Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
Case study PP เตียง 16 มภร.15/2 นศพต.ชลฐิญาภรณ์ การินทร์ - Coggle…
Case study
PP
เตียง 16
มภร.15/2
นศพต.ชลฐิญาภรณ์ การินทร์
คำแนะนำหลังกลับบ้าน 🏠
1.รับประทานอาหารให้มากขึ้น ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารประเภทโปรตีน (เนื้อ นม ไข่) เพื่อช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอในร่างกาย อาหารที่ช่วยในการสร้างน้ำนม เช่น ขิง หัวปลี ผักใบเขียว
ผลไม้ เช่น มะละกอ ชมพู่ มี vit c ช่วยดูดซึมธาตุเหล็กดี
2.หลีกเลี่ยงอาหารรสจัด อาหารสุกๆ ดิบๆ ของหมักดอง ชา กาแฟ แอลกอฮอล์ จะส่งผลต่อลูกที่ได้รับนม ทำให้ท้องเสียหรืออาจเกิดภาวะลำไส้อักเสบ
3.ดื่มน้ำวันละ 2.5-3 ลิตร เพราะน้ำเป็นเป็นส่วนประกอบของน้ำนม
4.พักผ่อนให้เพียงพอ วันละ 8-10 ชั่วโมง ถ้านอนน้อย น้ำนมจะไม่ไหล
5.ทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธ์ทุกครั้งหลังปัสสาวะหรืออุจจาระ ซับให้แห้งจากหน้าไปหลัง ไม่ย้อนกลับ
6.งดมีเพศสัมพันธ์ เพราะปากมดลูกยังปิดไม่สนิท เสี่ยงต่อการติดเชื้อและช่องคลอดแห้ง อาจจะเจ็บได้ มดเข้าอู่แล้วค่อยมีเพศสัมพันธ์ได้
7.ไม่ยกของหนักหรือขึ้นลงบันไดบ่อยๆ เพราะจะทำให้มดลูกหย่อนได้
8.ให้คลึงมดลูกแล้วคลำมดลูก ควรลด 0.5-1 นิ้ว/วัน จะลดต่ำประมาณ 10-14 วัน ถ้ายังคลำได้ให้มารพ.
9.การออกกำลังกาย ให้ออกกำลังกายเบาๆด้วยการทำงานบ้าน ไม่ยกของหนักถ้ามดลูกยังไม่เข้าอู่อาจทำให้มดลูกหย่อนได้
10.บริหารร่างกายหลังคลอดด้วย Kegel's exercise ขมิบบริเวณช่องคลอดหรือทวารหนัก 200 -300 ครั้ง ช่วยบริหารกล้ามเนื้อช่องคลอด
11.ให้มาตรวจหลังคลอด 6 สัปดาห์ เพื่อประความผิดปกติหลังคลอดและดูการคุมกำเนิด
12.อาการผิดปกติที่มาพบแพทย์
มีไข้ไม่ทราบสาเหตุ
ปัสสาวะแสบขัด
แผลฝีเย็บแยก
น้ำคาวปลามีสี กลิ่น ผิดปกติ
เต้านมคัดตึง บวมแดง
คลำพบก้อน สีน้ำนมคล้ายหนอง
คลื่นไส้ อาเจียน จุแน่นลิ้นปี้
การคุมกำเนิด💊
มารดาให้นมบุตร ควรคุมกำเนิดโดยวิธีการคุมกำเนิดแบบไม่มีฮอร์โมนหรือคุมกำเนิดแบบที่มีฮอร์โมนเดี่ยว เนื่องจาก Estrogen ทำให้ปริมาณน้ำนมลดลงได้
การคุมกำเนิดแบบไม่มีฮอร์โมน
ถุงยางอนามัย เป็นวิธีคุมกำเนิดที่สามารถหาซื้อได้ง่ายและช่วยป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
ห่วงกำเนิดที่มีทองแดง เป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง คุมกำเนิดได้ 3-5 ปี ขึ้นอยู่กับชนิดของห่วง
การทำหมัน เป็นการคุมกำเนิดถาวร
การคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมน
