Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การบำบัดรักษาด้วยยาทางจิตเวช (Psychopharmacology) (ยาควบคุมอารมณ์ (Mood…
การบำบัดรักษาด้วยยาทางจิตเวช
(Psychopharmacology)
ยารักษาอาการซึมเศร้า
(Antidepressant Drugs)
ยาที่ใช้
กลุ่ม Tricyclic Antidepressants (TCAs)
Imipramine (Tofranil)
Nortriptyline (Aventyl, Nortrilen, Pamelor)
Clomipramine (Anafranil)
Amitriptyline (Tryptanol)
Doxepin (Sinequan)
Maprotiline (Ludiomil)
กลุ่ม Monoamine Oxidase Inhibitors (MAOIs)
Phenelzine (Nardil)
Tranylcypromine (Parnate)
Aurorix (Moclobemide)
Isocarboxazid (Marplan)
กลุ่ม Selective Serotonin
Reuptake Inhibitors (SSRIs)
Floxetine (Prozac)
Fluvoxamine (Faverin, Luvox)
Paroxetine (Paxil, Seroxat)
Sertraline (Zoloft)
Citalopram (Celexa, Cipram)
กลุ่ม New Generation
Bupropion (Quomen)
Venlafaxian (Efexor-XR)
Tianeptine (Stablon)
Mirtazapine (Remeron)
Trazodone (Desirel)
Maprotiline (Ludiomil)
Mianserin (Tolvon, Tolimed)
ผลข้างเคียงของยา
และการพยาบาล
ผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้กับ
ยารักษาอาการซึมเศร้าทุกกลุ่ม
ปากแห้ง (Dry mouth)
แนะนำให้ผู้ป่วยอมก้อนน้ำแข็ง
หรือจิบน้ำบ่อยๆ
ง่วงซึม (Sedation)
อย่าขับรถหรือทำงานเกี่ยวกับเครื่องจักร
ที่อาจเกิดอันตรายจากการง่วงซึม
คลื่นไส้ (Nausia)
ผู้ป่วยรับประทานยาพร้อมอาหารเพื่อลดอาการ
ระคายเคืองของกระเพาะอาหาร
ผลข้างเคียงที่เกิดได้กับ
ยากลุ่ม TCAs
ตาพร่า
แนะนำผู้ป่วยอย่าขับรถจนกว่าอาการตาพร่าจะดีขึ้นระวัง
การพลัดตกหกล้มจากการมองเห็นไม่ชัด
ท้องผูก
แนะนำให้รับประทานอาหารที่มีกากใย ดื่มน้ำเพิ่มขึ้น
ถ้าไม่มีข้อห้าม และกระตุ้นให้ผู้ป่วยออกกำลังกาย
ปัสสาวะลำบาก
แนะนำให้ผู้ป่วยรายงานแพทย์เมื่อปัสสาวะลำบาก
จดบันทึกน้ำดื่มและปัสสาวะเพื่อดูความสมดุลของน้ำ
หาวิธีที่จะทำให้ผู้ป่วยปัสสาวะได้เอง
ความดันโลหิตต่ำเมื่อเปลี่ยนอิริยาบถ
(Orthostatic hypotension)
แนะนำผู้ป่วยให้ลุกขึ้นอย่างช้าๆจากท่านอน
เป็นท่านั่ง หรือท่านั่งเป็นท่ายืน
มีโอกาสชักง่ายขึ้น
สังเกตผู้ป่วยรายที่มีประวัติโรคลมชัก
อย่างใกล้ชิด
น้ำหนักเพิ่มขึ้น
โดยเฉพาะ Amitriptyline
แนะนำผู้ป่วยเกี่ยวกับการรับระทานอาหารและ
ให้ผู้ป่วยออกกำลังกาย
ผลข้างเคียงที่เกิดได้กับ
ยากลุ่ม SSRIs
นอนไม่หลับ
แนะนำให้ผู้ป่วยรับประทานยาในตอนเช้า
หลีกเลี่ยงอาหาร และเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน
สอนเทคนิคคลายเครียดให้ผู้ป่วยใช้ก่อนนอน
ปวดศีรษะ
รายงานให้แพทย์ทราบ
น้ำหนักลด
ให้รับประทานอาหารให้เพียงพอกับความต้องการ
ของร่างกาย
ความต้องการทางเพศลดลง
ให้ผู้ป่วยพูดถึงความรู้สึก รายงานแพทย์ทราบ
เพื่อให้การช่วยเหลือ
Serotonin syndrome
ทำให้อาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง
ความดันโลหิตไม่สม่ำเสมอ (อาจจะสูงหรือต่ำ)
เดินเซสับสน กระวนกระวาย อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้น หัวใจเต้นเร็ว อาจหมดสติได้
หยุดให้ยาทันที รายานแพทย์ทราบ
ผลข้างเคียงที่เกิดได้กับ
ยากลุ่ม MAOIs
ภาวะความดันโลหิตสูงอย่างเฉียบพลัน (Hypertensive crisis)
แนะนำผู้ป่วยหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มี
สาร Tyramine หยุดให้ยาทันทีรายงานแพทย์
ผลต่อการทำหน้าที่ของตับ
ตระหนักรู้ถึงการทำหน้าที่ของตับที่ปกติ เช่น คลื่นไส้
ผู้ป่วยบ่นเกี่ยวกับระบบย่อยอาหารและอาการตาเหลือง
ตัวเหลือง
ผลข้างเคียงอื่นๆที่อาจพบได้
Withdrawal Symptoms
จาก Anticholinergic Rebound
จากการหยุดยาที่มีฤทธิ์ Anticholinergic มาก
หากให้ขนาดสูง
รายงานแพทย์ทราบ เพื่อพิจารณาการลดขนาดยาลง ในผู้ที่จำเป็นต้องหยุดยาทันที อาจทำให้
Diphenhydramine หรือ Artane ช่วยแก้อาการ
ยารักษาอาการชัก
(Anticonvulsant Drugs)
ยาที่ใช้
Phenytoin (Dilantin)
Valproic Acid (Depakene)
Clonazepam (Klonopin)
Primidone (Mysoline)
Carbamazepine (Tegretol)
ผลข้างเคียงของยา
อาจมีอาการเหงือกบวม
คลื่นไส้ ผื่นแดง ง่วง มึนงง
ซึม ตาพร่า กล้ามเนื้ออ่อนแรง
ยาคลายกังวล
(Antianxiety Drugs)
ยากลุ่ม Benzodiazepines
Long Acting
>24 ชั่วโมง
Dipotassium Clorazepate (Tranxene, Trancon)
Diazepam (Valium)
Chlordiazepoxide (Librium)
Intermediate Acting
ประมาณ 10-20 ชั่วโมง
Alprazolam (Xanax)
Lorazepam (Ativan, Loramed)
Short Acting
ออกฤทธิ์เร็วมาก
ส่วนใหญ่เป็นยานอนหลับ
Midazolam (Dormicum)
Trizolam (Halcion)
ผลข้างเคียงของยา
และการพยาบาล
ง่วงนอน
เดินเซ
แนะนำผู้ป่วยไม่ให้ขับรถในระยะที่ใช้ยานี้ หรือผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับ
เครื่องจักรกลต้องระมัดระวัง เพราะยาอาจทำให้เกิดอาการเชื่องช้า
จะเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยได้
หลงลืมเหตุการณ์ช่วงใกล้ๆ
แต่เหตุการณ์ในอดีตจำได้
(Anterograde amnesia)
ให้ข้อมูลกับผู้ป่วยว่าอาจมีหลงลืมได้บ้าง
ทำให้เกิดอาการติดยา
และดื้อยาได้
แนะนำผู้ป่วยว่าควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้ยา
อาการทางพฤติกรรม
Disinhibition Syndrome
เป็นอาการที่ผู้ได้รับยา กล้าแสดงพฤติกรรมหรือ
พูดในสิ่งไม่ควรหรือไม่เคยทำมาก่อน
Paradoxical Excitement
เป็นอาการที่ผู้ได้รับยา มีพฤติกรรมวุ่นวาย
อาละวาดก้าวร้าว แทนที่จะง่วงซึมหรือสงบ
โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีอาการทางสมอง
(Organic Brain Syndrome)
คอยสังเกตอาการและใช้การช่วยเหลือผู้ป่วย
ยาควบคุมอารมณ์
(Mood-Stabilizing Drugs)
ยาที่ใช้
Lithium Carbonate (Eskalith, Lithane, Lithonate)
Lithium Citrate (Cibalith-s)
ผลข้างเคียงของยา
Early Side Effects
ระบบทางดินอาหารถูกรบกวน
คลื่นไส้ อาเจียน
เบื่ออาหาร ปวดท้อง
ท้องเสีย
