Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

แผนผังมโนทัศน์แสดงความสัมพันธ์ของสภาพทางภูมิศาสตร์บนโลกกับหลายไบโอมและตัวอ…

- - - - บริเวณรอบๆ เป็นป่ามีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น ช่วงอากาศแล้งเฟิร์นจะพักตัว ใบเหี่ยวแต่ไม่ตาย และจะฟื้นเขียวอีกครั้งเมื่อได้ละอองหมอก
      - บริเวณรอบๆ เป็นป่ามีต้นไม้ขึ้นหนาแน่น มีแสงแดดรำไรส่งลงมา เพียงพอต่อการดำรงชีวิตของเฟิร์นใบบางที่สุดในโลก มีมาแต่โบราณประมาณ 230 ล้านปี ช่วงอากาศแล้งเฟิร์นจะพักตัว ใบเหี่ยวแต่ไม่ตาย และจะฟื้นเขียวอีกครั้งเมื่อได้ละอองหมอก
    - - ป่าที่ถูกปกคลุมด้วยเมฆหมอกหลายเดือน อากาศหนาวชื้น ลมแรง ดินเป็นกรดสูง พันธุ์ไม้ที่ขึ้นได้บริเวณนี้ จะมีแต่กลุ่มไม้เมืองหนาว เช่น หว้า กุหลาบพันปี กุหลาบขาว กล้วยไม้ เฟิร์น มอส
    - - มีน้ำตกขนาดเล็ก ไหลมาเป็นลำห้วย
    - - ต้นก่อ (ต้นโอ๊ค) ต้นทะโล้ ต้นหว่าอ่างกา (พืชเฉพาะท้องถิ่น) ในป่านี้เป็นต้นไม้เมืองหนาว มีการปรับตัวให้อยู่ได้ในป่าหนาวและชุ่มชื้นสูง
    - - ปกติที่ความสูง 4000 เมตร จากระดับน้ำทะเลในเขตหนาว จะมีเฉพาะไม้ล้มลุก เรียกว่า “ทุ่งหญ้าอัลไพน์” แต่ที่ดอยอินทนนท์ ดอยผ้าห่มปก และ ดอยเชียงดาว เป็นภูเขาสูง 2,000-2,500 เมตร มีปรากฏการณ์พิเศษ มีไม้ล้มลุกปะปนกับไม้พุ่มขนาดเล็ก เรียกพงไม้นี้ว่า “ทุ่งหญ้ากึ่งอัลไพน์”
    - - ขึ้นบริเวณทุ่งหญ้าเมืองหนาว เฟิร์นชนิดนี้มีใบหนาแข็ง ลดการคายน้ำ ซ่อนลำต้นไว้ใต้ดิน เมื่อมีไฟป่าใบที่อยู่พ้นดินจะไหม้ และจะงอกขึ้นใหม่อีกครั้งจากลำต้นที่อยู่ได้ดิน
    - - เป็นต้นไม้ที่ชอบแดดจัด โตเร็ว เลื้อยพันต้นไม้ใหญ่อย่างรวดเร็ว
    - - ปรับตัวเองให้อยู่ได้ในอากาศหนาวเย็น
    - - ในป่ามีไม้หลายชนิด มีอายุ และความสูงไม่เท่ากัน บ่งบอกได้ว่าป่านี้ในอดีตเคยโค่นล้มจากพายุ แล้วมีต้นไม้รุ่นใหม่เกิดพร้อมกัน
    - - กูดต้น เป็นเฟิร์นใบใหญ่เรียงเวียนรอบปลายต้น เรือนยอดกว้าง พบตามลุ่มน้ำริมห้วยชื้นแฉะ ใต้ร่มเงาแสงรำไรเท่านั้น การไม่พบกูดต้นในที่แดดจัด จึงสัญนิษฐานว่า กูดต้นเป็นพืชสัญลักษณ์ของป่าบริสุทธิ์
- - - - ทุ่งหญ้าสะวันนา [Savanna]
      - สภาพภูมิอากาศมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 25 – 50 เซนติเมตรต่อปี ทุ่งหญ้าเขตอบอุ่นนี้เหมาะสำหรับการทำกสิกรและปศุสัตว์ พื้นดินส่วนใหญ่ขาดความอุดมสมบูรณ์หรือมีความเค็มสูง
      - เนื่องจากสภาพปัจจัยแวดล้อมที่ค่อนข้างแห้งแล้งจัดในช่วงฤดูแล้งและมีไฟป่าเป็นประจำจึงทำให้สังคมนี้มีความหลากหลายในด้านรูปชีวิตของพืชต่ำ
    - - ในพื้นที่มีปริมาณฝนตกเฉลี่ยน้อยกว่า 25 เซนติเมตรต่อปี ทะเลทรายบางแห่งร้อนมากมีอุณหภูมิเหนือผิวดินสูงถึง 60 องศาเซลเซียสตลอดวัน บางวันแห่งมีอากาศค่อนข้างหนาวเย็น
      - พืชที่พบในไบโอมทะเลทรายนี้มีการป้องกันการสูญเสียน้ำ โดยใบลดรูปเป็นหนาม ลำต้นอวบ เก็บสะสมน้ำดี
      - ทะเลทรายที่รู้จักกันโดยทั่วไป
        