ควรเป็นชนิดที่มีฮอร์โมน Progesterone ชนิดเดียว สามารถเริ่มใช้ได้ตั้งแต่ 6สัปดาห์หลังคลอด
ยาฉีดคุมกำเนิด สามารถเริ่มใช้ได้ 6 สัปดาห์หลังหรือ 7 วันหลังมีประจำเดือน
ยาฝังคุมกำเนิด มีประสิทธิภาพคุมกำเนิดสูง สามารถคุมกำเนิดได้นาน 3-5 ปี
ยาเม็ดคุมกำเนิดที่มีฮอร์โมน Progesterone ชนิดเดียว เป็นยาที่สามารถหาซื้อได้ง่าย การกินยาชนิดนี้ควรกินให้ตรงเวลาอย่างสม่ำเสมอ
การคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
ควรเริ่มใช้หลังคลอดบุตร 6 เดือนขึ้นไป เนื่องจาก Estrogen ทำให้ปริมาณน้ำนมลดลงได้
ยาเม็ดคุมกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
ยาฉีดกำเนิดชนิดฮอร์โมนรวม
แผ่นแปะคุมกำเนิด
วงแหวนคุมกำเนิด
พยาธิสภาพของหญิงหลังคลอดที่เปลี่ยนแปลงไป 🤱🏻
มดลูก 🤱🏻
ลดขนาดลงวันละ 0.5-1 นิ้ว
โดยภายหลังคลอดทันทีมดลูกจะอยู่ระหว่างสะดือกับหัวเหน่าและมีน้ำหนักประมาณ 1,000 กรัม
1 ชั่วโมงหลังคลอด มดลูกลอยตัวขึ้นมาอยู่ระดับสะดือ
7 วันหลังคลอด มดลูกอยู่ระหว่างหัสเหน่ากับสะดือประมาณ 3 นิ้ว
2 สัปดาห์หลังคลอด มดลูกอยู่ระดับหัวเหน่าหรือคลำไม่พบทางหน้าท้อง
6 สัปดาห์หลังคลอดมดลูกมีขนาดเท่ากับก่อนตั้งครรภ์คือประมาณ 50 กรัม ขนาด 3x2x1 เซนติเมตร
ปากมดลูก🤱🏻
หลังคลอด ปากมดลูกอ่อนนุ่ม มีรอยซำ้และรอยฉีกขาดเล็กๆ
1 สัปดาห์ เริ่มกลับสู่สภาพเดิมเกือบสมบูรณ์
6 สัปดาห์ เป็นรูปยาวรีไม่กลมเหมือนก่อนตั้งครรภ์
ช่องคลอดและพื้นเชิงกราน 🤱🏻
หลังคลอดเยื่อบุของช่องคลอดบางลง รอยย่นลดลงและยืดขยายได้มากขึ้น
หลังจากสัปดาห์ที่ 3 รอยย่นจะค่อยๆเพิ่มมากขึ้น ช่องคลอดจะค่อยๆกลับคืนสภาพเดิมแต่ไม่สมบูรณ์เท่าก่อนตั้งครรภ์และกล้ามเนื้อบริเวณพื้นเชิงกรานจะมีความตึงตัวดีขึ้นประมาณ 4-6สัปดาห์
ฝีเย็บ 🤱🏻
หลังคลอดจะมีอาการปวดบริเวณฝีเย็บ จะมีลักษณะบวม อาจมีเลือดออกใน้บริเวณ Labia minora และ Labia majera เหี่ยวและอ่อนนุ่มมากขึ้น โดยจะหายเป็นปกติ 5-7 วัน
น้ำคาวปลา 🤱🏻
แบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ
Lochia rubra 2-3 วันแรกหลังคลอด ลักษณะสีแดงคล้ำ
Lochia serosa 4-9 วันหลังคลอด ลักษณะสีแดงขมพูจางๆ
Lochia alba 10วันหลังคลอด ลักษณะสีเหลืองจางๆหรือสีขาว ปริมาณจะค่อยๆน้อยลงจนถึงไม่มี
เต้านม 🤱🏻
Estrogen, Progesterone ลดลง
Anterior pituitary gland หลั่ง prolactin ผลิตน้ำนม
Posterior pituitary gland หลั่ง oxytocin หลั่งน้ำนมและทำให้มดลูกหดรัดตัว
น้ำนม 🤱🏻
Colostrum สร้างขึ้นช่วง 1-3 วันแรกหลังคลอด มีภูมิคุ้มกัน มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของลำไส้ และมีปริมาณแร่ธาตุต่างๆสูง
