Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Chronic Kidney Disease (ESRD : End Stage Renal Disease)…
Chronic Kidney Disease
(ESRD : End Stage Renal Disease)
ความหมาย
ภาวะที่มีความผิดปกติทางโครงสร้างหรือการทำหน้าที่ของไตอย่างใดอย่างหนึ่งติดต่อกันนานกว่า 3 เดือน เช่น การมีนิ่ว หรือถุงน้ำที่ไต การมีโปรตีน หรือเม็ดเลือดแดงในปัสสาวะ โดยที่อัตราการกรองของไตอาจปกติหรือผิดปกติก็ได้รวมถึงการตรวจพบอัตราการกรอง
ของไต (EGFR) ต่ำกว่า 60 มล./นาที/พี้นที่ผิวกาย 1.73 เมตร ติดต่อกันนานกว่า 3 เดือน
พยาธิสรีรวิทยา
เกิดจากการเสื่อมของไต และการถูกทำลายของหน่วยไต มีผลทำให้การกรองทั้งหมดลดลงและการขับถ่ายของเสียลดลง ปริมาณ Creatinine และ BUN ในเลือดสูงขึ้น หน่วยไตที่เหลืออยู่จะเจริญมากผิดปกติเพื่อกรองของเสียที่มีมากขึ้น ผลที่เกิดขึ้นคือทำให้ไตเสียความสามารถในการปรับความเข้มข้นของปัสสาวะ ปัสสาวะถูกขับออกไปต่อเนื่อง หน่วยไตไม่สามารถดูดกลับเกลือแร่ต่างๆ ทำให้สูญเสียเกลือแร่ออกจากร่างกาย เมื่ออัตราการกรองของไตน้อยกว่า 10-20 มล./นาที ส่งผลให้เกิดการคั่งของยูเรียในร่างกายเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้นเมื่อเข้าสู่ระยะดังกล่าวผู้ป่วยจึงควรได้รับการรักษาด้วยการบำบัดทดแทนไต
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยง
โรคไตเรื้อรังเกิดได้จากความผิดปกติใดก็ตาม ที่มีการทำลายเนื้อไต ทำให้มีการสูญเสียหน้าที่ของไตอย่างถาวร เช่น ไตอักเสบเรื้อรังจากการติดเชื้อ ภาวะอุดกั้นในทางเดินปัสสาวะ
โรคเบาหวาน รองลงมาคือโรคความดันโลหิตสูง
โรคหลอดเลือดฝอยในไตอักเสบเรื้อรัง (glomerrulonephritis)
ระยะของโรค
ระยะที่ 1 มีการทำลายไตเกิดขึ้นแต่อัตราการกรองยังอยู่ในเกณฑปกติ EGFR >90
ระยะที่ 2 มีการทำลายไตร่วมกับอัตราการกรองลดลงเล็กน้อย EGFR 60-89
ระยะที่ 3 มีการลดลงของอัตราการกรองของไตปานกลาง EGFR 30-59
ระยะที่ 4 มีการลดลงของอัตราการกรองของไตรุนแรง
EGFR 15-29
ระยะที่ 5 มีภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย (End Stage Renal Disease : ESRD) EGFR <15
อาการและอาการแสดง
การเปลี่ยนแปลงทางเมตาบอลิค (metabolic alteration)
BUN , Creatinine มีค่าสูงขึ้น
มีการคั่งค้างของยูเรีย ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้อาเจียน ท้องเดิน ซีด ยูเรียที่คั่งค้างมากจะซึมออกมาเป็น Uremic frost
โซเดียม ในระยะแรกๆผู้ป่วยมักมีโซเดียมในเลือดต่ำ เนื่องจากมีภาวะปัสสาวะออกมากอาเจียนหรือท้องเสีย
โปตัสเซียม ระดับโปตัสเซียมจะสูงได้ในผู้ป่วยที่มีอัตราการกรองของไตลดลงต่ำกว่า 10-15 มล./นาที มีอาการคือ หัวใจเต้นผิดจังหวะ ชีพจรช้า กล้ามเนื้อ อ่อนแรงโดยเฉพาะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ถ้ารุนแรงอาจมีอันตรายถึงชีวิต
