Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กฏหมายและจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์และสื่อออนไลน์…
กฏหมายและจริยธรรมที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์และสื่อออนไลน์
กฏหมายและจริยธรรม
กฎหมาย หมายถึง คำสิ่งหรือข้อบังคับของรัฐ ซึ่งบัญญัติขึ้นเพื่อใช้ควบคุมความประพฤติของบุคคลซึ่งอยู่ในรัฐหรือในประเทศของตน หากผู้ใดฝ่าฝืนไม่ประพฤติปฏิบัติตาม ก็จะมีความผิดและถูกลงโทษ หรือได้รับผลเสียหายนั้นด้วย
จริยธรรม หมายถึง "หลักศีลธรรมจรรยาที่กำหนดขึ้นเพื่อใช้เป็นแนวทางปฏิบัติ หรือควบคุมการใช้ระบบคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ" ในทางปฏิบัติแล้ว การระบุว่าการกระทำสิ่งใดผิดจริยธรรมนั้น อาจกล่าวได้ไม่ชัดเจนมากนัก ทั้งนี้ ย่อมขึ้นอยู่กับวัฒนธรรมของสังคมในแต่ละประเทศด้วย อย่างเช่น กรณีที่เจ้าของบริษัทใช้กล้องในการตรวจจับหรือเฝ้าดูการทำงานของพนักงาน เป็นต้น
จริยธรรมในการใช้คอมพิวเตอร์
1.ความหมายของจริยธรรมในคอมพิวเตอร์
เมื่อเราพิจารณาจริยธรรมกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะกับคอมพิวเตอร์แล้วนั้น เราจะเห็นว่ามีการเกี่ยวข้องกันอย่างแยกไม่ได้ ถ้าผู้คนเจริญทางด้านวัตถุแต่ในทางตรงกันข้ามกลับเสื่อมลงทางด้านจริยธรรมแล้วนั้น ความวุ่นวายในสังคมของคอมพิวเตอร์ก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
2.การปลูกฝังจริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
ถ้าเราต้องการให้มนุษย์ในสังคมเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่า และรู้จักใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์อย่างถูกวิธี เราต้องช่วยกันปลูกฝังจริยธรรมให้เกิดขึ้นอย่างถูกวิธี
จริยธรรมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ โดยทั่วไป เมื่อพิจารณาถึงจริยธรรมเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์และสารสนเทศ แล้ว จะกล่าวถึงใน 4 ประเด็น ที่รู้จักกันในลักษณะตัวย่อว่า PAPA ประกอบด้วย
ความเป็นส่วนตัว (Information Privacy)
ความถูกต้อง (Information Accuracy)
ความเป็นเจ้าของ (Information Property)
การเข้าถึงข้อมูล (Data Accessibility)
จริยธรรมด้านนคอมพิวเตอร์
มีความรับผิดชอบต่อการขายสินค้าและบริการ
ทำงานด้วยความศรัทธา และจริงใจ
รักษาผลประโยชน์ของผู้บริโภค
นำเสนอคุณภาพสินค้าตามความจริง
ไม่เผยแพร่สิ่งที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อสังคม
ทำตามกฎหมาย ข้อบังคับ ระเบียบของสังคม
ทำประโยชน์ต่อสังคม
จรรยาบรรณการใช้เครือข่ายสังคมออนไลน์
ให้ระมัดระวังการละเมิดหรือสร้างความเสียหายให้ผู้อื่น
ให้แหล่งที่มาของข้อความ ควรอ้างอิงแหล่งข่าวได้
ไม่กระทำการรบกวนผู้อื่นด้วยการโฆษณาเกินความจำเป็น
ดูแลและแก้ไขหากตกเป็นเหยื่อจากโปรแกรมอันไม่พึงประสงค์ เพื่อป้องกันมิให้คนอื่นเป็นเหยื่อ
พระราชบัญญัติว่าด้วย การกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2560
การฝากร้านใน Facebook IG ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
ส่ง SMS มาโฆษณาโดยไม่รับความยินยอม
ต้องมีทางเลือกให้ผู้รับสามารถปฏิเสธข้อมูลนั้นได้
ไม่เช่นนั้นถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
ส่ง e-Mail ขายของ ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
กด Like ได้ไม่ผิด พ.ร.บ. ยกเว้นการกด Like
เรื่องเกี่ยวกับสถาบัน เสี่ยงเข้าข่ายความผิดมาตรา 112 หรือมีความผิดร่วม
กด Share ถือเป็นการเผยแพร่ หากข้อมูลที่ Share
นั้นมีผลกระทบต่อผู้อื่น อาจเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.
โดยเฉพาะที่กระทบต่อบุคคลที่ 3
พบข้อมูลผิดกฎหมายอยู่ในระบบคอมพิวเตอร์ของเรา
แต่ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าของคอมพิวเตอร์กระทำเอง
สามารถแจ้งไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบได้
หากแจ้งแล้วลบข้อมูลออกเจ้าของก็จะไม่มีความผิดตามกฎหมาย
เช่น ความเห็นในเว็บไซต์ต่างๆ รวมไปถึง Facebook ที่ให้แสดงความคิดเห็น
หากพบว่าการแสดงความเห็นผิดกฎหมาย
เมื่อแจ้งไปที่หน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อลบได้ทันที
เจ้าของระบบเว็บไซต์จะไม่มีความผิด
ฉะนั้น Admin ที่เปิดให้มีการแสดงความเห็น เมื่อพบข้อความที่ผิด พ.ร.บ.
เมื่อลบออกจากพื้นที่ที่ตนดูแล จะถือเป็นผู้พ้นผิด แต่หากไม่ยอมลบออก
จะมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การ Post สิ่งลามกอนาจาร
ที่ทำให้เกิดการเผยแพร่สู่ประชาชนได้
จำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท
การ Post เกี่ยวกับเด็ก เยาวชน ต้องปิดบังใบหน้า
ยกเว้นเมื่อเป็นการเชิดชู ชื่นชมอย่างให้เกียรติ
การให้ข้อมูลเกี่ยวกับผู้เสียชีวิต ต้องไม่ทำให้เกิดความเสื่อมเสียเชื่อเสียง
หรือถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ญาติสามารถฟ้องร้องได้ตามกฎหมาย
มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
การ Post ด่าว่าผู้อื่น มีกฎหมายอาญาอยู่แล้ว ไม่มีข้อมูลจริง
หรือถูกตัดต่อ ผู้ถูกกล่าวหา เอาผิดผู้ Post ได้
โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 200,000 บาท
ไม่ทำการละเมิดลิขสิทธิ์ผู้ใด ไม่ว่าข้อความ เพลง รูปภาพ หรือวิดีโอ
ส่งรูปภาพแชร์ของผู้อื่น เช่น สวัสดี อวยพร ไม่ผิด ถ้าไม่เอาภาพไปใช้ในเชิงพาณิชย์ หารายได้