Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กระบวนการเปลี่ยนแปลงของผู้สูงอายุ, กระบวนการเปลี่ยนแปลงผู้สูงอายุ, น.ส.…
กระบวนการเปลี่ยนแปลงของผู้สูงอายุ
ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงร่างกายผู้สูงอายุ
ปัจจัยภายนอก
สิ่งแวดล้อม ผู้ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เสียงดังก็จะทำให้ผู้สูงอายุมีปัญหาเรื่องการได้ยิน
หรือ มลพิษทางอากาศ ทำให้ผู้สูงอายุมีปัญหาเกี่ยวกับทางเดินหายใจ
เศรษฐกิจ
เช่น
ผู้ที่มีรายได้เป็นของตนเอง
เงินเดือน ดอกเบี้ย บำนาญ ฯลฯ
ย่อมสามารถเลือกอาหารที่ดีมีคุณภาพ
มากกว่าผู้สูงอายุที่มีข้อจำกัดเรื่องค่าใช้จ่าย
การเกษียณงาน
การศึกษา
ปัจจัยภายใน
การมองโลก ประสบการณ์ชีวิต
สุขภาพอนามัย
ความเชื่อ คนที่มีความเชื่อว่าความสูงอายุคือความภาคภูมิใจ เป็นที่เคารพ ย่อมดูแลตนเองและแสวงหาความรู้เพื่อทำให้มีสุขภาพดี
กรรมพันธุ์
การเปลี่ยนแปลงทางกายภาและเสรีรววิทยาในผู้สูงอายุ
เซลล์สมองและเซลล์ประสาทมีจำนวนลดลง ขนาดของสมองลดลง ประสิทธิภาพของการทำงานของสมองและประสาทอัตโนมัติลดลง เป็นเหตุให้ความไวและความรู้สึกตอบสนองต่อปฏิกิริยาต่าง ๆ ลดลง
ความจำเสื่อมโดยเฉพาะเรื่องราวใหม่ ๆ (recent memory) เพราะความสามารถในการเก็บข้อมูลลดลง จำเรื่องราวเก่า ๆ ในอดีต (remote memory) ได้ดี
การมองเห็น
ทำให้การปรับตัวสำหรับการมองเห็นในสถานที่ต่าง ๆ ไม่ดี โดยเฉพาะในสถานที่มืดหรือในเวลากลางคืน
โดยทั่วไปผู้สูงอายุสามารถแยกสีแดง สีส้ม และสีเหลือง ได้ดีกว่าสีน้ำเงิน สีม่วง และเขียว
ลูกตามีขนาดเล็กลงและลึกเพราะไขมันของลูกตาลดลงหนังตามีความยืดหยุ่นลดลง ทำให้หนังตาตก รูม่านตาเล็กลง ปฏิกิริยาตอบสนองของม่านตาต่อแสงลดลง
แบบแผนการนอนหลับเปลี่ยนแปลง สาเหตุเกิดมาจากร่างกายขาดการออกกำลังกาย นอนกลางวันมากเกินไป มีความวิตกกังวลสูงขึ้น
ปัญหาการได้ยินลดลง หูตึง
(Presbycusis)
ทำให้มีความบกพร่องการได้ยินระดับเสียงสูงมากกว่าระดับเสียงต่ำ
การสื่อสารกับผู้สูงอายุ ไม่ควรตะโกน แต่ควรพูดด้วยเสียงทุ้ม พูดถ้อยคำง่าย ๆ พูดช้า ๆ ชัดเจน
สาเหตุมาจากมีการเสื่อมของ organ of Corti และ basilar membrane ร่วมกับเส้นประสาทคู่ที่ 8 เยื่อแก้วหูและอวัยวะในหูชั้นกลางแข็งตัวมากขึ้น
ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
(Musculoskeletal system)
เนื่องจากแคลเซียมถูกดูดซึมจากลำไส้น้อยลง และมีการสูญเสียแคลเซียมมากขึ้นทั้งทางลำไส้และทางไตเพราะขาดวิตามินดี
ในเพศหญิงสาเหตุที่สำคัญคือ การขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน ฮอร์โมนนี้ออกฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของ osteoblasts ลดลงหลังหมดประจำเดือนทำให้แคลเซียมสลายออกจากกระดูก กระดูกผู้สูงอายุจึงเปราะและหักง่ายแม้ไม่ได้รับอุบัติเหตุ
หลังอายุ 40 ปี อัตราการเสื่อมของกระดูกมากกว่าอัตราการสร้าง เซลล์กระดูกลดลง แคลเซียมมีการสลายออกจากกระดูกมากขึ้น
ระบบผิวหนัง
(Integumentary System)
ทำให้การหายของแผลช้าลง เส้นใยอีลาสตินลดลงแต่เส้นใย คอลลาเจน
ใหญ่และแข็งตัวมากขึ้น ทำให้ความยืดหยุ่นของผิวหนังไม่ดี
น้ำและไขมันใต้ ผิวหนังลดลง ทำให้ผิวหนังเหี่ยวและมีรอยย่นมากขึ้น สามารถมองเห็นปุ่ม กระดูกชัดเจนขึ้น ประกอบกับการไหลเวียนที่ผิวหนังลดลง