Transitional milk สร้างขึ้น 4-14 วันแรกหลังคลอด น้ำนมมีลักษณะขาวขึ้น ประกอบด้วยไขมัน แลคโตส และวิตามินที่ละลายน้ำได้ มีปริมาณแคลอรี่มากกว่า colostrum
Muture milk ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 2 หลังคลอดเป็นต้นไป น้ำนมจะเปลี่ยนเป็นสีขาว มีโปรตีนยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรค เพิ่มภูมิต้านทาน มีกรดไขมันจำเป็น
การมีประจำเดือน 🤱🏻
หลังคลอดจะไม่มีประจำเดือน จากการที่ระหว่างตั้งครรภ์ รังไข่หยุดทำงานและการเพิ่มขึ้นของ Estrogen และ Progesterone
มารดาที่ไม่ได้เลี้ยงบุตรด้วยนมตนเอง จะเริ่มมีประจำเดือน 6-8 สัปดาห์หลังคลอด
มารดาที่เลี้ยงบุตรด้วยนมตนเองนาน 3 เดือน จะเริ่มมีประจำเดือน 7-9 เดือนหลังคลอด
ผิวหนังและอุณภูมิ 🤱🏻
รอยดำ Linea nigra จะหายไปใน 6 สัปดาห์หลังคลอด ส่วน Striae garvidarum จะไม่หายไป แต่สีจะจางลงและอาการผิดปกติของหลอดเลือด เช่น อาการร้อนแดงที่ฝ่ามือจะลดลง จาก Estrogen ลดลง
อุณหภูมิ 24 ชั่วโมงแรก อาจสูงได้ แต่ไม่เกิน 38 องศาเซลเซียส จากการขาดน้ำและการเสียพลังงาน
ทางเดินอาหาร 🤱🏻
มีโอกาสท้องผูก จากกล้ามเนื้อหน้าท้องหย่อนตัว การเคลื่อนไหวของลำไส้ช้าลงและสูญเสียแรงดันภายในช่องท้อง
ปัสสาวะ 🤱🏻
ส่วนนำของทารกจะไปกดทับบริเวณกระเพาะปัสสาวะในระหว่างการทำคลอด ทำให้ผนังใค้เยื่อบุกระเพาะปัสสาวะบวม มีความยืดหยุ่นลดน้อยลง ทำให้เกิดการโป่งของกระเพาะปัสสาวะ เมื่อปัสสาวะจะถ่ายออกไม่หมด
สภาพจิตใจ 🤱🏻
ระยะที่ 1 Taking in phase 1-3 วันหลังคลอด ร่างกายอ่อนล้าไม่สุขสบาย สนใจแต่ตนเอง มีความต้องการพึ่งพาผู้อื่น
ระยะที่ 2 Taking hold phase 3-10 วันหลังคลอด มารดาช่วยเหลือตัวเองมากขึ้น เริ่มสนใจลูกและผู้คนรอบข้าง
ระยะที่ 3 Letting go phase 10 วันหลังคลอด มารดาปรับตัวเข้าสู่บทบาทใหม่และแสดงบทบาทได้ดี
13 B 🙋🏻♀️
1.Background
• G1P0 GA 39+5wks. คลอด Normal labor ทารก 3,610 กรัม
• ไม่มีประวัติผ่าตัด
• ปฏิเสธประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว
• ปฏิเสธการแพ้ยา แพ้อาหาร การสูบบุหรี่และดื่มสุรา
Body condition
• Day 0: ไม่มีซีด อ่อนเพลียเล็กน้อย พยาบาลช่วยเหลือกิจกรรมบางส่วน
• Day 1: ไม่มีซีด สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ไปปัสสาวะและอุจจาระได้เอง
• Day 2: ไม่มีซีด บริเวณขาทั้งสองข้างบวม สามารถช่วยเหลือตนเองได้ ไปปัสสาวะและอุจจาระได้เอง
3.Body temperature & blood presure
วันที่ 14/12/2563 (10.00น.)
