Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ระบบประสาทส่วนกลาง ความดันในกะโหลกศีรษะสูง (Increase Intracanial Pressure)
ระบบประสาทส่วนกลาง ความดันในกะโหลกศีรษะสูง (Increase Intracanial Pressure)
สาเหตุ
การผลิตน้ำหล่อสมองไขสันหลังเพิ่มขึ้นหรือการดูดซึมกลับของน้ำหล่อสมองไขสันหลังลดลง
พยาธิสภาพที่ทำให้ปริมาตรเนื้อสมองในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น เช่น ภาวะสมองบวม การขาดเลือดหรือออกซิเจนของสมอง
ปัจจัยเสริม เช่น ภาวะ Hypercapnia,ภาวะHypoxemia,กลไกการช่วยเหลือด้ายการหายใจ,ได้รับยาขยายหลอดเลือด,การเกร็งกล้ามเนื้อ,ภาวะเครียดจากอารมณ์หรือความเจ็บปวด,การเผาผลาญสูงขึ้น
มีการเพิ่มปริมาณเลือดในสมอง เช่น มีการอุดกั้นของหลอดเลือดดำในสมอง,มีการขยายของหลอดเลือดดำ
การรักษา
Osmotic therapy and diuresis
Hypertonic saline bolus โดยมีการเพิ่มความดันโลหิตและ CPP ที่นิยมใช้ คือ 3%NaCl
Furosemide ควรระมัดระวังภาวะขาดน้ำและโพแทสเซียมในเลือดต่ำ
Manitol เกิดการดึง free water ออกจากสมองและปริมาตรของเนื้อสมองลดลง และเพิ่ม CPP เพิ่มปริมาตรเลือดที่ไปสมอง
Glycerol มีประสิทธิภาพต่ำว่า Manitol ซึ่งอาจทำให้ความดันในกะโหลกศีรษะสูงขึ้น
จัดท่านอนคอตรง ศีรษธสูงกว่าระดับหัวใจ 30 องศา การทำให้ผู้ป่วยสงบจากการดูดเสมหะ การไอ การเคลื่อนไหว การควบคุมระดับความดันโลหิตและ CPP ให้ยากันชัก และการทำให้อุณหภูมิในร่างกายต่ำกว่าปกติ
Resuscitation ดูแลเรื่องการหายใจ ภาวะ hypoxia และ Hypoventilation ดูแลป้องกันการอุดกั้นทางเดินหายใจ โดยให้มี O2 sat 98% ,PaCO2 30-35 mmHg. และดูแลเรื่องการไหลเวียน ไม่ให้ความดันโลหิตเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาความดันโลหิต่ำ ทำให้เกิดการขยายตัวหลอดเลือดสมองและทำให้ความดันในกะโหลกศีรษะสูงขึ้นได้ ควรให้สารน้ำทดแทน เลี่ยงการให้สารน้ำที่มีน้ำตาลเพราะอาจเกิดสมองบวมมากขึ้น
การผ่าตัดเพื่อนำก้อนพยาธิสภาพที่เป็นสาเหตุออก, การผ่าตัดใส่สายระบายน้ำหล่อสมองและไขสันหลัง(CSF drainage), การผ่าตัดเพื่อเปิดกะโหลกศีรษะ(Decompressive craniectomy)
การพยาบาล
ตรวจวัด arterial blood gases
กระตุ้นและช่วยให้ผู้ป่วยทำกิจกรรมต่างๆตามความต้องการของตนเอง โดยพยาบาลและญาติให้ความช่วยเหลือตามความจำเป็น
แนะนำให้ผู้ป่วยไม่ทำกิจกรรมที่จะทำให้เกิดความดันในกะโหลกศีรษะสูง เช่น การไอ การจาม
จัดอุปกรณ์ของใช้ให้อยู่ใกล้ตัว สะดวกต่อการหยิบจับ ใส่ไม้กั้นเตยงเพื่อป้องกันการตกเตียง
