Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
หน่วยที่ 9 การเตรียมตัวเพื่อการคลอด - Coggle Diagram
หน่วยที่ 9 การเตรียมตัวเพื่อการคลอด
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับ
ความเจ็บปวดจากการคลอด
1.ทฤษฎีควบคุมประตู
1.เอนเคปฟาลิน
2.เอนดอร์ฟิน
2.ทฤษฎีควบคุมความเจ็บปวดภายใน
1.การทำงานของใยประสาทขนาดใหญ่ และขนาดเล็ก
2.การส่งสัญญาณจากเลติคูลาร์ฟอร์มเมชั่นในก้านสมอง
3.การส่งสํญญาณจากเปลือกสมองและธาลามัส
ความเจ็บปวดในระยะคลอด
ระยะที่1 เกิดจากการเปลี่ยนแปลง 4ส่วน
1.การพร่องออกซิเจนของเซลล์กล้ามเนื้อมดลูกจากการหดรัดตัวของกล้ามเนื้อมดลูก
2.การยืดขยายของมดลูกส่วนล่าง
3.การบางและเปิดขยายของปากมดลูก
4.มีแรงกดดันบนอวัยวะใกล้เคียง ได้แก่ ช่องคลอด ท่อปัสสาวะ กระเพาะปัสสาวะ และเอ็นต่างๆถูกดึงรั้ง
ระยะที่ 2 การคลอดดำเนินต่อไป จะเกิดการยืดขยายของช่องทางคลอดและกล้ามเนื้อพื้นเชิงกรานจาการเคลื่อนต่ำของศีรษะทารก ความเจ็บปวดจะเพิ่มขึ้นจากระยะที่ 1 จะปวดบริเวณปากช่องคลอดและฝีเย็บ หากทารกอยู่ในท่า OPP ผู้คลอดจะปวดหลังมาก
ระยะที่ 3 เกิดจากการยืดขยายของปากมดลูกเพื่อให้รกผ่านออกมาและ
จากการหดรัดตัวของมดลูก
ปฏิกิริยาตอบสนองต่อความ
เจ็บปวดในระยะคลอด
4.ระดับเปลือกสมอง
4.1ทางจิต
4.2ทางสรีระ
3.ระดับเหนือไขสันหลัง
2.ระดับไขสันหลัง
1.ปฏิกิริยาเฉพาะที่
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเจ็บปวดในการคลอด
1.ทางสรีระ
1.1ผู้มีประวัติปวดประจำเดือนจะปวดเพิ่มขึ้น
1.2 ผู้คลอกครรภ์แรกจะมีความเจ็บปวดมากกว่าผู้คลอดครรภ์หลังเนื่องจากมีการหดรัดตัวของมดลูกมากกว่า
1.3ท่าของผู้คลอด ท่ายืนและนั่ง
จะบรรเทาปวดหลังส่วนล่างได้ดี คลอดท่าศีรษะสูงจะคลอดได้เร็ว
1.4 ระดับของฮอร์โมนเอนโดฟิน จะเพิ่มสูงขึ้นระยะตั้งครรภ์ สูงสุดในระยะคลอด ผู้มีความวิตกกังวลสูง ระดับฮอร์โมนนี้
จะลดลง จึงเจ็บปวดมาก
1.5 อายุ น้อยกว่า 18 ปี จะทนต่อความเจ็บปวดได้น้อย
1.6 จำนวนครั้งของการตั้งครรภ์และการคลอด
1.7 ความเหนื่อยล้า
1 more item...