ผิวหนังบางลง ความเหนียวของผิวหนังเพิ่มมากขึ้นเซลล์ผิวหนังมีจำนวนลดลง เซลล์ที่เหลือเจริญช้าลงอัตราการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนเซลล์เดิมลดลง
ผู้สูงอายุจึงเกิดแผลกดทับได้ง่ายและทนต่อความเย็นได้น้อยลงต่อมเหงื่อมีจำนวนและขนาดลดลง
ดังนั้น การระบายความร้อนโดยวิธีการระเหยจึงไม่ดี ทำให้การควบคุมอุณหภูมิของร่างกายเลวลง
ทำให้เกิดลมแดด (heat stroke) ต่อมไขมันทำงาน ลดลงทำให้ผิวหนังแห้งคันและแตกง่าย
ผมและขนมีจำนวนลดลง อัตราการเจริญของผมและขนลดลงตามอายุ เมลานิน ซึ่งผลิตจากเซลล์สร้างสีของผมลดลง ทำให้ผมและขนทั่วไปสีจางลงกลายเป็นสีเทาหรือขาว เส้นผมร่วมแห้งง่าย
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
(Cardiovascular System)
ผนังหลอดเลือดมีความยืดหยุ่นน้อยลง เพราะมีเส้นใยคอลลาเจนมากขึ้นและมีการเชื่อมกันตามขวางของเส้นใยคอลลาเจนเหล่านั้นทำให้ผู้สูงอายุเกิดภาวะความดันโลหิตต่ำเมื่อเปลี่ยนท่าทาง
ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงท่าทางต่าง ๆ ในผู้สูงอายุจึงควรกระทำอย่างช้า ๆ เกิดรอยฟกช้ำได้ง่าย
หลอดเลือดของผู้สูงอายุจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางเสื่อมมากขึ้น
ผนังหลอดเลือดฝอยหนาขึ้น ทำให้การแลกเปลี่ยนอาหารและของเสียลดลง
ระบบภูมิคุ้มกันทำงานลดลง ทำให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
ระบบทางเดินหายใจ
(Respiratory System)
จำนวนถุงลมปอดลด ผนังถุงลมแตกง่าย เกิดถุงลมโป่งพองได้ง่าย
การทำงานของเซลล์ขน (cilia) ตลอดทางเดินหายใจลดลง รีเฟล็กซ์และประสิทธิภาพการไอลดลง
ผู้สูงอายุจะมีความยืดหยุ่นของเนื้อปอดลดลง ความแข็งแรงและกำลังการหดตัวของกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจเข้าหายใจออกลดลง ปอดยืดขยายและหดตัวได้น้อยลง
ระบบทางเดินอาหาร
(Digestive System)
ซลล์บริเวณหลอดอาหารมีการเปลี่ยนแปลงมีการยื่นโป่งพองของหลอดอาหารทำให้การเคลื่อนไหวของหลอดอาหารลดลง
ฟันสึกกร่อน เคลือบฟันบางลง ฟันเปราะ บิ่นง่าย ฟันผุ หลุดล่วงง่าย ต่อมน้ำลายเสื่อมหน้าที่ทำให้การย่อยแป้งและน้ำตาลในปากลดลง
ระบบทางเดินปัสสาวะ และระบบสืบพันธุ์ (Genitourinary System)
และความเสื่อมหน้าที่ของไตโดยเฉพาะความสามารถในการควบคุมความเข้มข้นของปัสสาวะ ผู้สูงอายุจึงมีความเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำ
ปัสสาวะบ่อย เนื่องจากกระเพาะปัสสาสะมีความจุลดลงและซลล์กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะลดลงความสามารถในการหดตัว
ไต ขับของเสียออกจากร่างกายได้ลดลง เนื่องจากขนาดและจำนวนของหน่วยไตลดลง ปริมาณเลือดที่เข้าสู่ไตลดลง
ส่งผลให้มีปัสสาวะค้างหลังการถ่ายปัสสาวะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ระบบต่อมไร้ท่อ
(Endocrine System)
ตับอ่อนหลั่งอินสุลินลดลงและช้า ระดับน้ำตาลขณะอดอาหารคงที่ ภายในร่างกายตอบสนองต่ออินสุลินน้อยกว่าปกติ เป็นผลทำให้ระดับความทนต่อน้ำตาล (glucose tolerance) ลดลง
ต่อมเพศทำงานลดลง จึงเป็นผลทำให้ไม่มีประจำเดือน ขนบริเวณรักแร้และหัวเหน่าลดลง