T= 36.8
BP= 125/90
PR= 110
RR= 18
Ps= 2 (มดลูก), 2(แผลฝีเย็บ)
วันที่ 15/12/2563 (10.00น.)
T= 36.5
BP= 122/81
PR= 96
RR= 18
Ps= 0 (มดลูก), 0 (แผลฝีเย็บ)
วันที่ 16/12/2563
T= 36.7
BP= 120/80
PR= 98
RR= 18
Ps= 0 (มดลูก), 0 (แผลฝีเย็บ)
4.Breast & Lactation
หัวนมไม่สั้น ไม่บอด ลานนมนุ่ม เต้านมคัดตึงเล็กน้อย น้ำนมเริ่มไหล 1+ เป็นน้ำนมชนิด colostrum
5.Belly & Fundus
• หน้าท้องมี striae garvidarum สีเงินและ linea ligra เริ่มจางลง
ระดับยอดมดลูก
(14/12/2563) 4 นิ้ว เหนือกระดูกหัวเหน่า มดลูกหดรัดตัวดี มดลูกกลมแข็ง
(15/12/2563) 3.5 นิ้ว เหนือกระดูกหัวเหน่า มดลูกหดรัดตัวดี มดลูกกลมแข็ง
(16/12/2563) 3.5 นิ้ว เหนือกระดูกหัวเหน่า มดลูกหดรัดตัวดี มดลูกกลมแข็ง
6.Bladder
ไม่มี full bladder มารดาสามารถ void ได้เอง
7.Bleeding & Lochia
Day 0: Bleeding per vagina 100 ml น้ำคาวปลาสีแดงเข้ม ไม่มีกลิ่น
Day 1: Bleeding per vagina 30 ml น้ำคาวปลาสีแดงจางๆ ไม่มีกลิ่น
Day 2: Bleeding per vagina 20 ml น้ำคาวปลาสีแดงชมพูจางๆ ไม่มีกลิ่น
8.Bottom
ตัดฝีเย็บแบบ Right mediolateral
episiotomy tear ระดับ 2
ประเมินแผลฝีเย็บตามแบบ REEDA
ไม่แดง ไม่บวม ไม่มี hematoma ไม่มี discharge ซึม
แผลแห้งสนิทติดกันดี
9.Bowel movement
Day 0: ยังไม่ถ่ายอุจจาระ ไม่มีท้องอืด
Day 1: ยังไม่ถ่ายอุจจาระ ไม่มีท้องอืด
Day 2: ถ่ายอุจจาระ 1 ครั้ง สีเหลือง
10.Blue
Day 0: มารดาอ่อนเพลีย ไม่ค่อยสนใจรอบข้างและสิ่งแวดล้อม. พึ่งพาผู้อื่น
Day 1: มารดาสนใจบุตรมากขึ้น สีหน้าสดชื่น
Day 2: มารดามีสีหน้าไม่สดชื่น กังวลเกี่ยวกับน้ำนมไหลน้อย
11.Baby
ทารกไม่มีแผลบริเวณศีรษะและใบหน้า หายใจปกติ ไม่มี retraction มีผิวแดงดี on photo (16/12/2563) ไม่มีซีด ร้องเสียงดังดี สะดือสด ไม่มี discharge อัณฑะลงถุงทั้ง 2 ข้าง ปลายเปิดรูปัสสาวะปกติ ทวารหนักปกติ
12.Bonding
มารดามีความสนใจในการให้นมบุตร
13.Belief
มารดารับประทานอาหารครบ 5 หมู่ เลี้ยงบุตรด้วยน้ำนม
และอยู่ไฟหลังคลอด
ข้อวินิจฉัยทางการพยาบาล 📋
1.เสี่ยงต่อภาวะตกเลือดหลังคลอด
(Day 0)
ข้อมูลสนับสนุน
หลังคลอดที่ LR มี blood loss 250 ml
มีแผลในโพรงมดลูก
มีอาการอ่อนเพลีย
วัตถุประสงค์
เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดภาวะตกเลือดหลังคลอด
เกณฑ์การประเมิน
v/s อยู่เกณฑ์ปกติ
T = 36.5-37.4 องศาเซลเซียส
BP = 90-120/60-80 mmHg
PR = 60-100 bpm
RR = 14-22 bpm
PS = 0
มดลูกหดรัดตัวดี คลำได้เป็นก้อนกลมแข็ง
ไม่มี full bladder
ปริมาณเลือดที่ออกทางช่องคลอดไม่เกิน 500 ml ใน 24 ชั่วโมง
แผลฝีเย็บไม่บวมแดง ไม่ช้ำ ไม่มี hematoma ไม่มี discharge ซึม แผลแห้งสนิทติดกันดี
ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากการเสียเลือด เช่น กระสับกระส่าย ใจสั่น ตัวเย็น หน้ามืด ซีด อ่อนเพลีย
กิจกรรมการพยาบาล
วัดสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะความดันโลหิต ถ้าพบว่าสัญญาณชีพผิดปกติ เช่น ชีพจรเบาเร็ว หายใจเร็วขึ้น ควรรายงานแพทย์
สังเกตและตรวจการหดรัดตัวของมดลูก โดยคลึงหน้าท้องบริเวณยอดมดลูกทุก 2-3 ชั่วโมง คลึงให้กลมแข็ง เพื่อกระตุ้นการหดรัดตัวของมดลูก
ประเมินลักษณะและปริมาณเลือด bleeding per vagina ทุก 2-4 ชั่วโมง ในระยะ 24 ชั่วโมงแรก ต้องไม่เกิน 500 ml.
ประเมินลักษณะ สี กลิ่น และปริมาณเลือดที่ออกจากช่องคลอดและแผลฝีเย็บ
ประเมินแผลฝีเย็บตามหลัก REEDA
ประเมินอาการผิดปกติที่อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการเสียเลือด เช่น กระสับกระส่าย ใจสั่น ตัวเย็น หน้ามืด ซีด อ่อนเพลีย
กระตุ้นให้มารดาปัสสาวะได้เอง เพื่อป้องกัน full bladder ที่ขัดขวางการหดรัดตัวของมดลูก
ดูแลให้เปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 2-3 ชั่วโมงหรือรู้สึกชุ่ม
ดูแลให้ได้รับ bed rest ลดการใช้พลังงาน
การประเมินผล
v/s ปกติ
T = 36.8 องศาเซลเซียส
BP = 125/90 mmHg
PR = 18 bpm
PP = 110 bpm
PS = 2 (มดลูก), 2 (แผลฝีเย็บ)
มดลูกหดรัดตัวดี คลำได้ก้อนกลมแข็ง ระดับยอดมดลูก 4 นิ้ว
bleeding per vagina 30 ml
ไม่มี full bladder
แผลฝีเย็บไม่บวมแดง ไม่ช้ำ ไม่มี hematoma ไม่มี discharge ซึม แผลแห้งสนิทติดกันดี
ไม่มีภาวะแทรกซ้อนจากการเสียเลือด เช่น กระสับกระส่าย ใจสั่น ตัวเย็น หน้ามืด ซีด อ่อนเพลีย
2.ผู้ป่วยมีภาวะไม่สุขสบายจากการปวดแผลฝีเย็บและแผลที่โพรงมดลูก (Day 0)
ข้อมูลสนันสนุน
ผู้ป่วยบอกว่า "ปวดแผลฝีเย็บและมดลูกเล็กน้อย"
ผู้ป่วยมีสีหน้าแสดงความเจ็บปวดเล็กน้อยขณะลุก
