Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
การตรวจร่างกายและการตรวจครรภ์ (ท่าของทารก Fetal position…
การตรวจร่างกายและการตรวจครรภ์
แนวของทารก Fatal lie
Longitudinal lie
Transverse lie
Oblique lie
ทรงของทารก Fetal attitude
Flexion attitude เด็กอยู่ในลักษณะ หัวก้ม คางแนบชิดหน้าอก หลังงอ แขนขาศอกเข่างอ ทุกส่วนแนบชิดลำตัว ยาวรีแบบรูปไข่เรียกว่า fetal ovoid ลักษณะเด็กทรงนี้เรียกว่า universal flexion การคลอดส่วนใหญ่จะอยู่ทรงนี้
Deflexion attitude การเงยหัว
Slight degree of deflexion เงยเล็กน้อย หัวเด็กจะอยู่ตั้งตรงลักษณะเช่นนี้เรียก military attitude ในการคลอดถ้าหัวเด็กผ่านลงช่องเชิงกรานด้วยลักษณะนี้เด็กจะมี bregma presentation เพราะขม่อมหน้าจะเป็นส่วนที่อยู่ต่ำที่สุด
Moderate degree of deflexion เงยมากขึ้นอีก จนส่วนหน้าผากเป็นส่วนยอดของหัวเด็ก ในการคลอดเรียกว่า brow presentation
Marked degree of daflexion เงยหน้าเต็มที่จนแหงน ในการคลอดเรียกว่า face presentation
ส่วนนำทารก Fetal presentation คือส่วนแรกที่สัมผัสปากมดลูกหรือคลอดออกมา
ส่วนนำศีรษะ (Head/Cephalic presentation) พบร้อยละ 95
Vertex presentation หัวเด็กก้มเต็มที่ ส่วนvertex คือส่วนยอดของศีรษะที่อยู่ต่ำสุดเมื่อเด็กเอาหัวออกมา พบ 95-95 %
Bregma presentation/Military เด็กเงยหัวเล็กน้อย
Brow presentation มีการเงยหน้าขึ้นอีก
Face presentation เด็กเงยหน้าแหงนเต็มที่
ส่วนนำท่าก้น Breech presentation
Complete breech /Full breech/Double breech ทารกงอข้อเข่าหรือข้อสะโพก หรืออยู่ในท่านั่นขัดสมาธิ คล้าย vertex แต่ก้อนกลับเป็นหัว
Incomplete breech ไม่มีการงอข้อเข่าสะโพก
Frank breech /Single breech พบบ่อยที่สุด ท่าที่ต้นขางอพักขึ้นไปด้านศีรษะแนบกับท้อง ข้อเข่าและเท้าเหยียดพาดไปตามหน้าอดและหน้า
Footling breech อยู่ในลักษณะที่ยื่นเท้าลง เข่าและต้นขาเหยียด อาจเหยีดออกมาได้ 1 ข้าง 2 ข้าง หรือเข่าก็ได้
ส่วนนำเป็นไหล่ Shouder presentation อยู่ในท่าขวางกับเชิงกราน ส่วนนำอาจพบเป็นเป็นไหล่ข้างใดข้างหนึ่ง หรือของเชิงกราน
ท่าผสม Compound presentayion อาจพบ มือกับศีษะ มือกับก้น ศีรษะกับเท้า
Funic presentation (Foreling cord/Umbilical cord presentation) ท่าที่มีสายสะดืออยู่ต่ำกว่าส่วนนำจากการย้อยของสายสะดิอลงมาใต้ส่วนนำ เรียกว่า prolapsed cord
ส่วนของทารกบนส่วนนำ Fetal presentation/Denominator
presenting part
Vertex
Bregma
brow
face
breech
Shouder
Denominator
Occiput (O)
Occiput (O)
Frontal (F)
Mentum (M)
Sacrum (S)
Scapula (Sc) /Acromion(Ac)
ท่าของทารก Fetal position สามารถบอกได้โดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างจุดอ้างอิง
anterior (A)
Posterior (P)
Left anterior (LA)
Left posterior (LP)
Right anterior (RA)
