Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความผิดปกติของการนอนหลับและการตื่น (sleep-wake disorder) (ประกอบไปด้วย 10…
ความผิดปกติของการนอนหลับและการตื่น (sleep-wake disorder)
การรักษา
1.ยานอนหลับ ในปัจจุบันใช้ยาในกลุ่ม benzodiazepines
2.ยาต้านเศร้า(antidepressants)และผลต่อการนอนหลับ
ยาที่ใช้
1.amitriptyline
2.clomipramine
3.imipramine
4.nortriptyline
5.ยาในกลุ่ม ssri s ( escitalopram,sertraline,fluoxetine,fluvoxamine,paroxetine)
6.ยาต้านเศร้าอื่นๆ (venlafaxine,trazadone,nefazodone,mirtazapine)
3.การแก้ไขการรู้การเข้าใจและพฤติกรรม
cognitive-behavioral therapy
1.ให้การศึกษาเรื่อง sleep hygine
1.1) ควรรักษาความสมดุล และความสม่ำเสมอในกิจวัตรประจำวันต่าง ๆ
1.2) ในห้องนอน ควรจัดบรรยากาศและสิ่งแวดล้อมที่ช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น
1.3) ควรปรับท่านอนให้เหมาะสมกับตนเอง
1.4) การรับประทานอาหารว่างเบาๆ ก่อนนอน
1.5) ควรหาวิธีผ่อนคลายความเครียดบ้าง
1.6) การอาบ หรือแช่น้ำอุ่นก่อนนอนประมาณ 1 - 1½ ชั่วโมง อาจทำให้หลับดีขึ้นได้
1.7) ก่อนนอน ควรทำกิจกรรมสั้นๆ ให้ร่างกายทราบว่าถึงเวลาเข้านอนแล้ว เช่น ฟังดนตรีที่ผ่อนคลาย, อ่านหนังสือธรรมะ, เหยียดกล้ามเนื้อเพื่อผ่อนคลาย, ทำโยคะ, อาบน้ำอุ่น เป็นต้น
1.8) ควรหลับต่อเนื่องอย่างน้อย 6 -8 ชั่วโมง ต่อวัน และควรเข้านอนก่อนเที่ยงคืน
1.9) ถ้าไม่สามารถหลับได้ หลังจากเข้านอนแล้ว เกิน 30 นาที ไม่ควรนอนอยู่บนเตียง ควรลุกขึ้นจากเตียงนอน และออกจากห้องนอน แล้วทำกิจกรรมชนิดอื่นแทน เช่น อ่านหนังสือ, รับประทานอาหารว่างเบาๆ, ทำใจสบาย ๆ หรือ ฟังวิทยุเบา ๆภายใต้แสงที่สลัว (ไม่ควรเปิดไฟสว่างจ้า) แต่ไม่ควรทำงาน หรือดูโทรทัศน์ เมื่อเกิดความง่วงแล้ว จึงเข้าไปนอนอีกครั้ง
1.10) ถ้าตื่นขึ้นกลางดึก หลังเข้านอนแล้ว ไม่ควรพยายามกดดันตนเองเพื่อให้รีบนอนจนเกินไป ควรปฏิบัติตามข้อ 1.9
1.11) ควรควบคุมน้ำหนักตัวไม่ให้มากเกินไป
1.12) ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวัน
1.13) ควรรับประทานยาตามที่แพทย์แนะนำในแต่ละช่วงเวลา
1.14) ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่ไม่ค่อยได้ออกไปข้างนอกบ้าน ควรสัมผัสกับแสงอาทิตย์ หรือแสงธรรมชาติระหว่างวันบ้าง เพราะแสงดังกล่าวสามารถช่วยกระตุ้นให้ร่างกายสร้าง melatonin ซึ่งช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น และการสัมผัสกับแสงอาทิตย์ยามเช้า ช่วยให้นาฬิกาธรรมชาติในร่างกายทราบว่าเป็นเวลาที่ควรตื่นนอน
2.ควบคุมการกระตุ้น
3.จำกัดการนอน
Sleep Enhancement เป็นการเอื้อ (facilitation)
Nursing Activity
ประเมินรายละเอียดรูปแบบ การนอนหลับ
ลักษณะการนอนหลับ
ปัจจัยเหตุหรือปัจจัยที่เกี่ยวข้อง วางแผนให้การช่วยเหลือ
อธิบายให้ผู้ป่วยถึงความจำเป็นที่ต้องได้รับการนอน ให้เพียงพอ
พิจารณายาที่ผู้ป่วยได้รับมีผลต่อการนอนหลับ
