Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สรุปเนื้อหา หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง มงคลสูตรคำฉันท์, image, image,…
สรุปเนื้อหา หน่วยการเรียนรู้ที่ ๒ เรื่อง มงคลสูตรคำฉันท์
๑.ความเป็นมา
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในรัชกาลที่๖ ทรงนำคาถาภาษาบาลีจาก พระไตรปิฏกตั้ง แล้วแปลถอดความเป็นร้อยกรองภาษาไทย
ทรงนำมงคลสูตรมาทรงพระราชนิพนธ์ เป็นบทร้อยกรองประเภทคำฉันท์ โดยใช้คำประพันธ์ ๒ ชนิดคือกาพย์ฉบัง๑๖ และอินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑
๒.ผู้แต่ง
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวเป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ ๖ แห่งราชวงศ์จักรีตลอดระยะเวลา ๑๕ ปีที่ ทรงพระ
ปรีชาสามารถทั้งด้านการทหาร การปกครอง การต่างประเทศ โดยเฉพาะด้านอักษรศาสตร์
บทพระราชนิพนธ์หลายเรื่องที่ยังได้รับการยก
ย่องจากวรรณคดีสโมสรว่าเป็นยอดของวรรณคดี อาทิหัวใจนักรบ เป็นยอดของบทละครพูดร้อยแก้ว มัทนะพาธา เป็นยอดของบทละครคำพูดฉันท์
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวจึงได้รับการถวายพระราชสมญานามว่า“สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า”
๓.ลักษณะคำประพันธ์
กาพย์ฉบัง ๑๖
หนึ่งบทมี๑๖ คำ ๓ วรรค วรรคละ ๖ -๔ -๖ ค าตามล าดับ บังคับสัมผัสท้ายวรรคแรกกับวรรคที่สองสัมผัสระหว่าง
บทส่งจ ากท้ายวรรคแรก ไปยังท้ายวรรคแรกในบทต่อไป
อินทรวิเชียรฉันท์๑๑
หนึ่งบทมี๒ บาท บาทละ ๑๑ พยางค์แบ่งเป็น ๒ วรรค วรรคแรก ๕ พยางค์วรรคหลัง ๖ พยางค์ส่งสัมผัส
แบบกาพย์ •ลักษณะครุ-ลหุ เหมือนกันทุกบาท คือ ครุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุลหุ-ลหุ-ครุ-ลหุ-ครุ-ครุ
๖.ใจความสำคัญของมงคลสูตรค าฉันท์
คาถาบทที่ ๑
ไม่ควรคบคนชั่วเพราะจะพาให้เราประพฤติชั่วไปด้วย ควรคบคนดีมีความรู้เพราะจะน าเราไปสู่ความส าเร็จและควร
บูชาคนดี
คาถาบทที่ ๒
ควรปฏิบัติตนและอยู่ในที่ที่เหมาะที่ควรแห่งตน ทำบุญไว้แต่ปางก่อน
คาถาบทที่ ๓
รู้จักฟัง รู้จักพูด มีวินัย ใฝ่ศึกษาหาความรู้
คาถาบทที่ ๔
ดูแลบิดามารดา บุตร ภรรยาเป็นอย่างดี ทำงานด้วยความตั้งใจ
คาถาบทที่ ๕
รู้จักให้ทาน ช่วยเหลือญาติพี่น้อง ทำแต่ความดี มีสัมมาอาชีพ
คาถาบทที่ ๖
ไม่ประพฤติชั่ว ไม่ละเลยในการประพฤติ เว้นการดื่มน้ำเมา
คาถาบทที่ ๗
ให้ความเคารพผู้ควรเคารพ มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความพอใจในสิ่งที่ตนมี มีความกตัญญูรู้คุณ และรู้จัก
ฟัง ธรรมในโอกาสอันควร
คาถาบทที่ ๘
มีความอดทน ว่านอนสอนง่าย หาโอกาสพบผู้ดำรงคุณธรรมเพื่อสนทนาธรรม
คาถาบทที่ ๙
พยายามกำจัดกิเลส ประพฤติพรหมจรรย์ เข้าใจในความเป็นจริงของชีวิตเพื่อจิตสงบถึงซึ่งนิพพาน
คาถาบทที่ ๑๐
มีจิตอันสงบ รู้จักปล่อยวางไม่หวั่นไหวกับสิ่งที่มากระทบ
คาถาบทที่ ๑๑
เทวดาและมนุษย์ปฏิบัติสิ่งที่เป็นมงคลเหล่านี้แล้วจะไม่พ่ายแพ้ให้แก่ข้าศึกทั้งปวงมีแต่ความสุขความเจริญทุกเมื่อ
๔.จุดมุ่งหมายในการแต่ง
เพื่อให้ตระหนักว่าสิริมงคลจะเกิดแก่ผู้ใดก็เพียงผลมาจากการปฏิบัติของตนทั้งสิ้นไม่มีผู้ใดหรือสิ่งใดจะทำให้