Right posterior (RP)
วิธีที่ใช้ในการตรวจครรภ์ ประกอบด้วย ดู คลำ ฟัง
การดู Inspection ใช้ประเมินขนาดและรูปร่างของมดลูกการเคลือนไหวของทารกในครรภ์ ผิวหนัง หล้ามเนื้อที่บริเวณหน้าท้อง และสังเกตแนวทางทารก Fatal lie
การคลำ palpation การคลำที่นิยมใช้คือ Leopold's maneuvers
ท่าที่ 1 First maneuver or Fundal grip (การคลำยอดมดลูก) ใช้ฝ่ามือและปลายนิ้วมือทั้งสองข้างคลำบริเวณยอดมดลูก และคลำอวัยวะว่าเป็นศีษระหรือก้น หากเป็นศีรษะจะเป็นก้อนกลม แข็ง เคลื่นไปมาได้ง่ายเมื่อใช้เมือกระทบหรือผลัก เรียกว่า Ballottement ถ้าเป็นก้น จะขรุขระ ไม่กลม ไม่แกว่งได้ง่ายไม่มี Ballottement และทำให้ทราบระดับของยอดมดลูกหรือความสูงของยอดมดลูก
ท่าที่ 2 Second maneuver or Umbilical grip คลำหาส่วนหลังของทารก ใช้ฝ่ามือทั้งสองข้างเคลื่อนลงมาจากยอดมดลูกและคลำด้านข้างของมดลูกพร้อมๆกัน ใช้ฝ่ามือและนิ้วมือสัมผัสให้ได้ว่าด้านใดเป็นด้านหลังด้านใดเป็นด้านหน้า หลังของทารก (fetal back)จะเป็นแผ่นเรียบโค้งตามความโค้งของกระดูกสันหลังเรียกว่า Large part ด้านหน้าจะมีเท้า มือ สัมผัสได้ขรุขระ ตะปุ่มตะป่ำ เรียกว่า Small part
ท่าที่ 3 Third maneuver or Pawlik grip (ตรวจหาส่วนนำทารก) ใช้มือข้างขวาคลำที่ท้องน้อยบริเวณหัวเหน่า กางมือออกและคลำหาส่วนนำรอบส่วนนำไว้ในมือให้อยู่ระหว่างนิ้วทั้งสี่กับหัวแม่มือ พยายามแยกว่าเป็นส่วนหัวหรือส่วนก้น
ท่าที่ 4 Fourth maaneuver or Billateral inguinal grip (ตรวจหาการเคลื่อนต่ำสู่ช่องเชิงกรานของส่วนนำทารก) เปลี่ยนท่านั่งจากการนั่งหันหน้าไปทางศีรษะของสตรี จะหันไปทางปลายเท้าแทน ผู้ตรวจวางมือสองข้างเหนือหัวเหน่า สอบมือสองข้างเข้าหากันโดยให้ปลายมืออยู่บนส่วนนำ หากมือสอบเข้าหากันจนมือชนกันได้แสดงว่าส่วนนำยังไม่ลงสู่ช่องเชิงกราน ศีรษะยังลอยเรียกว่า Head float ถ้ามือสอบเข้าหากันไม่ได้แสดงว่าลงสู่ช่องเชิงกรานแล้วเรียกว่า Head engaged
การฟัง Auscultation จะเริ่มได้ยินเมื่อ 18 wk.ขึ้นไป นับอัตราไม่ชัดเจน ปกติ FHS จะมีอัตราการเต้นอยู่ระหว่าง 120-160 bpm ลักษณะเสียง ตุบ ตุบ และเสียง Uterine souffles จะได้ยิน " ฟู่ ฟู่" การฟังเสียงหัวใจเด็ก จะฟังได้ชัดที่สะบักข้างซ้าย Left scapular region ในรายที่หัวเป็นส่วนนำ เสียงหัวใจจะได้ยินที่ระดับต่ำกว่าสะดือถ้าเด็กเอาก้นเป็นส่วนนำเสียงหัวใจจะได้ยินสูงกว่าระดับสะดือ
การฝากครรภ์
ความหมาย
การดูแลหญิงมีครรภ์ระหว่างตั้งครรภ์ โดยมีหน่อยของการให้บริการเรียกว่า คลินิคฝากครรภ์ เพื่อให้สตรีตั้งครรภ์และทารกในครรภ์ได้รับการดูแล ป้องกัน ลดภาวะแทรกซ้อนในระยะตั้งครรภ์
หลักการฝากครรภ์แนวเก่าและแนวใหม่ (ขององค์กรการอนามัยโลก) และการคัดกรองภาวะเสี่ยง
การฝากครรภ์แนวเก่าของกระทรวงสาธารณสุข
ครั้งที่ 1 เมื่อสงสัย รู้ว่าตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 2 เดือน (8 wk.)