PS = 2 (มดลูก), 2 (แผลฝีเย็บ)
วัตถุประสงค์
ผู้ป่วยปวดมดลูกและแผลฝีเย็บลดลง
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินความเจ็บปวดของมารดาหลังคลอดเกี่ยวกับลักษณะความรุนแรงของความเจ็บปวดเพื่อให้การ ช่วยเหลืออย่างถูกต้อง
แนะนำท่านอนในท่าที่สบายบรรเทาความเจ็บปวด เช่นแนะนาให้นอนตะแคงด้านนตรงข้ามกับมีแผลฝีเย็บ ให้ขมิบก้นก่อนนั่ง เพื่อป้องกันการบาดเจ็บโดยตรงที่แผลฝีเย็บ
แนะนำการเคลื่อนไหวอย่างช้า ๆ เพื่อลดการกระทบกระเทือนแผลฝีเย็บ
สอนเทคนิคการผ่อนคลายความเจ็บปวดโดยการบริหารการหายใจเป็นจังหวะการเปลี่ยนท่านนอนให้รู้สึกสบายขึ้น
ดูแลให้ได้รับยาแก้ปวด Paracetamal 500 mg 1 เม็ด เมื่อมีอาการปวด ตามแผนการรักษาของแพทย์
เกณฑ์การประเมิน
Pain score = 0
ผู้ป่วยมีสีหน้าสดชื่น สามารถลุกนั่งและเดินได้สะดวกมากขึ้น
การประเมินผล
ผู้ป่วยมีสีหน้าสดชื่นแจ่มใส ไม่บ่นปวดมดลูกและแผลฝีเย็บ PS = 0 (มดลูก), 0 (แผลฝีเย็บ)
3.เสี่ยงต่อการติดเชื้อหลังคลอด
(Day 1-2 )
ข้อมูลสนับสนุน
ผู้ป่วยมีแผลในโพรงมดและแผลฝีเย็บ
ผู้ป่วยได้รับการตัดฝีเย็บแบบ Right mediolateral episiotomy tear ระดับ 2
วัตถุประสงค์
ป้องกันการติดเชื้อที่โพรงมดลูกและแผลฝีเย็บ
เกณฑ์การประเมิน
v/s อยู่เกณฑ์ปกติ
T = 36.5-37.4 องศาเซลเซียส
BP = 90-120/60-80 mmHg
PR = 60-100 bpm
RR 14-22 bpm
แผลฝีเย็บไม่บวมแดง ไม่ช้ำ ไม่มี hematoma ไม่มี discharge ซึม แผลแห้งสนิทติดกันดี
น้ำคาวปลาไม่มีลักษณะ สีและกลิ่นผิดปกติ
กิจกรรมการพยาบาล
-ล้างมือและใส่หน้ากากอนามัยก่อนเข้าทำหัตถการต่าง ๆกับมารดา เพื่อป้องกันการนำเชื้อโรคไปให้ผู้ป่วย
วัดและบันทึกสัญญาณชีพทุก 4 ชั่วโมง โดยเฉพาะอุณหภูมิร่างกายให้อยู่ระหว่าง 36.5-37.4°C เพื่อสังเกตอาการติดเชื้อ
ประเมินแผลฝีเย็บตามหลัก REEDA
ประเมินลักษณะ สี กลิ่น ของน้ำคาวปลา
แนะนำให้มารดาเปลี่ยนอนามัยทุก 2-3 ชั่วโมงหรือรู้สึกชุ่ม เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
แนะนำการทำความสะอาดอวัยวะสืบพันธุ์ โดยทำความสะอาดทุกครั้งหลังปัสสาวะหรืออุจจาระ จากหน้าไปหลัง ไม่เช็ดย้อนกลับ
แนะนำให้มารดารับประทานอาหารที่มีโปรตีนและวิตามินซี เช่น เนื้อ นม ไข่ ผักใบเขียว เพื่อช่วยซ่อมแซมร่างกายส่วนที่สึกหรอและช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น
