Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบประสาทส่วนกลาง (Head injury: การบาดเจ็บที่ศีรษะ) (การพยาบาล…
ระบบประสาทส่วนกลาง (Head injury: การบาดเจ็บที่ศีรษะ)
ความหมาย
การที่มีประวัติข้อในข้อหนึ่งต่อไปนี้
มีบาดแผลบริเวณหนังศีรษะ
มีการเปลี่ยนแปลงการรับรู้สติแม้เพียงช่วงเวลาหนึ่ง
มีประวัติว่าศีรษะถูกกระทบ
สาเหตุ
ตกจากที่สูงและหกล้ม
ถูกทำร้ายร่างกาย
อุบัติเหตุ ถูกยิง
อุบัติเหตุจากการเล่นกีฬาและนันทนาการ
กลไกการเกิดการบาดเจ็บ
โดยตรง
บาดเจ็บที่เกิดขณะศีรษะอยู่นิ่ง (static head injury)
การถูกตี
ถูกยิง
บาดเจ็บที่เกิดขณะศีรษะเคลื่อนที่ (dynamic head injury)
จะเกิดการบาดจ็บแก่สมองส่วนนั้นและมักมีการแตกร้าวของกะโหลก ส่วนสมองด้านตรงข้ามอาจจะมีการฉีกขาดและมีเลือดออกร่วมด้วย เช่น รถชน
โดยอ้อม
เกิดขึ้นกับส่วนอื่นของร่างกายแล้วมีผลสะท้อน ทำให้เกิดการบาดเจ็บที่ศีรษะขึ้น
ตกจากที่สูงก้นกระแทกพื้น
พยาธิสรีรภาพ
บาดเจ็บที่ศีรษะระยะแรก
เกิดขึ้นทันทีที่มีแรงมากระทบต่ออวัยวะชั้นต่างๆ ของศีรษะอาการและอาการแสดงขึ้นอยู่กับพยาธิสภาพและตำแหน่งของสมองที่ได้รับบาดเจ็บ อาจเป็นแบบเฉพาะที่หรือกระจายและมีความรุนแรง เช่น หนังศีรษะฉีกขาด กะโหลกแตกร้าว มีเลือดในสมอง
บาดเจ็บที่ศีรษะระยะที่สอง
เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เกิดหลังจากการบาดเจ็บที่ศีรษะระยะแรก ใช้เวลาเป็นนาที ชั่วโมงหรือเป็นวัน ส่วนใหญ่เกิดจากภาวะพร่องออกซิเจนและแรงดันกำซาบของเลือดต่อเซลล์สมองต่ำ ทำให้เกิดภาวะเซลล์ขาดเลือด
ประเภทการบาดเจ็บและการรักษา
การบาดเจ็บต่อเนื้อสมอง
เนื้อสมองกระทบกระเทือน
เกิดการแปรผันของการทำหน้าที่ของสมองชั่วขณะ เกิดจากแนงมากระทำต่อศีรษะอย่างรวดเร็วหรือถูกกระแทกอย่างรุนแรง ส่งผลให้สมองไม่สามารถส่งสัญญาณกระแสประสาทได้ชั่วขณะ สูญเสียหน้าที่ชั่วคราว มีอาการปวดศีรษะ ตาพร่ามัว หงุดหงิดง่าย อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ
เนื้อสมองช้ำ
เกิดจากการถูกเสียดสี ทำให้เกิดภาวะเลือดคั่งในสมองและเกิดภาวะสมองบวม เกิดภาวะเซลล์สมองตายในที่สุด พบได้บ่อยที่สุด อาจไม่มีประวัติสลบ อาการแสดงสัมพันธ์กับตำแหน่งที่ได้รับบาดเจ็บ เช่น มีพฤติกรรมเปลี่ยนไป เคลื่อนไหวผิดปกติ และพูดลำบาก จะทำให้เกิดแรงดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น ก้อนเลือดไปกดเบียดเนื้อสมองเกิดภาวะสมองเคลื่อน
เลือดออกในกะโหลกศีรษะ
Epidural hematoma : EDH
เลือดออกบริเวณเหนือเยื่อหุ้มสมองดูรา ส่วนใหญ่เกิด middle meningeal artery ตรวจ CT scan เห็นก้อนเลือดเป็นเลนส์นูน
Subdural hematoma : SDH
