เมทริกซ์

นิยาม

เมทริกซ์
คือกลุ่มของจำนวนหรือสมาชิกของริงใดๆ เขียนเรียงกันเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าหรือจัตุรัส กล่าวคือเรียงเป็นแถวในแนวนอน และเรียงเป็นแถวในแนวตั้ง เรามักเขียนเมทริกซ์เป็นตารางที่ไม่มีเส้นแบ่งและเขียนวงเล็บคร่อมตารางไว้ (ไม่ว่าจะเป็นวงเล็บโค้งหรือวงเล็บเหลี่ยม)

8c82c111ef14a9d26aeeeda5ae805b6017fd20ab
เราเรียกแถวในแนวนอนของเมทริกซ์ว่า แถว เรียกแถวในแนวตั้งของเมทริกซ์ว่า หลัก และเรียกจำนวนแต่ละจำนวนเในเมทริกซ์ว่า สมาชิก ของเมทริกซ์ การกล่าวถึงสมาชิกของเมทริกซ์ จะต้องระบุตำแหน่งให้ถูกต้อง เช่น จากตัวอย่างข้างบน

สมาชิกที่อยู่ในแถวที่ 2 หลักที่ 3 คือเลข 4

สมาชิกที่อยู่ในแถวที่ 2 หลักที่ 2 คือเลข 15

สมาชิกที่อยู่ในแถวที่ 3 หลักที่ 1 คือเลข 5

เราเรียกเมทริกซ์ที่มี m แถว และ n หลัก เรียกว่า เมทริกซ์ m x n เราเรียกจำนวน m และ n ว่า มิติ หรือ ขนาด ของเมทริกซ์

61260a033bd28aaf5652dc03fb749cd21c3074ab

การกระทำระหว่าง เมทริกซ์

การคูณ

การบวก
ในทางคณิตศาสตร์ เป็นการดำเนินการการบวกบนสองเมทริกซ์ โดยบวกสมาชิกที่สอดคล้องกันเข้าด้วยกันเป็นเมทริกซ์ใหม่

การสลับเปลี่ยน

การคูณด้วยสเกลาร์

ผลบวกแยกสมาชิก
1.การบวกเมทริกซ์โดยทั่วไปจะนิยามให้เมทริกซ์สองเมทริกซ์มีมิติเท่ากัน ผลบวกของเมทริกซ์ A และ B ที่มีมิติ m×n เขียนแทนด้วย A + B และได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเมทริกซ์ขนาด m×n ที่มีสมาชิกเป็นผลบวกบนตำแหน่งที่ตรงกัน
2.เรายังสามารถดำเนินการการลบบนเมทริกซ์สองเมทริกซ์ได้ ตราบใดที่ยังมีมิติเท่ากัน การลบเมทริกซ์เขียนแทนด้วย A − B จะได้เมทริกซ์ที่มีสมาชิกเป็นผลลบบนตำแหน่งที่ตรงกัน
3.เอกลักษณ์การบวกของเมทริกซ์คือเมทริกซ์ศูนย์

ผลบวกโดยตรง
การดำเนินการการบวกอีกอย่างหนึ่งซึ่งมีที่ใช้น้อยกว่า คือการบวกโดยตรง เราสามารถบวกเมทริกซ์ A มิติ m×n กับเมทริกซ์ B มิติ p×q ได้โดยไม่จำเป็นต้องมีมิติเท่ากัน ผลลัพธ์จะออกมาเป็นเมทริกซ์ที่มีมิติ (m + p) × (n + q) ตามที่นิยามไว้ดังนี้
cd2da92d59f62a6230ab1d229d2bdd310f396923

คุณสมบัติ

A + B = B + A

A + (B + C) = (A + B) + C

(r + s)A = rA + sA

r(A + B) = rA + rB

กำหนดเมทริกซ์ cd2da92d59f62a6230ab1d229d2bdd310f396923 และจำนวน 86a67b81c2de995bd608d5b2df50cd8cd7d92455 เราสามารถนิยาม ผลคูณสเกลาร์ aa433e0430d4d9fb7f97340b087950a77edb609d ว่าเป็นเมทริกซ์ขนาด aa433e0430d4d9fb7f97340b087950a77edb609d ที่คำนวณโดยการนำ 86a67b81c2de995bd608d5b2df50cd8cd7d92455 ไปคูณสมาชิกแต่ละตัวของ 7daff47fa58cdfd29dc333def748ff5fa4c923e3 กล่าวคือ หาก e655848df85527a85ad55d8f0a72836da555292c เเล้ว 163017f9931a67252e5322ce653ca9bb7509db2c

ถ้า 74dd65e2f499e08d0b3d3d246450a0126c2eade0 และ a48cd54135f182a781c0fcfb0e644b3e4715b7a3 เป็นเมทริกซ์สองเมทริกซ์โดยที่จำนวนหลักของ A เท่ากับจำนวนแถวของ B แล้ว เราสามารถนิยาม ผลคูณ AB ว่าเป็นเมทริกซ์

ยังไม่เสร็จ อย่าเเก้ไข