สังเกตและบันทึกการนอนหลับ เช่น ชั่วโมงการนอน คุณภาพการนอน ความรู้สึกว่านอนพอเพียง สดชื่น ไม่อ่อนเพลีย ฯลฯ
ตรวจสอบรูปแบบการนอนหลับ
ปรับสิ่งแวดล้อมให้เหมาะสมเช่น แสง เสียง อุณหภูมิห้อง ความสุขสบายต่าง ๆ 8. สนับสนุนให้ผู้ป่วยเข้านอนได้ตามปกติ เท่าที่เป็นไปได้
เอื้อให้ผู้ป่วยได้มีการนอนตามปกติ พิจารณาช่วงเวลานอนปกติ
ช่วยจำกัดสิ่งก่อความเครียด (stressful situation) ก่อนเข้านอน 11. หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีผลทำให้ นอนไม่หลับ
แนะนำผู้ป่วยให้เกิดการผ่อนคลายตามความเหมาะสมกับผู้ป่วย (somatic relaxation, cognitive relaxation) 13. จัดให้งีบหลับระหว่างวัน
ให้ยาตามแผนการรักษา
ควบคุมสิ่งแวดล้อมเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับความสบาย เป็นการจัดการให้ผู้ป่วยมีสภาพแวดล้อมที่เอื้อให้เกิดการนอนได้อย่างพอเพียง 16. เลือก เพื่อนผู้ป่วยที่มีความต้องการสภาพแวดล้อม ในการนอนคล้ายกัน
จำกัดผู้เข้าเยี่ยม
ป้องกันสิ่งที่จะมารบกวนการนอนที่ไม่จำเป็น ต้องยอมให้ผู้ป่วยได้นอนหลับได้อย่างต่อเนื่อง 19. พิจารณาสิ่งที่ทำให้ผู้ป่วยไม่สุขสบาย
ทำความสะอาดเตียงนอน และสร้างความรู้สึกปลอดภัย
ปรับอุณหภูมิห้อง เท่าที่เป็นไปได้
ปรับแสง หลีกเลี่ยงไฟส่องตา
ควบคุมเสียง เท่าที่เป็นไปได้
เอื้อให้เกิด sleep hygiene
จัดท่านอนให้สบาย ตามความเจ็บป่วยที่เหมาะสม
ดูแลผิวหนัง เช่นมีแผล มีผิวที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง
ประกอบไปด้วย 10 โรคหลัก
1.โรคนอนไม่หลับ (insomnia disorder) อาการหลักได้แก่ นอนหลับยาก นอนหลับไม่สนิทหรือตื่นบ่อยๆกลางดึกหรือมีการตื่นนอนเร็วกว่าปกติ
2.โรคนอนหลับมากผิดปกติ(hypersomnolence disorder) มีอาการง่วงนอนหรือนอนหลับมากกว่าปกติ รู้สึกเหมือนนอนไม่พอ ไม่สดชื่น ทั้งที่ได้นอนหลับตอนกลางคืนอย่างเต็มที่ตั้งแต่7ชั่วโมงขึ้นไป
3.โรคลมหลับ(narcolepsy) ง่วงนอนมากเกินไป ไม่สามารถต้านทานความง่วงที่เกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็วได้
4.กลุ่มโรคนอนหลับจากปัญหาการหายใจ(breating-related sleepdisorder) ผู้ป่วยขาดหายใจเป็นช่วงหรือลมหายใจลดลงจนเป็นผลให้ระดับออกซิเจนในเลือดน้อยลง
5.ความผิดปกติจากวงจรเวลาการนอนหลับและการตื่น(circadian rhythmSleep-wake disorder) ทำให้การง่วงนอนเกิดขึ้นไม่เหมาะสมกับช่วงเวลาที่สามารถนอนหลับได้
6.โรคการตื่นตัวผิดปกติขณะนอนหลับในช่วงไม่มีการกลอกลูกตาอย่างรวดเร็ว(non-Rapid eye movement sleep arousal disorder)แบ่งเป็น2ชนิดคือ ชนิดละเมอเดิน(sleep walking type) และชนิดฝันผวา(sleep terror)
7.โรคฝันร้าย(nightmare disorder)
8.โรคผิดปกติของพฤติกรรมการนอนหลับในช่วง rem sleep (rapid eye movement sleep behavior disorder) เคลื่อนไหวร่างกายตามความฝัน
9.โรคขาอยู่ไม่สุข(restless legs syndrom)
10.โรคการนอนที่เกิดจากสารหรือยา(substance/medication-induced sleep disorder)