Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความสัมพันธ์ของสภาพภูมิศาสตร์บนโลกและความหลากหลายของไบโอม…
ความสัมพันธ์ของสภาพภูมิศาสตร์บนโลกและความหลากหลายของไบโอม
ชีวนิเวศ(BIOME)
(Aquatic Biomes) ระบบนิเวศในน้ำ
Freshwater aquatic biome (น้ำจืด) ความเค็มน้อยกว่า1%
Lake(ทะเลสาบ)
Oligotrophic lake:ไม่ค่อยมีตะกอนทับถม DOสูง BODต่ำ
Wet land(พื้นที่ชุ่มน้ำ:บึง,พรุ)
เป็นบริเวณที่มีน้ำท่วมขังช่วงใดช่วงหนึ่งหรือท้วมตลอดเวลา ดินเป็นดินเลนที่มีลักษณะมีน้ำอิ่มตัวไม่มีอากาศภายใน
River(แม่น้ำ)
Estuaries(ปากแม่น้ำ):เป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างแม่น้ำกับทะเลมีการเปลี่ยนแปลงความเค็มมากในรอบวันเนื่องจากน้ำขึ้น-น้ำลง มีการสะสมตะกอน
ํYoung river(ต้นน้ำ):น้ำไหลเชี่ยว มีเกาะแก่ง
Old river(ปลายน้ำ):น้ำไหลช้า มีการสะสมตะกอน
Marine Aquatic biomes(น้ำเค็ม) ความเค็มมากกว่า1%
Intertidal zones(พื้นที่น้ำขึ้น-น้ำลง:หาดหิน,หาดทราย) มีการเปลี่ยนแปลงปัจจัยทางกายภาพมากที่สุด เกิดน้ำขึ้นและน้ำลงวันละ2ครั้ง
Coral reefs(แนวปะการัง)เป็นบริเวณที่มีความเค็มคงที่ อุณหภูมิอยู่ระหว่าง18-30องศาเซลเซียส
Marine benthic zone(พื้นที่ก้นมหาสมุทร)เป็นบริเวณที่ลึกที่สุดในมหาสมุทรไม่มีแสงส่องถึง มีบางบริเวณที่มีปากปล่องภูเขาไฟ
Oceanic pelagic(ทะเลเปิด)เป็นบริเวณที่กินอาณาเขตกว้างที่สุดในโลก ปริมาณออกซิเจนค่อนข้างสูง
Terrestrial Biomes (ระบบนิเวศบนบก)
Tundra(ทุนดรา)
เป็นบริเวณที่มีอุณหภูมิต่ำ มากเกือบตลอดปี ชั้นของดินที่อยู่ต่ำลงไปจากผิวดินเป็นน้ำแข็งถาวร
Coniferous Forest(ป่าสน)
เป็นป่าไม่ผลัดใบ อุณหภูมิค่อนข้างต่ำ มีฤดูหนาวที่ยาวนาน
Desert(ทะเลทราย) เป็นเขตที่มีปริมาณน้ำฝนน้อยกว่า22มิลลิเมตรต่อปี
Tropical Forest(ป่าเขตร้อน) เป็นบริเวณที่มีฝนตกชุกและอุณหภูมิค่อนข้างสูง มีความหลากหลายของสิ่งมีชีวิตมากที่สุด
Savanna(ทุ่งหญ้าสะวันน่า) เป็นบริเวณที่มีฝนตกน้อยกว่าป่าดิบชื้น มักมีไฟป่าในฤดูร้อน
Temperate Broadleaf Forest(ป่าผลัดใบเขตอบอุ่น) พบในเขตอบอุ่น มีปริมาณน้ำฝน100มิลลิเมตรต่อปีขึ้นไป
Chaparal
พบในเขตอบอุ่น มีปริมาณน้ำฝนมากในฤดูหนาว ฤดูร้อนแห้งแล้งปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยอยู่ที่30-55มิลลิเมตรต่อปี
Temperate Grassland(ทุ่งหญ้าเขตอบอุ่น) เป็นทุ่งหญ้าในเขตอบอุ่นมีไฟป่าในฤดูร้อนคล้ายทุ่งหญ้าสะวันน่าแต่อุณหภูมิเฉลี่ยต่ำกว่า