ครั้งที่ 2 อายุครรภ์ 3-4 mo. (12-16 wk. ไตรมาส 1)
ครั้งที่ 3 อายุครรภ์ 5-6 mo. (20-24 wk. ไตรมาส 2)
ครั้งที่ 4 อายุครรภ์ 7-8 mo. (28-32 wk. ไตรมาส 3)
ครั้งที่ 5 อายุครรภ์ 9 mo.
แนวปฏิบัติในการนัดตรวจสตรีตั้งครรภ์ปกติหรือไม่มีภาวะเสี่ยง low risk
อายุครรภ์น้อยกว่า 28 wk. นัด 4 wk.
อายุครรภ์ระหว่าง 28-36 wk. นัดทุก 2 wk.
36 wk. ขึ้นไป นัดทุก wk.
หลักการฝากครรภ์แนวใหม่ ขององค์การอนามัยโลก แนวคิดการดำเนินงาน: การดูแลสตรีตั้งครรภ์ที่มีประสิทธิภาพ โดยการดูแลสตรีตั้งครรภ์ 5 ครั้งคุณภาพ (ตามแบบประเมินความเสียงของสตรีตั้งครรภ์)
กิจกรรมการดูแลสตรีตั้งครรภ์ครั้งแรก ประกอบด้วย
ซักประวัติ
ประวัติส่วนตัว ชื่อ-สกุล อายุ การสูบุหรี่ รายได้
ประวัติการเจ็บป่วยการผ่าตัด การแพ้ยาอาหาร โรคหรือภาวะผิดปกติ
ประวัติการคลอดและเจ็บป่วยของบุคคลในครอบครัว
ประวัติการตั้งครรภ์ที่ผ่านมา
ระยะเวลาของการให้นมแม่อย่างเดียว
ภาวะแทรกซ้อนของการตั้งครรภ์และการคลอดครั้งก่อนๆ
การทำหัตถการทางสูติศาสตร์ เช่น ขูดมดลูก ผ่าตัดคลอด
การเกิดภาวะแทรกซ้อนที่มีผลต่อทารก
การตรวจร่างกาย
การชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง
วัดความดันโลหิตสูง
ตรวจร่างกายทั่วไป ตรวจเต้านม หัวนม ภาวะซีด
ตรวจครรภ์ ประเมินอายุครรภ์
ส่งพบแพทย์เพื่อฟังเสียงการหายใจและเสียงหัวใจของสตรีตั้งครรภ์
พิจารณาทำการตรวจภายในเพื่อตรวจหาความผิดปกติ
ทดสอบการตั้งครรภ์และตรวจสุขภาพช่องปาก
การตรวจทางห้องปฏิบัติการ
ตรวจปัสสาวะ ด้วย Urine dipstick หรือ UA เพื่อคัดกรองการติดเชื้อ
ให้การปรึกษาก่อนตรวจเลือดเพื่อตรวจ ซิฟิลิส เอดส์ ไวรัสตับอักเสบบี
CBC,OF,MCV,DCIP ตรวจ ABO
การประเมินเพื่อการส่งต่อ
คะเนกำหนดคลอดจากวันแรกของประจำเดือนครั้งสุดท้าย
พิจารณาว่าต้องได้รับการดูแลพิเศษหรือส่งต่อ
ถ้าพบภาวะแทรกซ้อนหรือโรคแทรกซ้อนให้ดำเนินตามแนวทางปฏิบัติที่กำหนด
การจัดให้มีการดูแลรักษา
ให้ยาเสริมธาตุเหล็กและโฟเลต
ให้ยาบำรุงที่มีไอโอดีน
ฉีดวัคซีนป้องกันบาดทะยักเข็มแรก ถ้าไม่เคยฉีดมาก่อน
ให้การรักษาถ้าผลซิฟิลิซเป็นบวก
ให้คำแนะนำ ถามและตอบคำถาม การนัดตรวจครั้งต่อไป
การปรุงอาหารรับประทานเอง ใช้เกลือที่มีไอโอดีน
แนะนำเรื่องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่อย่างเดียว 6 เดือน
แนะนำเรื่อง Sex safe
แนะนำให้หยุดดื่มสุรา สูบบุหรี่
ให้สตรีตั้งครรภ์บันทุกวันที่สังเกตพบว่าเด็กดิ้น
แนะนำถึงภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นในช่วงนี้
นัดตรวจครั้งต่อไป 20 wk. และนัดมาเข้าโรงเรียนพ่อแม่ครั้งที่ 1
บันทึกลงในสมุดบันทึกสุขภาพ