Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤติต่อมไร้ท่อ เรื่อง Hyperthyroidism…
การพยาบาลผู้ป่วยวิกฤติต่อมไร้ท่อ
เรื่อง Hyperthyroidism
สาเหตุ
Graves disease ทำให้มีการสร้าง humoral antibody คือ TSI (thyroid stimulating immunoglobulin) ขึ้นมาทำให้ระดับธัยรอยด์ฮอร์โมนเพิ่มขึ้น
Stuma Ovary เป็น dermoid tumor ของรังไข่ซึ่งจะหลั่งธัยรอยด์ฮอร์โมน
Thyroiditis เป็นการอักเสบของต่อมธัยรอยด์ ทำให้มีการหลั่งธัยรอยด์ฮอร์โมนมากขึ้น
Toxic mutinodular goiter คือมีประวัติเป็นธัยรอยด์โตมานาน 20-30 ปี โดยไม่มีอาการผิดปกติ แต่จะเริ่มมีอาการผิดปกติในระยะหลัง
Functioning metastatic thyroid carcinoma เกิดจากมะเร็งของธัยรอยด์ ซึ่งกระจายไปที่อื่นและสร้างธัยรอยด์ฮอร์โมนออกมา
พยาธิสภาพ
การเพิ่มระดับธัยรอยด์ในร่างกาย ทำให้มีการเผาผลาญสารอาหารต่างๆ ในร่างกาย เช่น โปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามินเพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองต่อภาวะการเผาผลาญสารอาหารต่างๆในร่างกายที่เพิ่มขึ้น อุณหภูมิร่างกายจึงสูงขึ้นระดับประสาทซิมพาเทติกทำงานเพิ่มขึ้น ทำให้หัวใจเต้นเร็ว ปริมาณเลือดออกจากหัวใจเพิ่มขึ้น และการไหลเวียนเลือดในร่างกายเพิ่มขึ้น ความดันโลหิตสูงขึ้น ภาวะ hyperthyroidism หากไม่สามารถควบคุมได้เนื่องจากการรักษาที่ไม่ดีพอหรือจากภาวะเครียด จะทำให้เกิด Thyrotoxicosis อาการของโรคจะรุนแรงขึ้น
อาการและอาการแสดง
เส้นผมบาง และนุ่ม ผมร่วง มีการเปลี่ยนแปลงของเล็บ โดยมีการแยกของเล็บออกจาก nail bed เรียกว่า Plummer 's nail
กระสับกระส่าย ตื่นเต้น สับสน นอนไม่หลับหงุดหงิดง่าย
หิวเก่ง น้ำหนักลด อุณหภูมิของร่างกายเพิ่มขึ้นเหงื่อออก ร้อนวูบวาบ มีอาการมือสัน (Tremor) ท้องเสีย ประจำเดือนผิดปกติ ต่อมธัยรอยด์โต
มีการเปลี่ยนแปลงทางตา เนื่องจากระบบประสาทซิมพาเทติกทำงานเพิ่มขึ้น คือตาดุหรือตาจ้อง ตาโปน บวม คัน เจ็บน้ำตาไหลแพ้แสง หนังตายกขึ้นทำให้เห็นตาขาวเหนือตาดำเรียกว่า lid tag
เหนื่อยง่าย ใจสั่น หัวใจเต้นเร็วชีพจรเร็ว ความดันโลหิตสูง อาจพบหัวใจเต้นผิดจังหวะ
ในผู้ป่วย Grave's disease จะพบอาการบวมที่หน้าขา ตาแดง ฝ่ามือแดง มืออุ่น
การรักษา
ประการที่ 1 เพื่อยับยั้งการสร้างและการหลั่งฮอร์โมนจากต่อมไทรอยด์
ประการที่ 2 เมื่อยับยั้งการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนไทรอยด์ที่มีผลต่ออวัยวะต่างๆ จะใช้ยากลุ่ม Beta- adrenergic blocker
ประการที่ 4 เพื่อค้นหาและขจัดปัจจัยกระตุ้นที่เป็นสาเหตุ
ประการที่ 3 เพื่อรักษาตามอาการ ได้แก่ 1. การลดไข้ 2. การให้สารน้ำและเกลือแร่ เพื่อทดแทนการสูญเสียน้ำและเกลือแร่ จากอาการไข้สูง เหงื่อออกมาก ท้องเสีย อาเจียน 3. การแก้ไขภาวะหัวใจล้มเหลว
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล
มีภาวะขาดน้ำ เนื่องจากเมตาบอลิซึมสูง