การประเมินผล
V/S ปกติ
T = 36.5 องศาเซลเซียส
BP = 122/81 mmHg
PP = 96 bpm
PR = 18bpm
แผลฝีเย็บไม่บวมแดง ไม่ช้ำ ไม่มี hematoma ไม่มี discharge ซึม แผลแห้งสนิทติดกันดี
น้ำคาวปลามีสีแดงชมพูจางๆ ไม่มีกลิ่นเหม็น
4.ผู้ป่วยขาดความรู้ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
ข้อมูลสนับสนุน
ผู้ป่วยบอกว่า "น้ำนมไหลไม่เยอะ กลัวไม่พอให้ลูกกิน"
คลอดบุตรคนแรก
เข้าเต้าไม่ถูกวิธี ทารกอมไม่ถึงลานนม
วัตถุประสงค์
มารดาสามารถให้นมลูกอย่างถูกวิธี
เกณฑ์การประเมิน
ผู้ป่วยสามารถตอบคำถามความรู้ที่แนะนำไปและสาธิตย้อนกลับได้ถูกต้อง
กิจกรรมการพยาบาล
ประเมินความรู้และทักษะของมารดาต่อการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
แนะนำวิธีการให้ลูกดูดนมแม่อย่างถูกต้องและเหมาะสม ต้องให้ลูกดูดลึกถึงลานนมและไม่ดึงหัวนมออกจากปากของลูก เพราะอาจทำให้หัวนมแตกได้
แนะนำท่าให้นมลูกที่ผู้ป่วยสามารถทำได้
แนะนำให้มารดารับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เน้นอาหารประเภทโปรตีน เช่น เนื้อ นม ไข่ ถั่ว และอาหารที่กระตุ้นการสร้างน้ำนม เช่น น้ำขิง หัวปลี และดื่มน้ำวันละ 7-8 แก้ว
แนะนำให้มารดานอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน่อย 8-10 ชั่วโมง
เปิดโอกาสให้มารดาได้ซักถามข้อสงสัยต่างๆ ให้ความสนใจพร้อมที่จะตอบคำถามด้วยความเต็มใจ
ให้กำลังใจเพื่อสร้างความมั่นใจในการให้นมลูก
การประเมินผล
มารดาสามารถตอบคำถามได้ มีความรู้ในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ สาธิตย้อนกลับการอุ้มลูกเข้าเต้า และลูกยังไม่สามารถอมลึกถึงลานนม
ข้อมูลส่วนตัว
หญิงไทยหลังคลอด อายุ 26 ปี G1P0
คลอด Normal labor GA 39+5 wks. by date
ทารกเพศชาย น้ำหนัก 3,610 กรัม
รับใหม่ PP วันที่ 13 ธันวาคม 2563
รับไว้ในความดูแล วันที่ 14 ธันวาคม 2563
Term Pregnancy
Active phase ใช้เวลา 5 ชั่วโมง
Fully dilate เวลา 16.00 น.
คลอด เวลา 16.49 น.
Blood loss ที่ LR 200 ml.
อาชีพ พนักงานบัญชี
รายได้เฉลี่ย 18,000 บาท
ไม่มีปัญหาเรื่องการเงินและปัญหาเศรษฐกิจ
ANC ที่โรงพยาบาลตำรวจ 9 ครั้ง
เจ็บครรภ์ เวลา 05.00 น. มีน้ำเดินและลูกดิ้น จึงมารพ.