        ทะเลทรายซาฮารา [Sahara] ในทวีปแอฟริกา :earth_africa:
        
        ทะเลทรายโกบี [Gobi] ในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
        
        ทะเลทรายโมฮาวี [Mojave] ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา
    - - มีปริมาณความชื้นเพียงพอที่ต้นไม้ใหญ่จะเจริญเติบโตได้ดี โดยมีปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 100 เซนติเมตรต่อปี และมีอากาศค่อนข้างเย็น
      - ในป่าชนิดนี้และต้นไม้จะทิ้งใบหรือผลัดใบก่อนฤดูหนาว และจะเริ่มผลิใบอีกครั้งเมื่อฤดูหนาวผ่านพ้นไปแล้ว
      - ต้นไม้ที่พบ
        
        ไม้ยืนต้น
        
        ไม้พุ่ม
        
        ไม้ล้มลุก
    - - เป็นเขตที่มีฤดูหนาวค่อนข้างยาวนาน ฤดูร้อนช่วงสั้น ๆปริมาณฝนน้อยในฤดูร้อนช่วงสั้น ๆ น้ำแข็งที่ผิวหน้าดินละลาย แต่เนื่องจากน้ำไม่สามารถซึมผ่านลงไปในชั้นน้ำแข็งได้ในระยะสั้น ๆ
      - ลักษณะเด่นคือ ชั้นของดินที่อยู่ต่ำกว่าจากผิวดินชั้นบนลงไปจะจับตัวเป็นน้ำแข็งถาวร :star:
      - ทุนดราพบเพียงตอนเหนือของทวีปอเมริกาเหนือ และยูเรเซีย
      - พืชที่พบจะเป็นพวกไม้ดอกและไม้พุ่ม
      - นอกจากนี้ยังพบสิ่งมีชีวิตชั้นต่ำ เช่น ไลเคนด้วย
    - - ลักษณะของภูมิอากาศร้อนและชื้น มีฝนตกตลอดปี ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย 200 – 400 เซนติเมตรต่อปี
      - ป่าชนิดนี้พบพืชและสัตว์หลากหลายพันสปีชีส์ เป็นป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงมาก
      - จัดเป็นป่าประเภทไม่ผลัดใบ เป็นป่าที่มีสีเขียวตลอดทั้งปี ต้นไม้จะไม่ผลัดใบในช่วงฤดูแล้ง เนื่องจากปริมาณน้ำฝนค่อนข้างมาก ต้นไม้ไม่มีความจำเป็นต้องผลัดใบเพื่อลดการคายน้ำ
  - - - ระบบนิเวศน้ำจืดครอบคลุม 0.80% ของผิวโลก และคิดเป็น 0.009% ของน้ำทั้งหมด
      - โดยทั่วไปประกอบด้วยแหล่งน้ำนิ่ง
        
        ทะเลสาบ
        
        เป็นแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ที่ล้อมรอบด้วยผืนดิน โดยทั่วไปทะเลสาบจะไม่มีทางไหลออกสู่ทะเล และมีน้ำจืด เรียกกันว่า "ทะเลสาบน้ำจืด" แต่ทะเลสาบบางแห่งอาจไหลออกสู่ทะเลได้ และมีน้ำเค็ม จึงเรียกกันว่า "ทะเลสาบน้ำเค็ม"
        
        สระ
        
        โดยอาจเกิดตามธรรมชาติหรือมนุษย์สร้างขึ้นก็ได้ สระอาจเกิดตามธรรมชาติในที่ลุ่มน้ำท่วมถึงเป็นส่วนหนึ่งของระบบแม่น้ำ หรืออาจเป็นแอ่งแยกต่างหากก็ได้ สระอาจมีน้ำตื้นและมีพืชและสัตว์ที่เติบโตในน้ำและที่ลุ่มชื้นแฉะ
        
        หนอง หรือบึง
        
        แหล่งน้ำไหล
        
        ธารน้ำไหล
        
        แม่น้ำ
        
        เขตของน้ำไหล
        
        เขตน้ำเชี่ยว :
        