ดูให้ให้ผู้ป่วยได้รับยาขับปัสสาวะ ยา anticholinesterase ตามแผนการรักษา
ดูแลการได้รับออกซิเจนและจัดท่าให้ผู้ป่วยนอน 30 องศา หลีกเลี่ยงการงอพับคอและช่วยระบายเสมหะ โดยการเคาะปอด ฟังปอด พลิกตะแคงตัวทุก 2 ชั่วโมง ป้องกันการคั่งของเสมหะ
ประเมินสัญญาณชีพและระบบทางประสาททุก 1-2 ชั่วโมง
ปัญหาการพยาบาล
แบบแผนการทำกิจวัตรประจำวันเปลี่ยนแปลง เนื่องจากไม่รู้สึกตัว กล้ามเนื้ออ่อนแรง
ภาวะโภชนาการเปลี่ยนแปลง ได้รับสารน้ำและอาหารไม่เพียงพอ เนื่องจากผู้ป่วยไม่สามารถกลืนได้ปกติ
การเคลื่อนไหวบกพร่อง เนื่องจากไม่รู้สึกตัว แขนขาอ่อนแรง
ไม่สุขสบาย เนื่องจากปวดศีรษะ
แบบแผนการหายใจไม่มีประสิทธิภาพเนื่องจากระดับความรู้สึกตัวลดลง ความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น
เสี่ยงต่อการได้รับบาดเจ็บ เนื่องจากควบคุมการเคลื่อนไหวไม่ได้ การรรับรู้ผิดปกติ ระดับความรู้สึกตัวลดลง
การกำซาบเนื้อเยื่อสมองลดงลง เนื่องจากความดันในกะโหลกศีรษะสูง
พยาธิสภาพของโรค
กะโหลกศรีษะเป็นอวัยวะที่มีปริมาตรคงที่จำกัดเป็นสิ่งที่แข็งและยืดขยายไม่ได้ โดยห่อหุ้ม คือ เนื้อสมอง น้ำไขสันหลังและเลือด หากส่วนใดส่วนหนึ่งมีปริมาตรเพิ่ม ส่วนที่เหลือต้องปรับลดลง หากส่วนที่เหลือไม่มีการลดลงจะทำให้เกิดแรงดันภายในกะโหลกศีรษะสูงขึ้น สมองมีความสามารถในการควบคุมระดับความดันในกะโหลกศีรษะและปริมาณเลือดที่ไปเลี้ยงสมองในระดับที่เหมาะสม เมื่อความดันในกะโหลกศีรษะสูงในระยะแรก น้ำหล่อเลี้ยงสมองไขสันหลังจะถูกเคลื่อนไปัง spinal thecal sac และเลือดถูกระบายออกผ่านทางหลอดเลือดดำเพื่อลดความดันในกะโหลกศีรษะให้คงที่ เรียกภาวะนี้ว่า Compensation
อาการและอาการแสดง
มีความผิดปกติในการพูด เกิดการชักแบบ motor epilepsy ด้านตรงข้ามกับพยาธิสภาพ และกล้ามเนื้ออ่อนแรง
กระสับกระส่าย ระดับความรู้สึกตัวเปลี่ยนแปลง รูม่านตาเปลี่ยนแปลง กล้ามเนื้ออ่อนแรง ปวดศีรษะ ตาพร่ามัวหรือเห็นภาพซ้อน และอาจมีอาการอาเจียน
มีการเปลี่ยนแปลงระดับความรู้สติ (Level of consciousness)เพื่อบอกสภาวะทางระบบประสาท การเปลี่ยนแปลงจะบอกถึงการลดลงของปริมาณเลือดไหลเวียนในสมอง ,การเปลี่ยนแปลงสัญญาณีพ เช่น hypothalamus ถูกกด ทำให้อัตราการหายใจช้าลง ไม่สม่ำเสมอ และเกิด Cheyne-stokes ,มีภาวะ hyperthermia ,ม่านตาขยายปฏิกิริยาช้าลง มีอาการปวดศีรษะ อาเจียนหรือสะอึก ทำให้กระบังลมเกร็งและหดตัว ,สูญเสียรีเฟล็กซ์ของก้านสมอง