Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
CA Rectum rectal-cancer-8col (การวินิจฉัย (1.ตรวจทวารหนักคลำได้ก้อนแข็งหรื…
CA Rectum
มะเร็งของลำไส้ใหญ่ส่วนปลายสุดที่จะต่อเนื่องไปเป็นทวารหนัก โดยเกิดจากเซลล์จุดใดของไส้ตรงก็ได้ เจริญแบ่งตัวผิดปกติตลอดเวลา และร่างกายควบคุมการแบ่งตัวนี้ไม่ได้ จึงทำให้เกิดเป็นก้อนเนื้อร้าย ก้อนมะเร็ง แผลมะเร็งในไส้ตรง ที่ส่งผลทำลายเนื้อเยื่อปกติของไส้ตรง
-
พยาธิสภาพ
มะเร็งลำไส้ตรงส่วนใหญ่จะเป็นชนิด Adenocarcinoma และ Adenomatous polyp มาก่อนทำให้มีอาการผิดปกติของการขับสารเมือก บางครั้งมีเลือดออกจากการระคายเคืองลำไส้ Rectum ทำให้ท้องเสีย ถ้าเนื้องอกกอยู่ทางดานซ้าย โดยเฉพาะ rectum จะมีการอุดกั้นเร็วและตรวจพบได้เร็ว
ระยะมะเร็งลำไส้ใหญ่
ขั้น 2 (Stage II) – มะเร็งลุกลามไปที่ผนังลำไส้ใหญ่แต่ไม่มีการแพร่กระจายไปที่ต่อมน้ำเหลือง (หน่วยเล็กๆที่ช่วยต่อสู้การติดเชื้อและโรค) ขั้นนี้เรียกว่า ดุ๊กบี
ขั้น 1 (Stage I) – พบมะเร็งที่เยื่อบุชั้นที่ 2และ3 ของผนังลำไส้ใหญ่แต่ไม่พบที่ผนังด้านนอกลำไส้ใหญ่หรือมากกว่านั้น ขั้นนี้เรียกว่า ดุ๊กเอ Dukes' A
ขั้น 3 (Stage III) – มะเร็งลุกลามไปผนังลำไส้ใหญ่และต่อมน้ำเหลือง แต่ยังไม่ลุกลามไปอวัยวะอื่น ขั้นนี้เรียกว่า ดุ๊กซี
-
-
อาการและอาการแสดง
-
-
-
4.เมื่อโรคลุกลามมาก อาจมีอาการ ผอมลง/น้ำหนักตัวลดอย่างมากในระยะ6เดือนประมาณ10%ขึ้นไปจากน้ำหนักตัวปกติ โดยหาสาเหตุที่ทำให้น้ำหนักตัวลดไม่พบ
การวินิจฉัย
-
2.การซักถามประวัติทางการแพทย์ของผู้ป่วย ที่สำคัญ เช่น ประวัติอาการ ประวัติการเจ็บป่วยด้วยโรคนี้ของคนในครอบครัว หรือผู้ป่วยเคยเป็นโรคนี้มาก่อน
-
4.ตรวจภาพลำไส้ใหญ่ด้วยการเอกซเรย์โดยสวนแป้งเข้าไปเคลือบ
ลำไส้ใหญ่เพื่อให้มองเห็นภาพภายในลำไส้ใหญ่ (วิธีนี้ไม่ค่อยนิยมในปัจจุบัน) และ ตรวจภาพลำไส้ใหญ่และช่องท้องด้วยเอกซเรย์หรือ
เอมอาร์ไอ
5.การตรวจเลือด คือ ดูค่าความสมบูรณ์ของเลือด(ซีบีซี) , ดูการ
ทำงานของตับและ ของไต , ดูค่าสารมะเร็งของมะเร็งไส้ตรง(เช่น ค่าสารCarcinoembryonic antigen/ CEA)
ตัวอย่างกรณีศึกษา
-
PI: ผู้ป่วยชายไทย อายุ 59 ปี ถ่ายเป็นเลือดมา 2 เดือน มีอาการท้องเสีย 2 สัปดาห์ และมารับการรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยเป็น CA rectum นัดมาผ่าตัด ผู้ป่วยตอบสนองดีถามตอบรู้เรื่อง on Foley’s catherter urine ออก 100 cc./hr. วัดสัญญาณชีพได้ T = 36.6 °c ,P = 76 ครั้ง/นาที ,R = 20ครั้ง/นาที ,BP 130/90 mmHg
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
- เสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนเนื่องจากโพแทสเซียมในเลือดต่ำจากการใช้ยาอินซูลิน
- ขาดความรู้ในการปฏิบัติตัวก่อนและหลังผ่าตัด
- ปวดแผลเนื่องจากเนื้อเยื่อถูกทำลายจากการผ่าตัด
-
- ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันไม่ได้เต็มที่เนื่องจากมีอาการปวดแผล
การพยาบาล
-
2.ในกรณีที่ผู้ป่วยมีการอุดตันของทางเดินอาหาร ดูแลการใส่สาย NG tube ระบายของเหลวจากกระเพาะอาหารเพื่อลดความดันในทางเดินอาหาร
- อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจเกี่ยวกับการทำผ่าตัด สภาพของผู้ป่วยหลังผ่าตัด เพื่อลดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผ่าตัดและให้ผู้ป่วยยอมรับการรักษา
การรักษา
รังสีรักษา
ลดโอกาสที่มะเร็งจะเกิดในอุ้งเชิงกราน จึงใช้ร่วมกับการผ่าตัดมะเร็งระยะที่ 2 และ 3 ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการกลับมาของมะเร็งสูงฉายรังสีเพื่อฆ่าหรือทำลายเซลล์มะเร็ง เป็นวิธีการรักษามะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนปลายที่ใช้ควบคู่กับการผ่าตัดมักใช้ระยะเวลาประมาณ 5-6 สัปดาห์ โดยฉายวันละ 1 ครั้ง ฉายติดต่อกัน 5 วันใน 1 สัปดาห์
ผลข้างเคียง
ท้องร่วง ผลต่อผิวหนังบริเวณที่ถูกรังสี
รังสีจะไปกดการทำงานของ
ไขกระดูก ผู้ป่วยจะรู้สึกเบื่ออาหาร
อ่อนเพลีย ไม่มีแรง
และความรู้สึกรับรสอาหารผิดปกติ
เคมีบำบัด
- สูตร ไฟว์เอฟยู (5-FU, 5 Fluorouracil ) และ โฟลินิคแอซิดหรือลิวโคโวริน (Folinic acid, leucovorin) เป็นยาฉีด 5 วันติดต่อกัน ต่อ 1 ชุดการรักษา ทุก 28 วัน ให้ทั้งหมด 6 ชุด เป็นเวลา 6 เดือน
- สูตร ฟอลฟอก ประกอบด้วยยาฉีด 3 ชนิด คือ โฟลินิค แอซิด ไฟว์เอฟยู และออกซาลิพลาติน (Oxaliplatin) สูตรนี้ให้ทุก 2 สัปดาห์ ต่อ 1 ชุดการรักษา ทั้งหมด 12 ชุด
- สูตร ฟอลฟิริ (FOLFIRI) ประกอบด้วยยาฉีด 3 ชนิด คือ อิริโนทีแคน โฟลินิค แอซิด และไฟว์เอฟยู ให้ทุก 2 สัปดาห์ต่อ 1 ชุดการรักษา ทั้งหมด 12 ชุด หรือจนกว่าโรคจะสงบ
4.สูตร เคพไซทาบีนหรือซีโลดา:Xeloda) เป็นยาเม็ดชนิดรับประทาน มีขนาด 500 มิลลิกรัม และ 150 มิลลิกรัมรับประทาน เช้าและเย็น หลังอาหารติดต่อกัน 14 วัน พัก 1 สัปดาห์ ต่อ 1 ชุดการรักษา รวม 8 ชุด หรือ 6 เดือน
- สูตร ซีล็อก/แคฟพอค (XELOX /CAPOX) ประกอบด้วยยา 2 ชนิด คือ ยาเม็ดซีโลดา และ ยาฉีดออกซาลิพลาติน โดยให้ยาฉีดในวันแรก และยาซีโลดา รับประทาน 14 วัน พัก 1 สัปดาห์ ต่อ 1 ชุดการรักษา ทั้งหมด 6 ชุด
- สูตรยามุ่งเป้า (Targeted therapy) ปัจจุบันมียาฉีด 2 ชนิด คือ ยาบีวาซิซูแมบ (Bevacizumab) ชื่อการค้าว่า อวาสติน (Avastin) และยาซิทูซิแม็บ (Cetuximab) ชื่อการค้าว่า เออร์บิทัก (Erbitux ) วิธีการให้ยาดังนี้
-
-
-
การรักษาโดยการผ่าตัด
-
- Left hemicolextomy ตัดลำไส้ใหญ่ส่วน descending colon ออกและนำส่วนที่เหลือมาต่อกัน
- Lower anterior resection (LAR) ตัด Rectum ออก และนำลำไส้ส่วนเหลือมาต่อกัน โดยผ่าตัดทางหน้าท้อง
-
1.Abdominoperineal Resection (A-P Resection ) ตัด Rectum ออก ทางหน้าท้องและทาง perineum หลังผ่าตัดจะมี colostomy ทางหน้าท้องด้านซ้าย