        เขตน้ำเฉี่อย
      - ชนิดของสิ่งมีชีวิตในสระโดยทั่วไปตัดสินจากปัจจัยต่าง ๆ รวมกัน
        
        ความลึก :star:
        
        ระดับสารอาหาร
        
        การมีหรือไม่มีร่มเงาของไม้ต้น
        
        ผลของสัตว์ที่มากินหญ้า
    - - โดยทั่วไปประกอบด้วยแหล่งน้ำเค็ม ซึ่งได้แก่ ทะเลและมหาสมุทร ซึ่งพบได้ในปริมาณมากถึงร้อยละ 71 ของพื้นที่ผิวโลก
        
        ทะเล :star:
        
        มหาสมุทร :star:
      - มีความลึกมากโดยเฉลี่ยถึง 3,750 เมตร ไบโอมแหล่งน้ำเค็มจะแตกต่างจากน้ำจืดตรงที่มีน้ำขึ้นน้ำลง
      - นอกจากนี้ยังพบช่วงรอยต่อของแหล่งน้ำจืดกับน้ำเค็มที่มาบรรจบกัน และเกิดเป็นแหล่งน้ำกร่อยซึ่งมักพบบริเวณปากแม่น้ำ
    - - ช่วงรอยต่อของแหล่งน้ำจืดและน้ำเค็มที่มาบรรจบกัน
      - สามารถพบได้ตามตามปากอ่าวแม่น้ำออกทะเล
      - โดยทั่วไปแล้ว น้ำกร่อยหรือน้ำทะเลในสภาพปกติมีสภาพเป็นด่างอ่อน ๆ pH ราว 7.3 ไปจนถึง 8.5 เหตุที่น้ำทะเลมีสภาพเป็นด่างอ่อน ๆ เป็นเพราะในน้ำทะเลมีแร่ธาตุหลายชนิด ที่ทำให้น้ำเป็นด่างอ่อน
      - มีตะกอนมากจึงมีป่าไม้กลุ่มป่าชายเลนขึ้นจึง
        เรียกว่าระบบนิเวศป่าชายเลน แต่บางพื้นที่อาจเป็นแอ่งน้ำขนาดใหญ่
- - - - จัดแสดงสภาพป่าและพันธุ์ไม้ป่าดงดิบ สร้างบรรยากาศภายในเสมือนอยู่ในป่าจริงๆ มีน้ำตกจำลองให้ความชุ่มชื้นกับต้นไม้ในโรงเรือน
    - - จัดแสดงไม้น้ำและพืชชุ่มน้ำชนิดต่างๆ ไม้ชุ่มน้ำต่างๆ และพืชกินแมลง เช่นกาบหอยแครง หม้อข้าวหม้อแกงลิง ส่วนใหญ่มีถิ่นกำเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
    - - จัดแสดงกล้วยไม้และเฟิร์นชนิดต่างๆ มีทางเดินในโรงเรือนเป็นหินกรวด
    - - เป็นโรงเรือนขนาดใหญ่ ปลูกพืชสกุลกระบองเพชรชนิดต่างๆ เช่นถังทอง (Echinocactus grusonii) ตระกูลแมม (Mammillaria) แอสโตร (Astrophytum) เฟโรแคคตัส (Ferocactus) พืชสกุลศรนารายณ์ กุหลาบหิน เสมา พืชอวบน้ำ (succulents) อะกาเว (Agave) และไม้แล้งทรงสูง ส่วนมากแล้วจะเป็นกระบองเพชรสายพันธุ์ทั่วไป ไม่ใช่สายพันธุ์หายาก
    - - โดยรวมพรรณบัวโดยเฉพาะของไทยและของเอเชีย ที่ออกดอกสวยงาม
    - - เป็นพันธุ์สัปปะรดสีที่มีการนิยมปลูกกันในประเทศไทย
    - - จัดแสดงบอนสี บอนป่า หน้าวัว ไม้ด่าง ไม้แคระ และพืชขนาดเล็กที่สวยงาม
    - - จัดแสดงพืชสมุนไพรของภาคเหนือและตะวันออกเฉียงเหนือพร้อมป้ายบอกชื่อสรรพคุณต่างๆ โดยย่อ
  - - - ส่วนเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ
      - ส่วนความหลากหลายทางชีวภาพ
      - ส่วนก้าวแรกของนักพฤกษศาสตร์ในประเทศไทย
      - ส่วนผจญภัย 10 ป่าไทย
      - ส่วนมหัศจรรย์ผึ้งและดอกไม้
      - โซนสุดท้ายที่เพิ่มขึ้นมาใหม่มีภาพ 3 มิติที่ผนังให้นักท่องเที่ยวได้ถ่ายรูป