เกิดสิริมงคลแก่เราได้นอกจากตัวเราเอง
๕.เรื่องย่อ
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสถึงมงคลสูงสุด ๓๘ ประการ ไว้ในมงคลสูตรซึ่งสำคัญบทหนึ่งใน
พระพุทธศาสนา มงคลสูตรปรากฏในพระไตรปิฏก
พระอานนทเถระได้กล่าวถึงที่มาของมงคลสูตรว่า ท่านได้ฟังมาเฉพาะพระพักตร์ของพระพุทธเจ้า ณ เชตะวันวิหาร กรุงสาวัตถี
มงคลสูตรนี้เกิดขึ้นด้วยอำนาจคำถาม คือ พระพุทธเจ้าทรงเล่าให้พระอานนท์ฟังว่า มีเทวดาเข้ามาทูลถามพระองค์เรื่องมงคล เพราะเกิดความโกลาหลวุ่นวายขึ้นทั้งในหมู่เทวดาและมนุษย์
พระพุทธองค์จึงตรัสตอบเรื่องมงคล ๓๘ ประการ ต่อจากราตรีนั้นพระพุทธองค์ได้ทรงแสดงเรื่องมงคลนี้แก่พระอานนท์อีกครั้งหนึ่ง
๘. แปลบทมงคลสูตร
๑.บทมงคลสูตร คือพระสูตรว่าด้วยมงคลแห่งชีวิต หากสวด เข้าใจและปฏิบัติตามแล้ว ชีวิตก็จะมีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา
๒.พะหู เทวา มะนุสสา จะมังคะลานิ อะจินตะยุง, เทวดาองค์หนึ่งได้กราบทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า, หมู่เทวดาและมนุษย์มากหลาย
มุ่งหมายความเจริญก้าวหน้า, ได้คิดถึงแต่เรื่องมงคลแล้ว,
๓.อากังขะมานา โสตถานังพรูหิ มังคะละมุตตะมังฯ
ขอพระองค์ทรงตรัสบอกทางมงคลอันสูงสุดเถิด, พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสตอบดังนี้ว่า
๔. เอตาทิสานิ กัตวานะ สัพพัตถะมะปะราชิตา สัพพัตถะ โสตถิง คัจฉันติ ตันเตสัง มังคะละมุตตะมันติ ฯเทวดาและมนุษย์ทั้งหลายได้กระท ามงคลเช่นมงคลเหล่านี้ให้มีในตนได้แล้ว จึงเป็นผู้ไม่พ่ายแพ้ในที่ทั้งปวง ย่อมถึงซึ่งความสวัสดี
ในทุกสถาน ข้อนั้นเป็นมงคลอันสูงสุด ของเทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เหล่านั้นโดยแท้
๗.คุณค่าที่ได้รับ
คุณค่าด้านเนื้อหา
มงคลสูตรคำฉันท์นอกจากจะมีการแปลถอดความมาจากพระคาถาแล้ว ยังมีการอธิบายขยายมงคลเพิ่มเติม
คุณค่าด้านวรรณศิลป์
การสรรคำ การเลือกสรรคำเป็นอย่างดี การเลือกใช้คำประพันธ์ การเลือกใช้กาพย์ฉบัง16และ อินทรวิเชียรฉันท์ 11 สามารถประพันธุ์ได้ตรงตามบังคับในฉันทลักษณ์โดยไม่เสียเนื้อความจากพระคาถาบาลี การแปล
ถอดความ การภาษาบาลีเป็นบทร้อยกรอง
คุณค่าด้านสังคม
สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ ได้ประโยชน์ทั้งแก่ตนเอง ครอบครัว สังคม และประเทศชาติ
๙ .บทอาขยาน
หนึ่งคือบ่คบพาล เพราะจะพาประพฤติผิด
หนึ่งคบกะบัณฑิต เพราะจะพาประสบผล
หนึ่งกราบและบูชา อภิบูชะนีย์ชน
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
ความอยู่ประเทศซึ่ง เหมาะและควรจะสุขี
อีกบุญญะการที่ ณ อดีตะมาดล
อีกหมั่นประพฤติควร ณ สภาวะแห่งตน
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
ความได้สดับมาก และกำหนดสุวาที
อีกศิลปะศาสตร์มี จะประกอบมนุญการ
อีกหนึ่งวินัยอัน นรเรียนและเชี่ยวชาญ
อีกคำเพราะบรรสาน ฤดิแห่งประชาชน
ทั้งสี่ประการล้วน จะประสิทธิ์มนุญผล
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี
บำรุงบิดามา- ตุระด้วยหทัยปรีย์
หากลูกและเมียมี ก็ถนอมประหนึ่งตน
การงานกระทำไป บ่มิยุ่งและสับสน
ข้อนี้แหละมงคล อดิเรกอุดมดี