แคลเซียมและฟอสเฟต เมื่ออัตราการกรองของไตลดต่ำลงกว่า 30-50 มล./นาทีจะทำให้มีการกรองฟอสเฟตออกจากไตลดลง มีอาการคือ อาการชา ชัก ความดันโลหิตต่่ำ หัวใจเต้นผิดปกติ
แมกนีเซียม ผู้ป่วยอาจมีภาวะแมกนีเซียมต่ำจากการไม่ได้รับสารอาหารเพียงพอ ผู้ป่วยจะมีอาการไม่รู้สึกตัว หยุดหายใจ หัวใจหยุดเต้น
การเปลี่ยนแปลงภาวะสมดุลกรด-ด่าง จากขบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกาย
การเปลี่ยนแปลงของปริมาณน้ำาในร่างกาย ผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายจะพบว่ามีอาการของการขาดน้ำ หรือภาวะน้ำเกิน
การเปลี่ยนแปลงของระบบหัวใจและหลอดเลือด ผู้ป่วยที่มีภาวะไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย จะมีความผิดปกติทางระบบหัวใจและ
หลอดเลือด ได้แก่ ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง หัวใจล้มเหลว เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ
การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินหายใจ ปัญหาในระบบทางเดินหายใจในผู้ป่วยไตวายเรื้อรังได้แก่ ภาวะน้ำท่วมปอด การติดเชื้อในปอด เยื่อหุ้มปอดอักเสบ และ น้ำในช่องเยื่อหุ้มปอด
การเปลี่ยนแปลงของระบบเลือด
ภาวะโลหิตจาง
มีการสร้างอีริโธปอยอิติน (erythropoietin) ลดลง ท าให้การผลิตเม็ดเลือดแดงน้อยลง
ภาวะเลือดออกง่าย เนื่องจากเกล็ดเลือดมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง ปริมาณเกล็ดเลือดน้อยลงจากภาวะยูรีเมีย ทำให้เลือดแข็งตัวช้า ส่งผลให้เลือดออกง่าย
การเปลี่ยนแปลงระบบทางเดินอาหาร
อาการ เบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ลิ้นมีรสเฝื่อน ท้องผูก มีการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดการอักเสบของกระเพาะอาหาร และมีแผลในลำไส้
8.การเปลี่ยนแปลงของระบบประสาท
ความผิดปกติในระบบประสาทส่วนกลาง ได้แก่ ไม่มีสมาธิ เฉื่อยชา พูดช้า หลงลืมง่าย ระดับความรู้สึกตัวผิดปกติ หงุดหงิดง่าย ซึมลง ชัก
และหมดสติ
ความผิดปกติในระบบประสาทส่วนปลาย และระบบประสาทอัตโนมัติ ได้แก่ ความผิดปกติของประสาทส่วนปลายมีอาการชา กล้ามเนื้ออ่อนแรง ตะคริว ต่อมเหงื่อทำงานลดลง
การเปลี่ยนแปลงของระบบผิวหนัง
ผิวสีเหลืองปนเทา ซีด
มีสารยูโรโครม (urochrome) และมีเกลือยูเรีย (uremic forst)
มีเล็บ และเส้นผมเปราะบางและฉีกขาดง่าย
การเปลี่ยนแปลงของระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ
การเปลี่ยนแปลงของระบบต่อมไร้ท่อ
มีการหลั่งฮอร์โมนพาราไทรอยด์มากขึ้น ทำให้ระดับแคลเซียมในเลือดต่ำส่งผลให้เกิดกระดูกผุ หรือกระดูกพรุน
การเปลี่ยนแปลงของดวงตา
ตาแดง ตามัว เกิดเนื่องจากมีแคลเซียมไปเกาะ
ที่เยื่อบุตา หรือที่กระจกตา เกิดการระคายเคือง
การทำงานของกล้ามเนื้อตาผิดปกติจากการเปลี่ยนแปลงของระบบ
ประสาท อาจพบความพิการของตาร่วมด้วย
การรักษา
การรักษาด้วยการบำบัดทดแทนไต (renal replacement therapy)
