Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ที่มีความผิดปกติทางด้านบุคลิกภาพ personality disorder (สาเหตุ…
การพยาบาลผู้ที่มีความผิดปกติทางด้านบุคลิกภาพ personality disorder
หมายถึง
แบบแผนของพฤติกรรมและการดำเนินชีวิต ที่เบี่ยงเบนไปจากวัฒนธรรมของบุคคลนั้นๆ และเป็นไปอย่างถาวร (APA, 2000 อ้างใน Mohr, 2006.)
อุบัติการณ์ (Epidemiology)
พบประมาณ 0.5% - 3% ของประชากรทั่วไป ขึ้นอยู่กับแต่ละชนิดของความผิดปกติ และพบสูงถึง 20%ของผู้ป่วยจิตเวช (Fortinash and Holoday,2007.)
สาเหตุ (Etiology)
Biological factors - Genetic / familial factors
พบความผิดปกติได้สูงในญาติสายตรง
พบได้สูงในฝาแฝดเหมือน (Monozygotic twins)
Neurotransmitter dysregulation
บางการศึกษาพบว่า serotonin มีระดับต่ำในผู้ที่มีพฤติกรรมพยายามฆ่าตัวตาย
พบระดับของ dopamine เพิ่มขึ้นในผู้ที่มีความผิดปกติของความคิด และ การรับรู้
Psychosocial / Environment stressors
การเลี้ยงดูของพ่อแม่
เข้มงวด / ลงโทษ
ปล่อยตามใจ
ทอดทิ้ง / ทารุณกรรม
ความสัมพันธ์พ่อ-แม่-ลูกไม่ดี
อิทธิพลของคนใกล้ชิด - การขาดที่พึ่ง - ความยากจน - การถูกกดขี่ หรือทารุณกรรมทางด้านจิตใจ
Psychoanalytic factors
ความไม่เหมาะสมของพัฒนาการในระยะต่างๆตามทฤษฎี Psychosexual development ของ Freud (oral, anal, phallic stages)
โครงสร้างทางจิต ( Psychic structure : id, ego, superego) บกพร่อง
ชนิดของความผิดปกติทางด้านบุคลิกภาพ (Categories of Personality Disorders)
ตาม DSM-V ได้จำแนกตามลักษณะเด่น ออกเป็น 3 กลุ่ม ดังนี้
Cluster B มีการแสดงออกทางอารมณ์ผิดปกติ หรือเหมือนแสดงละคร (Dramatic - emotional) ได้แก่ Antisocial, Borderline, Histrionic และ Narcissistic personality disorders
B1
B2
B3
B4
ต้องมีอาการ 5 อย่างขึ้นไป
1•มีความคิดว่าตนเองเป็นคนสำคัญเหนือคนอื่น
2•หมกมุ่นกับความสำเร็จ ความฉลาดหลักแหลม ความสวยงามของตนเอง
3•มีความเชื่อว่าตนเองควรจะอยู่ในกลุ่มคนที่มีสถานภาพทางสังคมสูง หรือตำแหน่งใหญ่โต
4•ต้องการการยกย่องชมเชยจากผู้อื่นอย่างมาก
5•คิดว่าตัวเองเป็นผู้มีสิทธิพิเศษกว่าคนอื่น
6•เห็นแก่ตัวและเอาเปรียบ โดยไม่คำนึงถึงความรู้สึกของผู้อื่น
7•ขาดความเข้าในและเห็นใจ ไม่รับรู้ความต้องการของผู้อื่น
8•มีความคิดว่าผู้อื่นอิจฉาตนเอง
9•หยิ่งยโส รสนิยมสูง
Cluster C มีความหวาดกลัวหรือความวิตกกังวลอย่างสูง (Fearful – anxious) ได้แก่ Avoidant, Dependent, และ Obsessive-compulsive personality disorders
C1
ต้องมีอาการอย่างน้อย 4 อย่างขึ้นไป
1•หลีกเลี่ยงการเข้าสังคมหรือการทำงานร่วมกับผู้อื่น เนื่องจากกลัวผู้อื่นปฏิเสธ ทั้ง ๆ ที่ตัวเองต้องการเพื่อน
2•ไม่ยอมร่วมกิจกรรมกับผู้อื่น นอกจากคนในกลุ่มที่คุ้นเคย
3•มีข้อจำกัดในเรื่องการสร้างความสัมพันธ์
4•หมกมุ่นกับความคิดที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ หรือถูกปฏิเสธ
5•รู้สึกว่าตนเองไม่มีความสามารถ ไม่สามารถเรียนรู้กิจกรรมใหม่ ๆ ได้
6•มองว่าตนเองเข้าสังคมไม่เป็น บุคลิกไม่ดี และมีข้อด้อยมากกว่าข้อดี
7•มีความลังเลในเรื่องที่จะต้องเสี่ยง หรือการทำกิจกรรมกับผู้อื่น
C2
มีเอกลักษณ์เฉพาะด้วยการต้องขึ้นอยู่กับคนอื่น ๆ ทั้งความต้องการทางกายภาพ
หรือทางอารมณ์ มักไม่ต้องการที่จะอยู่คนเดียว ไม่กล้าตัดสินใจ, กลัวการขัดแย้ง
