Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบทางเดินปัสสาวะ (Acute kidney injury: ไตวายเฉียบพลัน) (ภาวะแทรกซ้อน…
ระบบทางเดินปัสสาวะ (Acute kidney injury: ไตวายเฉียบพลัน)
ความหมาย
เป็นภาวะที่ไตสูญเสียหน้าที่อย่างทันทีทันใด ทำให้การทำหน้าที่ของไตเสียหน้า มีผลทำให้เกิดของเสียคั่งในเลือด เช่น ยูเรียไนโตรเจน ครีอะตินีน เป็นต้น
สาเหตุ
Intrinsic acute kidney injury
โรคที่เกิดจากเส้นเลือดขนาดเล็ก มักมัความดันโลหิตสูง มีไข่ขาวหรือเม็ดเลือดในปัสาวะ
โรคที่เกิดจากเส้นเลือดใหญ่ เช่น เส้นเลือดแดงที่ไปเลี้ยงอุดตัน 2 ข้าง เนื่องจาก emboli หรือ thrombolism
โรคที่เกิดจากทุบุล (ATN)
เกิดจากสารเคมีหรือยาบางประเภทที่มีผลโดยตรงต่อไต
เกิดจากเลือดไปเลี่ยงไตน้อยลง เช่น สูญเสียน้ำอย่างรุนแรง แผลไฟไหม้
Postrenal acute kidney injury
เกิดจากการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะส่วนล่างของไต ตั้งแต่ปลายท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ และท่อไตทั้ง 2 ข้าง
Prerenal acute kidney injury
hypovolemia ขาดสารน้ำ
ภาวะหัวใจวาย และโรคตับแข็ง ทำให้COต่ำ มีการกำซาบเลือดน้อยลง
สารพิษ เช่น ยาที่มีผลต่อไต ยากลุ่ม NSAID
ความดันโลหิตลดลง เลือดไปเลี้ยงไตลดลงด้วย ADH จะทำให้ไตเก็บกักน้ำและเกลือไว้ ปัสสาวะจึงเข้มข้นและมีปริมาณน้อยลง
ปัจจัยเสี่ยง
การขับของเสีย creatinine ลดลง เช่น โรคตับ ติดเชื้อในกระแสเลือด
โรคอ้วน
ยาที่มีผลต่อทุบุล (tubular secretion) เช่น cimetidine
ได้รับยาเคมีบำบัด
การช่วยฟื้นคืนชีพเป็นระยะเวลานาน
ปัสสาวะออกน้อยจาก ADH เหลือมากเกินไป
พยาธิสรีรภาพ
บทบาทด้านการไหลเวียนเลือด
เมื่อไตขาดเลือดไปเลี้ยง ทำให้อัตราการกรองของไตลดลงอย่างมาก ทำให้ไตสร้าง nitric oxide ซึ่งมีหน้าที่ขยายหลอดเลือดลดลงร่วมกับสร้าง endothelin ทำให้หลอดเลือดหดตัว ทำให้เซลล์ทิวบูลถูกทำลายและไตวายเพิ่มขึ้น
บทบาทด้านเซลล์ทิวบูล
เมื่อเซลล์ทิวบูลไตถูกทำลาย ทำให้เซล์หลุดออกมาทางท่อไตและอุดกั้นท่อไตทำให้สารน้ำต่างๆ ที่ถูกกรองออกมาไหลย้อนกลับผ่านเซลล์ทิวบูลเข้าไปในร่างกาย ผลที่ตามมาคือ ทำให้อัตราการกรองของไตลดลง ทำให้ไตวายเพิ่มขึ้น
อาการและอาการแสดง
Diuretic phase ปัสสาวะออกมาก
ไตค่อยๆ ฟื้นตัว มีปัสสาวะออกมากขึ้น ระดับ BUN, Cr ค่อยๆ ลดลง มีการสูญเสียน้ำ โซเดียม และโปแทสเซียม เนื่องจากปัสสาวะออกมาถึง 4-5 ลิตร/วัน
Recovery phase ฟื้นฟูสภาพ