การปลูกถ่ายไต (kidney transplantation: KT) คือการนำไตใหม่มาปลูกถ่ายไว้ที่ผนังหน้าท้องของผู้ป่วย เพื่อทำหน้าที่แทนไตเก่าที่เสื่อมสภาพ
การล้างไตทางช่องท้อง (peritoneal dialysis : PD) คือการขจัดของเสียออกจากร่างกายโดยการใส่น้ำยาเข้าไปในช่องท้องทิ้งไว้ 4-6 ชั่วโมงต่อรอบ น้ำยาจะทำการกรองของเสียออกจากเลือดผ่านเยื่อบุช่องท้องก่อนปล่อยน้ำยาจากช่องท้อง
การฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม (hemodialysis) ขบวนการนำเลือดของผู้ป่วยเข้าสู่เครื่องไตเทียม โดยเลือดที่ออกจากผู้ป่วยจะผ่านตัวกรอง (hemodialyzer) เพื่อแลกเปลี่ยนน้ำสารต่างๆที่ละลายอยู่ในเลือดและน้ำยาด้วยกระบวนการออสโมสิส และอัลตร้าฟิลเตรชั่น ใช้เวลา 4-5 ชั่วโมงต่อรอบ ก่อนนำเลือดที่ได้รับการฟอกแล้วกลับเข้าสู่ร่างกาย
สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงของผู้ป่วย
ผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคเบาหวานตั้งแต่อายุ 7 ปี
ผู้ป่วยมีประวัติเป็นโรคความดันโลหิตสูง
ระยะของโรค
ผู้ป่วยอยู่ในระยะที่ 5 ไตวายเรื้อรังระยะสุดท้าย
(End stage renal Disease) ค่า EGFR 4.5
อาการและอาการแสดงของผู้ป่วย
การเปลี่ยนแปลงทางเมตาบอลิค (metabolic alteration)
BUN , Creatinine มีค่าสูงขึ้น
ผู้ป่วยมีอาการคลื่นไส้อาเจียน เยื่อบุตาซีด Capillary refill 2 วินาที
ผู้ป่วยมีระดับโซเดียมต่ำ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการวันที่ 27/02/2562 Electrolyte Na 134 mmol/L
ผู้ป่วยมีระดับโปตัสเซียมสูง ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการวันที่ 27/02/2562 Electrolyte K 6.2 mmol/L
การเปลี่ยนแปลงภาวะสมดุลกรด-ด่าง จากขบวนการเผาผลาญอาหารในร่างกาย
ผู้ป่วยมีภาวะไม่สมดุลกรด-ด่างในร่างกาย ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการวันที่ 26/02/2562 Electrolyte bicarbonate 19.5 mmol/L
การเปลี่ยนแปลงของระบบทางเดินหายใจ
ผู้ป่วยมีภาวะน้ำในช้องเยื่อหุ้มปอด (Pleural effusion)
การเปลี่ยนแปลงของระบบเลือด
ผู้ป่วยมีภาวะโลหิตจาง (anemia)
ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการ CBC วันที่ 22/02/2019 Hb 4.9 g/dl , Hct 15.4 %
ผู้ป่วยมีเยื่อบุตาซีด มีอาการอ่อนเพลีย
การเปลี่ยนแปลงระบบทางเดินอาหาร
ผู้ป่วยไม่สามารถรับประทานอาหารได้ On NG tube No.8 feed แล้วมีอาการคลื่นไส้อาเจียน
ผู้ป่วยมีอาการท้องผูก ได้รับ Lactulose 30 ml oral x 2 dose
8.การเปลี่ยนแปลงของระบบประสาท
ผู้ป่วยมีอาการเฉื่อยชา ซึมลง ระดับความรู้สึกตัวผิดปกติ
การเปลี่ยนแปลงของระบบผิวหนัง
ผู้ป่วยผิวสีดำคล้ำ เยื่อบุตาซีด
มีอารผมร่วงเป็นหย่อมๆ
การเปลี่ยนแปลงของดวงตา
ผู้ป่วยมีความพิการทางสายตา
การรักษา
การล้างไตทางช่องท้อง (peritoneal dialysis : PD) โดยผู้ป่วยทำการล้างวันละ 4 cycle