เป็นฝ่ายตั้งรับในความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล สนใจมากไปเกี่ยวกับสิ่งที่คนอื่นคิด กังวลการถูกทอดทิ้ง และไม่สามารถจัดการกับคำวิจารณ์หรือการไม่เห็นด้วย
ต้องมีอาการ 5 ข้อขึ้นไป
1.ต้องพึ่งพาผู้อื่นอยู่เสมอ
ให้ผู้อื่นตัดสินใจเกี่ยวกับเรื่องสำคัญๆ
ไม่กล้าที่จะไม่เห็นด้วยกับผู้อื่น
หลีกเลี่ยงการทำงานที่ต้องตัดสินใจ
ยอมรับผู้อื่นแทบทุกเรื่อง
รู้สึกไม่สบายใจอย่างมากถ้าต้องอยู่ตามลำพัง
รีบหาสัมพันธภาพใหม่เมื่อความสัมพันธ์ที่มีอยู่เดิมสิ้นสุดลง
ครุ่นคิดและกังวลว่าตนจะถูกทอดทิ้ง
C3
Cluster A มีพฤติกรรมแบบแปลกประหลาด (Eccentric) ได้แก่ Paranoid, Schizoid และ Schizotypal personality disorders
A1
A2
บุคลิกจิตเภท (Schizoid personality disorder)
ต้องมีอาการ4 ข้อขึ้นไป
1.หลีกเลี่ยงการมีมนุษยสัมพันธ์กับผู้อื่น
ชอบทำงานตามลำพังคนเดียว
ไม่ชอบการมีเพศสัมพันธ์
มีกิจกรรมที่ให้ความสุขน้อยมาก
ไม่มีเพื่อนสนิท
กดเก็บความรู้สึกไม่ค่อยแสดงออก
มีอารมณ์เย็นชา
A3
1•คิดว่าผู้อื่นพูดถึงหรือนินทาเรื่องของตน
2•มีความคิดแปลก ๆ เช่น ตาทิพย์หูทิพย์
3•มีการแปลสิ่งเร้าผิด (illusion)
4•มีการพูดที่แปลก ๆฟังไม่เข้าใจ
5•มีความหวาดระแวงสงสัย
6•ไม่ค่อยแสดงอารมณ์
7•มีพฤติกรรมแปลกๆ
8•ไม่มีเพื่อนสนิท
มีความกังวลอย่างมากเมื่ออยู่กับคนแปลกหน้า
การบำบัดรักษา
ผู้ที่มีความผิดปกติทางด้านบุคลิกภาพโดยทั่วไปแล้ว จะไม่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล นอกจากจะมีความรุนแรงในเรื่องของ การพยายามฆ่าตัวตาย การทำร้ายผู้อื่น การควบคุมตนเองไม่ได้ เป็นต้น อย่างไรก็ตามมีวิธีการบำบัดรักษาหลายอย่าง ที่ใช้สาหรับผู้ที่มีความผิดปกติทางด้านบุคลิกภาพ ซึ่งให้เหมาะสมกับความผิดปกติทางด้านบุคลิกภาพแต่ละชนิด และการผสมผสานการรักษาหลายวิธีย่อมดีกว่าการใช้วิธีเดียว (Videbeck,2006.) การรักษาที่สำคัญได้แก่
การรักษาด้วยยา (Psychopharmacology) เป็นการรักษาตามอาการที่จำเป็นต้องควบคุม เช่น การให้ยาคลายกังวล (Anti - anxiety) เพื่อลดความวิตกกังวล ยาลดอารมณ์เศร้า (Antidepressant) และการให้ยาต้านโรคจิต (Antipsychotic) เพื่อลดอาการรุนแรงและให้ผู้ป่วยควบคุมตนเองได้
จิตบำบัด (Psychotherapy) เป็นการรักษาทางด้านจิตใจ โดยช่วยให้ผู้ป่วยเกิดความเข้าใจตนเอง เข้าใจปัญหา รู้ถึงความวิตกกังวลที่เกิดขึ้น หาวิธีการที่จะปรับตัวให้เหมาะสมกับสังคมและสิ่งแวดล้อมที่เผชิญอยู่ จิตบำบัดเดี่ยวและจิตบำบัดกลุ่มจะเน้นหลักการแก้ปัญหา(Problem-solving oriented) ให้ผู้ป่วยพิจารณาและค้นหาพฤติกรรมที่เหมาะสม โดยเฉพาะในจิตบำบัดกลุ่ม สมาชิกในกลุ่มจะช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจถึงผลของพฤติกรรมของเขาที่มีต่อสมาชิกในกลุ่ม ทำให้เขาสามารถนากลับไปใช้ในการปรับตัวกับคนอื่นๆในชีวิตประจำวันได้ (Fortinash and Holoday Worret, 2008)
พฤติกรรมบำบัด (Behavioral therapy) การใช้พฤติกรรมบำบัดเป็นการมุ่งเน้นที่ ทั้งสถานการณ์ความเครียดในปัจจุบันและประสบการณ์ด้านลบในวัยเด็ก เรียนรู้ที่จะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตนเองให้เกิดความสุขในชีวิตและเป็นที่ยอมรับในสังคม
นิเวศบำบัด (Milieu therapy) ผู้ป่วยต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวอยู่ในสังคมตามสภาพแวดล้อมของตน การควบคุมพฤติกรรมที่ไม่เป็นที่ยอมรับของสังคมจึงเป็นสิ่งสำคัญ