การพยาบาลผู้ใหญ่ที่เจ็บป่วยวิกฤติและเฉียบพลันในระบบต่อมไร้ท่อ ภาวะระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ (Hypoglycemia)

อาการและอาการแสดง

การรักษา

พยาธิ

ปัญหาทางการพยาบาล

กิจกรรมการพยาบาล

ข้อวินิจฉัย

สาเหตุ

  1. ได้รับยารักษาโรคเบาหวาน 1. 1 ยาฉีดอินสุลินพบว่า NPH และ premix insulin ทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ 1. 2 ยารับประทานสดน้ำตาลในเลือดกลุ่ม sulfonylurea
  1. Critical organ failure โดยเฉพาะผู้ป่วยที่มีสภาวะเหล่านี้ได้แก่-Hepatic failure
  1. การขาดฮอร์โมนได้แก่-ขาดฮอร์โมน Cortisat หรือ growth hormone-ขาตฮอร์โมน glucagon หรือ epinephrine-ภาวะขาดฮอร์โมนธัยรอยด์
  1. ปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ได้แก่ ผู้ที่เคยมีประวัติน้ำตาลในเลือดต่ำรุนแรงมาก่อน

เมื่อระดับในเลือดต่ำจะมีผลกระทบต่อสมองเป็นอันดับแรกทำให้เกิดภาวะขาดน้ำตาลเมื่อสมองขาดน้ำตาลจะเกิดการกระตุ้นระบบประสาทมีการทำงานของระบบประสาทซิมพาเตติคมากขึ้นทำให้มีการหลั่งฮอร์โมน atecholamine และ glucagon มากขึ้นนอกจากนี้ยังมีผลกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน cotisol cortisol บนย์การประเมิและ growth hormone มากขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มระดับน้ำตาลในเลือดโดยการสลายไกลโคเจนเป็นน้ำตาลมากขึ้นทำให้สมองได้รับน้ำตาลอย่างเพียงพอสำหรับประสาทส่วนกลางจะทำให้สมองทำงานลดลงและ 1 ระดับพฤติกรรมเปลี่ยนแปลง

  1. อาการและอาการแสดงที่เป็นผลมาจากระบบประสาทซิมพาเทติก ถูกกระตุ้น ได้แก่ หิว อ่อนเพลีย หมดแรง ใจสั่น ชีพจรเต้นเร็วความดันเลือดสูงเล็กน้อย เหงื่ออก ตัวเย็น อุณหภูมิต่ำลง มือสั่นซีดปวดศีรษะ กระสับกระส่าย
  1. อาการและอาการแสดงของระบบประสาทส่วนกลาง ทำงานผิดปกติ ได้แก่ ปวดศีรษะ มึนงง สับสน ความคิดความจำเสื่อม ขาดสมาธิ ง่วงนอน ตาพร่ามัว พูดไม่ชัด เดินเซ ซึมลง เป็นอัมพาต รูม่านตาขยาย หมดสติ

ผู้ป่วยที่มีระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ ควรได้รับการช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด โดยการฉีดกลูโคส 50% เข้าทางหลอดเลือดดำ เมื่อผู้ป่วยอาการดีขึ้น ให้กลูโคส 5-10% หยดเข้าทางหลอดเลือดดำ จนกว่าระดับน้ำตาลในเลือดเข้าสู่ปกติและถ้าผู้ป่วยฟื้นแล้ว ควรสังเกตอาการผู้ป่วยอีกระยะหนึ่ง ในกรณีที่ผู้ป่วยมีน้ำตาลในเลือดต่ำโดยยังไม่ทราบสาเหตุ อาจมีภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำซ้ำได้อีก โดยเฉพาะในกรณีที่ผู้ป่วยได้รับยาซัลโฟนีลยูเรีย เช่น chlorpropamine ถ้าเป็นผู้สูงอายุหรือมีภาวะไตวายจะเสี่ยงต่ออันตรายจากน้ำตาลในเลือดต่ำมาก

  1. ระดับความรู้สึกตัวลดลงเนื่องจากน้ำตาลในเลือดต่ำ
  1. อาจเกิดน้ำตาลในเลือดในเลือดต่ำซ้ำเนื่องจากขาดความรู้และความเข้าใจในการดูแลตนเอง
  1. ให้การพยาบาล เพื่อให้ผู้ป่วยมีระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นและระดับความรู้สึกตัวดีขึ้นโดยดูแลให้ผู้ป่วยได้รับกลูโคสตามแผนการรักษา ถ้าน้ำตาลในเลือดต่ำเพียงเล็กน้อยและผู้ป่วยรู้สึกตัวอยู่ให้ดื่มน้ำหวานหรืออมน้ำตาล แต่ถ้าผู้ป่วยไม่ค่อยรู้สึกตัว ไม่สามารถดื่มน้ำหวานได้ ควรให้ 50% กลูโคส 20-50 มิลลิลิตร ฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำข้าๆ ตามแผนการรักษา
  1. อธิบายให้ผู้ป่วยและญาติมีความรู้และเข้าใจถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้ป่วยถ้าเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำซ้ำ
  1. 3 อาการเริ่มแรกหรือออาการเตือนของภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ผู้ป่วยจะต้องสังเกตอาการของตนเอง ซึ่งอาจแตกต่างจากคนอื่นๆ

2.4 อันตรายที่เกิดจากน้ำตาลในเลือดต่ำ ควรเน้นให้ผู้ป่วยทราบ ว่าอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ถ้ารู้สึกว่ามีอาการ หัวใจสั่น หรือรู้สึกว่ามีอาการผิดปกติ ให้ดื่มน้ำหวานหรืออมน้ำตาลหรือทอฟฟี่ทันที ไม่ทิ้งไว้จนอาการมากจะเกิดอันตรายต่อสมอง

  1. 2 เวลาที่จะเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ โดยพิจารณาถึงเวลาการออกฤทธิ์สูงสุดของยา ซึ่งยาแต่ละชนิดมีเวลาการออกฤทธิ์สูงสุด แตกต่างกันอาการทางระบบประสาท ระดับความรู้สึกตัว

2.5 ให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำด้วยตนเองรวมทั้งสานญาติที่ใกล้ชิดให้เข้าใจวิธีการช่วยเหลือ

2.1 สาเหตุของการเกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