บันทึก CVP ทุก 2-4 ชั่วโมง ถ้าต่ำกว่า 5 cmH2O ต้องปรับเพิ่มอัตราเร็วของการให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำ ถ้า CVP สูงเกิน 12 cmH2O ต้องลดอัตราเร็วของสารน้ำที่ให้
ประเมินสภาพ skin turgor ดูแลความสะอาดและความชุ่มชื้นของผิวหนัง
2 บันทึกปริมาณสารน้ำเข้า-ออก เพื่อประเมินระดับความสมดุลของปริมาณน้ำเข้า-ออก และวัดปริมาณปัสสาวะที่ออก
ประเมินระดับความรู้สึกตัว และคอยวัดสัญญาณชีพ เพื่อดูแลความเปลี่ยนแปลงและการตอบสนองต่อการรักษา
ดูแลให้ได้รับสารน้ำทางหลอดเลือดดำตามแผนการรักษา ได้แก่ 5%D / NSS, 10%D/NSS ในอัตราที่กำหนด
ปริมาณเลือดที่ออกจากหัวใจลดลง (cardiac output) เนื่องจากมีเมตาบอลิซึมสูงและภาวะหัวใจล้มเหลว
ประเมิน SpO2 ถ้าต่ำกว่า 95% ให้ oxygen canular 3-5 ลิตร / นาที
ดูแลให้ได้รับยา propanolol เพื่อแก้ไขภาวะหัวใจเต้นผิดปกติ ร่วมกับภาวะหัวใจเหลว
2 ประเมินการเต้นของหัวใจ เฝ้าระวังหัวใจเต้นเร็วผิดปกติดูแลให้ยา Digoxin ตามแผนการรักษา
ดูแลให้ได้รับยาต้านไทรอยต์ เช่น PTU ตามแผนการรักษา และสังเกตอาการไม่พึงประสงค์ คือภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำ ได้แก่ ไข้ เจ็บคอ ถ้ามีอาการเหล่านี้ให้รายงานแพทย์
บันทึกสัญญาณชีพ CVP ถ้าความดันโลหิตต่ำกว่า 90/60 mmHg หรือ CVP ต่ำกว่า 5 cmH2O รายงานแพทย์
ดูแลให้ยาขับปัสสาวะตามแผนการรักษา และบันทึกปริมาณปัสสาวและความสมดุลของน้ำเข้า ออก
มีไข้สูงเนื่องจากเมตาบอลิซึมสูงกว่าปกติ
ลดไข้โดยเช็ดตัวด้วยน้ำเย็นใช้ cold pack วางหรือใช้ hypothermic blanket ห่มผู้ป่วย
3.ดูแลให้ยาลดไข้กลุ่ม acetaminophen เช่น paracetamol หลีกเลี่ยงการใช้ยากลุ่ม salicylate เพราะจะไปเพิ่มอัตราการเผาผลาญสูงขึ้น
วัดอุณหภูมิร่างกายทุก 4 ชั่วโมง พยายามรักษาอุณหภูมิของร่างกายผู้ป่วยให้ต่ำกว่า 38 องศาเซลเซียส
4.จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ สะอาด ให้ผู้ป่วยพักผ่อนเพื่อลดเมตาบอลิซึม
4 มีความวิตกกังวลเนื่องจากอาการของภาวะthyroid crisis คุกคามชีวิต
จัดสิ่งแวดล้อมให้สงบ เพื่อให้ผู้ป่วยได้พักผ่อน และอธิบายให้ผู้ป่วยทราบก่อนให้การรักษาพยาบาลทุกครั้งเพื่อลดความตกใจกลัวของผู้ป่วย
3 เมื่อผู้ป่วยพ้นภาวะวิกฤติแล้วพยาบาลแนะนำวิธีการปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยเช่นอธิบายหน้าที่ของขอร์โมนไทรอยด์เน้นการควบคุมโรคให้สงบโดยรับประทานยาสม่ำเสมอห้ามหยุดยาเองแนะนำอาการเริ่มแรกของการขาดฮอร์โมนไทรอยต์แนะนำเรื่องการรับประทานอาหารการพักผ่อนและการมาตรวจตามนัดสังเกตอาการที่เกิดจากภาวะไทรอยด์วิกฤติเช่นไข้สูงกระวนกระวายเหงื่อออกผิวหนังชั้นขาดน้ำหัวใจเต้นเร็วไม่สม่ำเสมอภาวะหัวใจล้มเหลวหรือภาวะน้ำท่วมปอดอาการของระบบทางเดินอาหารเช่นคลื่นไส้อาเจียนปวดท้องท้องเดินตัวเหลืองรวมทั้งกระสับกระส่ายเพ้อชักหมดสติ
บันทึกสัญญาณชีพ เพื่อดูการเปลี่ยนแปลงและดูการตอบสนองต่อการรักษา