2.ปัจจัยด้านจิต
2.1 ความกลัวและความวิตกกังวล
2.2ประสบการณ์เกี่ยวกับความเจ็บปวดในอดีต
2.3 การเตรียมตัวเพื่อการคลอด
2.4บุคลิกภาพ
2.5ทัศนคติเกี่ยวกับความเจ็บปวด
2.6ความเชื่อมั่นและความมีคุณค่าในตนเอง
3.ปัจจัยด้านสังคมและวัฒนธรรม
ผู้ที่มาจากวัฒนธรรมที่มีความเชื่อว่าต้องยอมรับความเจ็บปวดในการคลอด จะไม่แสดงอาการเจ็บปวดออกมา
4.ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม
การประเมินความเจ็บปวด
ในการคลอด
1.การประเมินจากการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยา
เช่น HR,BP,RR เพิ่มขึ้น
2.การประเมินโดยใช้เครื่องมือประเมินความเจ็บปวด
2.1 มาตรวัดความเจ็บปวดด้วยแบบสอบถาม
2.2 มาตรวัดความเจ็บปวดด้วยสายตา
2.3 มาตรวัดความเจ็บปวดด้วยวาจา
2.4มาตรวัดความเจ็บปวดตัวเลข
2.5 มาตรวัดความเจ็บปวดโดยการประเมินจากการแสดงออกของใบหน้า
2.6 มาตรวัดความเจ็บปวดชนิดที่ประเมินจากตัวเลขและการแสดงออกของใบหน้า
3.ประเมินจากพฤติกรรมที่แสดงออก
การจัดการความเจ็บปวดในระยะคลอด
การคลอดที่ให้สามีเป็นโค้ช
การให้ความรู้สึกที่ถูกต้องเกี่ยวกับกระบวนการคลอด
กลวิธีป้องกันทางจิต
การเพ่งจุดสนใจ
การควบคุมตนเอง
การกำหนดเงื่อนไข
การให้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะบริเวณ
การใช้ยาระงับปวด pethidine
การระงับปวดโดยไม่ใช้ยา
การให้ยาระงับความรู้สึกเฉพาะที่
การให้ยาระงับความรู้สึกแบบทั่วไป
การชักนำการคลอด
มักใช้ในผู้ที่ครบกำหนดคลอดแต่ไม่คลอด อายุครรภ์มากกว่า 28 สัปดาห์ หรือทารกมีน้ำหนักไม่น้อยกว่า 1000 กรัม
ข้อบ่งชี้ด้านผู้คลอด
ครรภ์เป็นพิษรุนแรง
ถุงน้ำคร่ำแตกหรือรั่วก่อนอายุครรภ์ครบกำหนด
ติดเชื้อในน้ำคร่ำ
ตั้งครรภ์ที่มีน้ำคร่ำน้อย
ความดันโลหิตสูงขณะตั้งครรภ์
รกลอกตัวก่อนกำหนด
ข้อบ่งชี้ด้านทารก
ทารกมีภาวะโตช้า
ตั้งครรภ์เกินกำหนด
มีความพิการก่อนกำเนิด
ทารกในครรภ์เป็น thalassemia ชนิดรุนแรงที่ไม่สามารถมีชีวิตรอดหลังคลอดได้
ทารกเสียชีวิตในครรภ์
ข้อห้ามชักนำการเจ็บครรภ์คลอด
ผู้คลอดมีภาวะแทรกซ้อนที่ไม่สามารถคลอดเองได้ เช่น CPD รกเกาะต่ำ สายสะดือย้อย
ทารกอยู่ในท่าผิดปกติ
ผู้คลอดมีประวัติเคยผ่าตัดคลอดบุตรชนิด classical cesarean section
วิธีชักนำให้เกิดการ
เจ็บครรภ์คลอด
1.ใช้เครื่องมือ เป็นวิธีที่ไม่นิยม เนื่องจากไม่ทำให้มดลูดหดรัดตัว
2.1การเซาะแยกถุงน้ำคร่ำ นิยมใช้ ทำได้ง่าย และช่วยกระตุ้นให้มดลูกหดรัดตัวได้
2.2 การเจาะถุงน้ำคร่ำ
3.1การใช้ยา Oxytocin ทางหลอดเลือดดำ เหมาะสำหรับผู้คลอดที่ปากมดลูกพร้อมแล้วแต่มดลูกไม่หดรัดตัว
3.2การใช้ prostaglandins ทำให้ปากมดลูกคลายตัว ขยายได้ง่าย