เลือดออกใต้เยื่อหุ้มสมองดูรา มีการฉีกขาดของ cortical vein และ bridging vein ตรวจ CT scan เห็นก้อนเลือดเป็นเลนส์เว้าหรือพระจันทร์เสี้ยว (Crecent)
กะโหลกศีรษะแตก (skull fracture)
แตกร้าวเป็นแนว
กะโหลกศีรษะเรียบ แรงกระแทกจะทำให้จุดที่่ถูกกระทบยุบบุ๋มลงแล้วเด้งกลับขึ้นมา ไม่มีการรักษาโดยเฉพาะและมักสมานกันได้เอง
แตกร้าวเป็นฐาน
เป็นแนวตามขวางของกระดูกด้านข้าง อาการ รอยเขียวช้ำหลังหู แก้วหูฉีกมีเลือดออก น้ำ/เลือดออกทางจมูก/รูหู เบ้าตาเขียวช้ำ การรักษา จะหายได้เองแต่บางกรณีอาจต้องผ่าตัด decompression
กะโหลกแตกยุบ
มีการฉีกขาดของdura หรือเนื้อสมองร่วมกับการฉีกขาดของหนังศีรษะ
การบาดเจ็บต่อแอ็คซอนแบบกระจาย
หนังศีรษะ (scalp) บวม ช้ำ โน ถลอก ฉีกขาด
การรักษา คือ การเย็บแผลเป็นคำๆ (interrupted) หรือเย็บแบบต่อเนื่อง (continuous) ก็ได้
ภาวะแทรกซ้อน
ไข้ T >= 38.3 องศาเซลเซียส และ 38.6 องศาเซลเซียส เกิดจาดเซลล์สมองได้รับการกระทบกระทือนกระกระตุ้นการหลั่งสารก่อไข้ คือ arachidonic acid จาก hypothalamus ทำให้การใช้พลังงานของสมองเพิ่มขึ้น
ชัก เกิดเนื่องจากเซลล์สมองถูกทำลายเฉียบพลัน มีก้อนเลือดคั่ง ฝีในสมอง เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
ภาวะความดันในกะโหลกศีรษะสูง
ภาวะไม่สมดุลของอิเล็กโตรไลท์ในร่างกาย ได้แก่ hypo/hypernatremia, hypo/hyperkalemia, hypo/hypercalcemia, hypo/hyperchloremia
การวินิจฉัย
CT scan
MRI
cervical spine x-ray
cerebral angiography
skull x-ray
CSF analysis
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
ขาดประสิทธิภาพการทำทางเดินหายใจให้โล่งเนื่องจากไม่สามารถไอเอาเสมหะออกจากภาวะไม่รู้สึกตัว
ไม่สุขสบายเนื่องจากปวดศีรษะ
แบบแผนการหายใจไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากระดับความรู้สึกตัวลดลง
เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บเนื่องจากการเคลื่อนไหวที่ควบคุมไม่ได้จากการชัก
การกำซาบเนื้อเยื่อสมองลดลงเนื่องจากความดันในกะโหลกศีรษะสูง
การรักษา
ให้ยาจำกัดกิจกรรม&ลดmetabolism
sedative drug/barbiturate
ดึงน้ำออกจากร่างกาย
50-75% Glycerol ทาง NG feed
Furosimind
20-25% Menitol solution ต่อ 1-2Kg/BW ใน 60 min
ดูแลทางเดินหายใจ
Blood gas Pa=O2 80-100 mmHg Pa=CO2 30-35 mmHg
การผ่าตัด
Craniotomy
Ventriculostomy
การพยาบาล
ประเมินอาการทางระบบประสาททุก 1 ชั่วโมง
ดูแลสมดุลสารน้ำและอิเล็กโทรไลต์ กรดด่าง
ดูแลทางเดินหายใจให้โล่ง และให้รับออกซิเจนเพียงพอ
ประเมินสัญญาณชีพ BT<38
ช่วยให้ผู้ป่วยได้ลดความเจ็บปวด ได้พักผ่อน
ดูแลรักษาสมดุลภาวะโภชนาการ
ประคับประคองจิตใจผู้ป่วยและญาติ
ป้องกันภาวะแทรกซ้อนในระบบต่างๆ
ดูแลการขับถ่ายอุจจาระ ปัสสาวะให้เป็นปกติ