Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Meaconium Aspirstion Syndrome (การวินิจฉัย (1.มีประวัติขี้เทาน้ำคร่ำ…
Meaconium Aspirstion Syndrome
สาเหตุ
เกิดจากการหายใจเอาขี้เทาปนอยู่ในน้ำคร่ำเข้าไปในทางเดินหายใจ อาจเกิดขึ้นขณะอยู่ในครรภ์ ระหว่างการคลอด
กรณีศึกษา ทารกสำลักขี้เทาขณะอยู่ในครรภ์มารดา
ความหมาย
กลุ่มอาการหายใจลำบากที่เกิด เนื่องจากการที่ทารกสูดสำลัก หายใจเอาขี้เทาปนอยู่ในน้ำคร่ำเข้าไปในทางเดินหายใจ อาจเกิดขึ้นขณะอยู่ในครรภ์ ระหว่างการคลอด หรือทันทีหลังเกิด
การวินิจฉัย
1.มีประวัติขี้เทาน้ำคร่ำ การพบขี้เทาท่อช่วยหายใจจากการทำการดูดเสมหะ อาจกมีขี้เทาในหลอดลมคอหรือติดที่สาเสียง หรือไม่มีก็ได้
2.หายใจลำบาก อาจพบเพียงหายใจเร็วมากกว่า 60 ครั้ง/นาที หายใจหอบ หน้าออกโป่งมากกว่าปกติ หรือหอบจนหน้าอกบุ๋ม
3.ถ่ายภาพรังสีทรวงอก พบปอดทั้งสองข้างมี infiltrates มีอากาศในปอดมากเกิน (Hyperaeration) กะบังลมจะถูกดันต่ำลง
กรณีศึกษา ทารกมีอาการหายใจลำบาก เหนื่อย เร็วมากกว่า 70 ครั้ง/นาที มี Retraction ผลX-ray พบ infiltrates บริเวณปอดด้ายซ้าย
อาการ
หายใจลำบากตั้งแต่แรกเกิดหรือหลังเกิด 2-3 ชั่วโมง ทารกมีอาการหายใจเร็ว เขียวตามปลายมือปลายเท้าและรอยปาก การดึงรั้งของกล้ามเนื้อระหว่างช่องซี่โครง มีลักษณะอกถังอกโป่งมีอาการรั่ว ฟังปอดจะได้ยินเสียงอื๊ด และเสียงกรอบแกรบทั่วไป เสียงหายใจออกยาวกว่าปกติสามารถแบ่งตามความรุนแรงได้เป็น 3 ระดับ
1.รุนแรงน้อย ทารกมีอาการหายใจเร็วเพื่อเพิ่ม minute ventilation ทำให้ PaCO2 ลดลง และมี pH ปกติ อาการมักหายไปใน 24-72 ชั่วโมง
2.รุนแรงปานกลาง อาการหายใจเร็วทวีความรุนแรงมากขึ้น มีการดึงรั้งของซี่โครง ความรุนแรงสูงสุดประมาณอายุ 24 ชั่วโมงหลังเกิด
3.รุนแรงมาก ทารกมีระบบหายใจล้มเหลวทันที หรือภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังเกิด
กรณีศึกษา หลังคลอดทารกมีอาการหายใจเร็ว มีอาการการดึงรั้งของกล้ามเนื้อระหว่างช่องซี่โครง(Retraction)ร่วมด้วย หลังคลอดได้ 24 ชั่วโมงทารกมีอาการหายใจเหนื่อยมากขึ้น RR = 70 ครั้ง/นาที มี Subcapsular retraction
การักษา
ระยะแรก
1.ดูดขี้เทาและน้ำคร่ำออกจากปากและจมูกให้มากที่สุดโดยใช้สายดูดเสมหะขนาด 10 Fr. ก่อนที่ทารกจะเริ่มหายใจครั้งแรก
2.ให้ออกซิเจนความดันบวก
3.ใส่สายให้อาหาร และดูดน้ำคร่ำที่มีขี้เทาปนจากกระเพาะอาหารให้หมด เพื่อป้องกันทารกอาเจียนและสำลักขี้เทา.
ระยะหลัง
1.การให้ออกซิเจน โดยปรับความเข้มข้นของออกซิเจนให้เหมาะสม โดยรักษาระดับของออกซิเจนในเลือดแดง ให้อยู่ระหว่าง 80-100 มิลลิเมตรปรอท
2.การให้ยาปฏิชีวนะ เนื่องจากขี้เทาช่วยในการส่งเสริมการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย .
3.การรักษาด้วย CPAP ในรายที่มีภาวะขาดออกซิเจนรุนแรง ถ้ามีระบบหายใจล้มเหลว ควรรักษาด้วยเครื่องช่วยหายใจ และใส่สายสวนหลอดเลือดทางสะดือ
4.การรักษาด้วยสารลดแรงตึงผิว เนื่องจากขี้เทาที่สำลักเข้าไปจะกดการสร้างสารลดแรงตึงผิว
5.การรักษาภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขึ้น เช่น ภาวะหัวใจวาย ภาวะเลือดออกผิดปกติ ภาวะไตวาย
กรณีศึกษา
การให้ยาปฏิชีวนะ
-Ampicilin 300 mg IV q 12 hr.
-Gentamycin 11 mg IV OD
-Dexamethazone 1.5 mg IV q 12 hr. x 3 day
การให้ออกซิเจน
On O2 ventilator เป็นระยะเวลา 10 วัน(ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม - 9 มิถุนายน 2562)
O2 high-Flow FiO2 0.3 6 Lpm. Keep O2 มากกว่า 95% ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 62 ร่วมกับการพ่นยา ventolin 0.3 ml + NSS up to 4 ml NB prn q 6 hr.
O2 cannula 2 Lpm ตั้งแต่วันที่ 13 พ.ค. 62 ร่วมกับการพ่นยา ventolin 0.3 ml + NSS 3 ml NB prn q 6 hr. + suction ถึง วนที่ 18/6/65
นาย อภิสิทธิ์ ทองรอด เลขที่ 72 ห้อง B รหัส 593601155