กล้ามเนื้ออ่อนแรงและอ่อนเพลีย
มือสั่น โดยเฉพาะเวลาเขียนหนังสือ
ปากแห้ง กระหายน้ำ
Late Side Effects
มือสั่น
ระหายน้ำและปัสสาวะบ่อย
มากกว่าระยะแรก
บวมและมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้น
มีภาวะแทรกซ้อนของ
Hypothyroidism
หรือ Goiter
Leukocytosis
หัวใจเต้นผิดจังหวะ
ระดับความเป็นพิษ
ของลิเทียมและ
การช่วยเหลือ
1. ระดับเฝ้าระวัง
(Serum Lithium 1.2-1.5 mEq/L)
มือสั่น ปัสสาวะบ่อย กระหายน้ำ ท้องเสีย
ปวดท้องและอ่อนเพลีย ซึ่งอาจจะไม่รุนแรง
ให้ผู้ป่วยรับประทานยาต่อไป
ให้ข้อมูลกับผู้ป่วยว่าเป็นผลข้างเคียงของยา
ที่พบได้ในระยะ 1-2 สัปดาห์แรกที่ได้รับยา
ติดตามประเมิน Serum Lithium เป็นระยะ
2. ระดับเป็นพิษปานกลาง
(Serum Lithium 1.5-2.0 mEq/L)
ปวดท้อง ท้องเสีย คลื่นไส้ อาเจียน ปากแห้ง
มึนศีรษะ กล้ามเนื้ออ่อนแรง พูดไม่ชัด
ผิดปกติในการเคลื่อนไหว เดินเซ
ตาพร่ามัว และหูอื้อ
อาจจะปฏิบัติเหมือนข้อ 1 หรือข้อ 3
อยู่ที่ความรุนแรงของอาการ
3. ระดับเป็นพิษรุนแรง
(Serum Lithium 2.0-2.5 mEq/L)
ท้องเสีย เบื่ออาหาร คลื่นไส้ และอาเจียนตลอด
แขนขากระตุกเป็นระยะ จนถึงแสดงอาการชัก
สับสนมาก การทำงานของหัวใจผิดปกติ
เป็นลม หมดสติ
หยุดยาทันที ถ้าผู้ป่วยยังรู้สึกตัวให้ยาแก้
อาเจียน และทำ Gastric lavage
4. ระดับอันตราย
(Serum Lithium > 2.5 mEq/L)
การทำงานของหัวใจล้มเหลว ความดันโลหิตต่ำมาก
ไข้สูง ไม่รู้สึกตัว มีอาการชัก ปัสสาวะออกน้อย
และการทำงานของไตล้มเหลว
ปฏิบัติเหมือนข้อ 3 และเตรียมทา Hemodialysis
ยาลดอาการข้างเคียงของยาทางจิตเวช
(Anticholinergic Drugs)
ผลข้างเคียงของยา
Anticholinergic effect
ปากแห้ง ตาพร่า ท้องผูก
อาจมีปัสสาวะลำบากในผู้สูงอายุ
คลื่นไส้ ปั่นป่วนในท้อง
Sedation, Drowsiness และ Dizziness
Orthostatic Hypotension
Anticholinergic Delirium
สับสน ไม่รู้วัน เวลา สถานที่
หรือแสดงอาการทางจิต
การพยาบาล
อธิบายคุณสมบัติของยาและวิธีรับประทานยาว่า
ควรรับประทานเมื่อใด หากไม่มีอาการไม่
จำเป็นต้องรับประทาน
ควรให้รับประทานยาหลังอาหารทันทีเพื่อ
ป้องกันการรบกวนกระเพาะอาหาร
ควรสังเกตอาการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการใช้ยา
เช่น การทรงตัว การพูด และความสามารถในการดูแลตนเองของผู้ป่วย
ระมัดระวังอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้จากาการ ตามัว เดินเซ
เดินไม่ตรงทาง เป็นต้น
สังเกตและประเมินผลหลังให้ยา เพื่อจะได้ช่วยเหลือทันทีที่มีปัญหา
รายงานแพทย์ทันที่พบปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากได้รับยา
ดื่มน้ำให้เพียงพอหรืออมลูกอมเพื่อลดอาการปากแห้ง
ควรหลีกเลี่ยงการขี่พาหนะ การควบคุมเครื่องจักร เพราะผู้ป่วยมักง่วงนอน และตาพร่า
ควรรายงานอาการข้างเคียงที่เกิดขึ้น
ตรวจร่างกายสม่ำเสมอ โดยเฉพาะตรวจตา
ควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และลดอาหารที่มีโปรตีนสูง