Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ยุคของภาษาคอมพิวเตอร์🎞💻🖥 - Coggle Diagram
ยุคของภาษาคอมพิวเตอร์🎞💻🖥
ยุคที่1(Firsy Generation Language)🥇
สั่งงานคอมพิวเตอร์ด้วย ภาษาเครื่อง เป็นภาษาที่สื่อสารกับคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง
เป็นสัญลักษณ์แทนสัญญาณไฟฟ้า
คำสั่งในภาษาเครื่องประกอบด้วยเลขฐานสองมี0กับ1
เนื่องจากเป็นรูปแบบภาษาที่สื่อสาร
กับคอมพิวเตอร์ได้โดยตรง ไม่ต้องมีตัวแปลภาษา
จะมีความยุ่งยากในการเขียนเป็นอย่างยิ่งยุคนี้จัดอยู่ในกลุ่มภาษาระดับต่ำ
ยุคที่2(Secone Generation Language)🎎
พัฒนามาจากยุคที่1โดยน่าสัญลักษณ์มาใช้
แทนรูปแบบตัวเลขในภาษาเครื่อง
ได้มีผู้พัฒนาให้มีการใช้สัญลักษณ์แทนตัวเลขฐานสอง เรียกว่า "ภาษาสัญลักษณ์ (Symbol Language)" คือ ภาษาอังกฤษ
นิวมอนิกโค้ด (Nemonic Code)" ทำให้นักเขียนโปรแกรมสามารถเขียนโปรแกรมได้ง่ายขึ้น
เพื่อช่วยแปลคำสั่งภาษาแอสเซมบลีให้เป็นภาษาเครื่อง
เพื่อให้คอมพิวเตอร์เข้าใจยุคนี้ก็ยังจัดอยู่ในกลุ่มภาษาระดับต่ำ
ยุคที่ 3 (Third Generation
Language)🎨
ช่วยให้โปรเเกรมในยุคนี้มีรูปแบบคำสั่งที่ง่ายต่อการเรียนรู้
การเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในยุคนี้ เป็นรูปแบบเชิง
กระบวนการ จะเขียนค่าสั่งเป็นขั้นเป็นตอนเรียงล่าดับ
เรียกว่า ภาษาระดับสูง โดยนำกลุ่มคำภาษาอังกฤษมาใช้เป็นรูปเเบบของการเขียน
ยุคนี้จะมีตัวแปลภาษา 2 ประเภท คือ คอมไพเลอร์ (Compiler) และอินเทอร์พรีเตอร์ (Interpreter)
ผู้เขียนจะต้องจดจ่ารูปแบบค่าสั่งต่างๆ จึงยังเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก
ส่าหรับการเขียนโปรแกรม
ตัวอย่างภาษาในยุคที่ 3 เช่น ภาษาซี
ภาษาเบสิก ภาษาปาสกาล และภาษาฟอร์แทรน
ยุคที่4(Fourth Generation
Language)🎃
มีการพัฒนาภาษาคอมพิวเตอร์ขึ้นมาใหม่
เป็นภาษาคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะการเขียนที่ไม่เป็นลำดับ
รูปเเบบของภาษาคอมพิวเตอร์ยุคนี้ช่วยทำให้การเขียนโปรเเกรมทำได้ง่าย สะดวก เเละรวดเร็ว
ภาษายุคที่ 4 นี้ ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อท่างานด้วยตนเอง
นำไปใช้ท่างานร่วมกับภาษาอื่นได้ เช่น นำภาษา SQL มาใช้ร่วมกับ ภาษา PHP
ยุคที่ 5 (Fifth Generation
Language)🧧
แปลความของค่าสั่งเพื่อท่าให้คอมพิวเตอร์เข้าใจ
และจ่าโครงสร้างของค่าสั่งเหล่านั้นไว้
ภาษาคอมพิวเตอร์ในยุคที่5นี้
มีความใกล้เคียงกับภาษามนุษย์มากยิ่งขึ้น
ภาษาธรรมชาติ (Natural Language) ผู้ใช้สามารถ
สั่งงานด้วยเสียง เป็นการน่าระบบฐานความรู้มาช่วย
ภาษาธรรมชาตินี้ จะนำไปประยุกต์ใช้กับระบบผู้เชี่ยวชาญ และระบบ ปัญญาประดิษฐ์ เช่น การพัฒนาหุ่นยนต์
สามารถในการทำงานเหมือนมนุษย์
สามารถใทำงานเหมือนมนุษย์ได้เสมือนจริง
ใช้เสียงเป็นรหัสผ่านในการสั่ง
ให้โปรแกรมที่กำหนดไว้เริ่มทำงาน