
เพราะอาจพลัดตกหกล้มทำให้บาดเจ็บได้