Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ความดันในกะโหลกศีรษะสูง Increase Intracranial Pressure (สาเหตุที่ทำให้ความ…
ความดันในกะโหลกศีรษะสูง Increase Intracranial Pressure
ความหมาย
ความดันที่สูงกว่า 15 มม.ปรอท เป็นภาวะที่คุกคามชีวิตเพราะทำให้เกิดสมองบวมและสมองขยับเลื่อนที่ตามมา
ความดันใต้กระโหลกศรีษะสูง มากกว่า 20 mmHg เป็นเวลานานเกิน 5นาที
สาเหตุที่ทำให้ความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้น
1. มีสิ่งกินที่เกิดขื้นในสมอง (Space occupying lesion)
ซึ่งเป็นการเพิ่มปริมาตรเนื้อสมอง ได้แก่ ก้อนเลือด สมองช้ำ สมองบวม ฝี เนื้องอก เป็นต้น
2. สาเหตุที่ทำให้เลือดในสมองเพิ่มขึ้น
ได้แก่ การมีเลือดคั่ง(Hyperemia) มีคาร์บอนไดออกไซด์คั่ง หรือขาดออกซิเจน (Hypercapnea or hypoxia) ได้รับยาขยายหลอดเลือด มีการอุดตันทางเดินเลือดดำ
3. สาเหตุที่ทำให้น้ำไขสันหลังเพิ่มขึ้น
เช่น เป็นเนื้องอกของคอรอยด์เพลกซัส ทำให้สร้างน้ำไขสันหลังเพิ่มขึ้น หรือในทางตรงกันข้าม นํ้าไขสันหลังถูกดูดซึมน้อยลง หรือเนื้องอกอุดตันทางเดินไขสันหลัง เป็นต้น
นอกจากนนี้ยังมีปัจจัยเสริม
ภาวะ Hypercapnia
Hypoximia
กลไกการช่วยเหลือด้านการหายใจ
ได้รับยาขยายหลอดเลือด
ท่านอน
การเกร็งกล้ามเนื้อ
ภาวะเคียดจากอารมณ์หรือการเจ็บปวด
การเผาผลาญสูงขึ้น
พยาธสภาพ
สมองซึ่งอ่อนนุ่ม เลือดไหลอยู่ในวงจรปิดส่วนน้ำหล่อสมองไขสันหลัง สามารถไหลเวียนได้ทั่วสมอง ต่างก็บรรจุอยู่ในกะโหลกศีรษะที่แข็งแรงยืดหดไม่ได้ เมื่อมีการเพิ่มปริมาตรอย่างใดอย่างหนึ่งในสามอย่างนี้ ก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงของส่วนที่เหลืออยู่ ซึ่งเป็นกระบวนการซดเชยของร่างกาย (Compensation) ซึ่งมี 2 ขั้นตอน
ขั้นตอนแรก
มีสิ่งเกินที่เพิ่มขึ้น 50-70 ม.ล. ร่างกายจะปรับตัว โดยการขยับเลื่อนของนํ้าไขสันหลัง ไหลออกจากโพรงสับอแรคนอยด์ของสมองและห้องสมองต่างๆ ลงไปยังโพรงสับอแรคนอย์ของไขสันหลัง เมื่อความดันในกะโหลกยังสูงเพิ่มขึ้น คอรอยด์เพลกซัสในห้องสมอง ก็จะลดการผลิตน้ำหล่อสมองไขสันหลังลง ในขณะเดียวกันก็จะเพิ่มการดูดซึมที่อแรคนอยด์วิลไลมากขึ้น
กลไกอันที่สอง
คือ การลดปริมาตรเลือดไหลเวียนในสมอง (CBV) โดยเลือดดำจะถูกเปลี่ยนทิศทางการไหลออกจากสมองส่วนที่มีพยาธิสภาพเข้าไปในแอ่งเลือดที่อยู่ไกลออกไปยังผลให้การไหลเวียนเลือดทั่วๆ ไปลดลง สมองจึงขาดเลือดไปเลี้ยง
อาการและอาการรแสดง
1. ชนิดเฉียบพลัน