เข้าสู่ภาวะปกติ ระดับของ BUN, Cr กลับสู่ภาวะปกติ อัตราการกรองใกล้เคียงภาวะปกติใน 2-3 เดือน
Oliguric phase ปัสสาวะออกน้อย
ใช้เวลา 1 วันถึง 1-2 สัปดาห์ จนไม่มีปัสสาวะ ทำให้ไตไม่สามารถขับของเสียออกมาได้ มีการคั่งของ BUN, Cr, เกลือแร่ และกรดในร่างกายคั่งค้างในกระแสเลือด ต้องระมัดระวังการให้สารน้ำ เนื่องจากบวม น้ำท่วมปอด และหัวใจล้มเหลว
การประเมินสภาพ
ประวัติการใช้ยา
ยาปฏิชีวนะ เช่น Aminoglycosides, Penicillins
จากการตรวจปัสสาวะจะพบความถ่วงจำเพาะมีค่าคงที่หรือสูงขึ้น ออสโมลาลิตี้ 250-350 มิลลิออสโมล
สัญญาณชีพ
ความดันโลหิตต่ำ หัวใจเต้นเร็ว
ตรวจเลือดจะพบค่า Blood urea nitrogen (BUN), Creatinine (Cr) สูงกว่าปกติ BUN : CR = 10 : 1 หรือต่ำกว่า
ประวัติ
มีการสูญเสียน้ำ เลือดจากร่างกาย ติดเชื้อในร่างกายและการอุดกั้นทางเดินปัสสาวะ
ตรวจจำนวนเม็ดเลือด (Complete blood count; CBC) พบระดับฮีมาโตคริท และระดับฮีโมโกลบิลต่ำ
ค่าอิเล็กโทรไลต์ พบค่า HCO3 ต่ำ
ข้อวินิจฉัยการพยาบาล
ติดเชื้อได้ง่ายเนื่อจากภูมิคุ้มกันถูกกดจากภาวะยูรีเมีย
มีภาวะของเสียคั่งในร่างกายเนื่องจากไตสูญเสียหน้าที่
มีภาวะซีดเนื่องจากไตสร้างฮอร์โมน Erythropoietin ได้น้อยลง
มีภาวะไม่สมดุลของน้ำและอิเล็กโตรไลท์เนื่องจากไตเสียหน้าที่
มีภาวะหายใจล้มเหลวเนื่องจากมีน้ำคั่งในปอด
การรักษา
กำจัดโปแตสเซียมออกจากร่างกายโดยให้ Kayexalate ร่วมกับ Sorbitol เพื่อช่วยขับโปแตสเซียมออกทางอุจจาระ
ให้ Regular insulin (RI) + 50% Glucose ทาง IV ซึ่ง Insulin จะพา Glucose เข้าเซลล์ และนำ K+ ในเลือดได้อย่างรวดเร็ว
จำกัดปริมาณน้ำ จำกัดอาหารที่มีโปแตสเซียม เช่น ผัก ผลไม้ เป็นต้น
ให้ NaHCO3 ทาง IV ช่วยแก้ภาวะ Metabolic acidosis ช่วยให้ K+ เข้าเซลล์ได้มากขึ้น
ให้การรักษาหรือภาวะที่เป็นสาเหตุและแก้ไขภาวะผิดปกติต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ป้องกันการติดเชื้อโดยใช้หลัก Aseptic technique
ภาวะแทรกซ้อน
ระบบประสาทและกล้ามเนื้อ
สับสน วุ่นวาย กระตุก ชัก หรือหมดสติได้
ระบบโลหิต
ซีดจากการสร้งอิริพอยอิตินลดลง และภาวะเลือดออกง่ายจากเกล็ดเลือดผิดปกติ
ระบบทางเดินอาหาร
คลื่นไส้ อาเจียน สะอึก ท้องเสีย เลือดอกทางเดินอาหาร ตับอ่อนอักเสบ
เมตาบอลิก
โปตัสเซียมสูง โซเดียมต่ำ ฟอสเฟตสูง แคลเซียมต่ำ แมกนีเซียมสูง ยูริกสูง ภาวะกรดจากเมตาบอลิก
ระบบหายใจ
ปวดบวมน้ำ, ARDS
ติดเชื้อได้ง่าย
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
บวม ความดันโลหิตสูง ปอดบวมน้ำ
ด้านจิตใจ
วิตกกังวล กลัว