ได้รับบาดเจ็บศีรษะรุนแรง มีเลือดออก สมองชํ้าทำให้ความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เกิดคุชชิง รีเฟลกซ์ชัดเจน จะพบว่าผู้ป่วยมีอาการกระสับกระส่าย ปวดศีรษะมากขึ้นๆ แม้ว่าเนื้อสมองจะไม่รับความเจ็บปวด แต่การมีสมองขยับเลื่อนที่ไปกดหลอดเลือดจะทำให้ปวดศีรษะได้ ซึมลงเรื่อยๆ ในเด็กจะพบอาเจียนพุ่งโดยไม่มีคลื่นไส้ สัญญาณชีพเปลี่ยนแปลง แขนขาอ่อนแรงด้านตรงข้าม รูม่านตามีปฏิกริยาต่อแสงช้า
2. ชนิดเรื้อรัง
พบในพวกที่เป็นเนื้องอกของสมองซึ่งเกิดขึ้นช้าๆ สมองจึงปรับตัวได้ จะมีอาการปวดศีรษะ อาเจียน และตามัว
autoregulation มี 4 ระยะ
1.ระยะที่มีการชดเชย Autoregulation
2.ระยะที่เริ่มมีการชดเชยโดย Cushing's reflex
3.ระยะท้ายของการชดเชย
4.ระยะเสียกลไกชดเชยโดยสิ้นเชิง lrreversible decompensation
การรักษา
รักษาสาเหตุที่ทำให้ความดันในกะโหลกเพิ่ม เช่น ผ่าตัดเอาก้อนเลือดหรือเนื้องอกออก หรือแก้ไขภาวะติดเชื้อ
ลดความดันในกะโหลกศีรษะ
จัดให้มีออกซิเจนไปเลี้ยงสมองอย่างเพียงพอ
ให้สารนํ้าที่มีความเข้มข้นมากทางหลอดเลือดดำ
ให้คอร์ติโคสเตอรอยด์ 5-10 มก. เข้าเส้นทุก 6 ชั่วโมง
ให้ยาขับปัสสาวะเช่น ลาซิกส์ 40-120 มก.เข้าเส้น
ให้ยาบาร์บิทุเรตเพื่อทำให้หลอดเลือดในสมองตีบ
การประเมิน
1. การซักประวัติ
ผู้ป่วยที่รู้สติดี ซักถามประวัติที่เกี่ยวข้องและเป็นสาเหตุให้ความดันในกะโหลกศีรษะเพิ่ม
สังเกตการโต้ตอบทางอารมณ์ การรับรู้ต่อบุคคล เวลา สถานที่ อาการปวดศีรษะหรือคลื่นไส้อาเจียน
2. การตรวจรางกาย
การตรวจระดับความรู้สติ
ตรวจอาการทางตา
การเคลื่อนไหวแขนขา ฟังเสียงพูด
ตรวจวัดสัญญาณชีพ
การหายใจว่าหายใจเพียงพอ
3. การตรวจพิเศษ
การถ่ายภาพรังสีกะโหลกศีรษะ การถ่ายภาพสมองด้วยคอมพิวเตอร์ หรือตรวจด้วยคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
ข้อวินิจฉัยและการพยาาบาล
การกำซาบเนื้อเยื่อสมองลดลงเนื่องจกความดันในกะโหลกศีรษะสูง
1.ประเมินสัญญาณชีพแลtระบบประสาททุก 1-2 ชั่วโมง
2.จัดให้ผู้ป่วยนอนศีรษะสูง 15-30องศา หรือตามการรักษาของแพทย์แนะนำผู้ป่วยไม่ให้เกิดความดันในช่องอกหรือช่องท้องสูง3.ดูแลให้ได้รับยาขับปัสสาวะ และ Steroid เพื่อดึงน้ำออกจากสมอง
3.ดูแลให้ออกซิเจนตามแผนการรักษาดูแลทางเดินหายใจให้โล่งและมีการระบายอากาศที่ดี
4.ตรวจวัด ABG
5.ลดปริมาณและความยาวนานของการกระตุ้นที่รุนแรง
6.ดูแลการพยาบาลอย่างนุ่มนวลและให้ผู้ป่วยได้พักผ่อนใช้การผูกรัดผู้ป่วยเฉพาะกรณีที่จำเป็นเพราะการดิ้นทำให้ ICP สูงขึ้น
ระบบประสาทและสมอง