ต่อมธัยรอยด์มีเนื้อเยื่อพังผืดมาสะสมมากขึ้น การทำงานจึงลดลงทำให้ผู้สูงอายุจะเกิดภาวะ hypothyroidism ซึ่งพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ทำให้มีอาการอ่อนเพลียเบื่ออาหารและน้ำหนักลดลงได้
ปัญหา วาเหตุ การปฏิบัติตัว
เพื่อป้องกันการชะลอความเสื่อมในผู้สูงอายุ
ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ถ่ายปัสสาวะลำบาก
และถ่ายบ่อย
ดื่มน้ำอย่างเพียงพอโดยเฉพาะในตอนกลางวัน
สังเกตอาการถ่ายปัสสาวะลำบากถ้ามีอาการมากขึ้น รีบปรึกษาแพทย์ตรวจต่อมลูกหมากทุกปี
บริหารกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานและกล้ามเนื้อหูรูดโดยการขมิบก้นบ่อย ๆ
ต้อกระจก
ไม่ใช้สายตามากเกินไป แสงสว่างเพียงพอ
สังเกตอาการตามัว ถ้ามีอาการมากขึ้น ปรึกษาแพทย์เพื่อลอกต้อออก
ตรวจตาปีละ 1 ครั้ง ถนอมสายตา
ท้องผูก
ออกกำลังกายสม่ำเสมอออกกำลังกาย สม่ำเสมอ
ห้ามกลั้นอุจจาระหลีกเลี่ยงการใช้ยาถ่ายหรือยาระบายเมื่อจำเป็น
ดื่มน้ำมากขึ้น ทานผัก ผลไม้มากขึ้น
หลีกเลี่ยงความเครียดต่าง ๆ
การนอนไม่หลับ
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ
นอนกลางวันน้อยลง
จัดสถานที่ให้เงียบสงบ ไม่มีสิ่งรบกวนขณะนอนหลับ
งดดื่มชา กาแฟ หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำก่อนนอน
เบาหวาน
ทานอาหารแป้งและน้ำตาลดลง
สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ถ่ายปัสสาวะบ่อย ดื่มน้ำมาก
ออกกำลังกายสม่ำเสมอ ควบคุมอาหาร ลดความอ้วน
หูตึง
สังเกตอาการหูตึงถ้าพบความผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์
แนะนำการใช้เครื่องช่วยฟัง
ตรวจหูปีละ 1 ครั้ง
การติดเชื้อในทางเดินหายใจและการสำลัก ถุงลมโป่งพอง หายใจลำบากเหนื่อยง่าย
บริหารการหายใจมากขึ้น มีการไอที่ถูกวิธี
แนะนำการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจ
ทานอาหารช้า ๆ หลีกเลี่ยงการพูดขณะทานอาหาร ดื่มน้ำมาก ๆ
ผิวแห้งแตกง่ายเหี่ยวย่น
ทาผิวหนังด้วยโลชั่น
หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด
หลีกเลี่ยงการอาบน้ำบ่อย ๆ หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ถ้าจำเป็นให้ใช้สบู่อ่อน ๆ
กล้ามเนื้อหัวใจตาย หัวใจวาย
ความดันโลหิตสูง สมองขาดเลือด
ลดความอ้วน งดอาหารที่มีไขมันสูง
หลีกเลี่ยงเหตุการณ์ตื่นเต้น ตกใจวัดความดันโลหิตเสมอ พักผ่อนเพียงพอ
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงความเครียดต่าง ๆ งดสูบบุหรี่และดื่มสุรา
ความไม่สมดุลของน้ำในร่างกาย
หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อากาศร้อน
เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำออกจากร่างกาย
แนะนำให้ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ
กระดูกเปราะ
และหักง่าย ปวดข้อ
ออกกลังกายในสถานที่ที่มีแสงแดดอ่อน ๆอย่างสม่ำเสมอ บริหารข้อมากขึ้น
หลีกเลี่ยงท่านั่งยอง ๆ พับเพียบ ขัดสมาธิ
ระมัดระวังเคลื่อนไหว ป้องกันการหกล้ม
ทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง งดสูบบุหรี่และดื่มสุรา
หนาวเย็น
ใส่เสื้อผ้าหนา ๆ ในวันที่มีอากาศหนาวเย็น
ภาวะเบื่ออาหาร
ขาดสารอาหาร
โลหิตจาง
ทานอาหารครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อย ๆ ครั้ง
ดูแลความสะอาดปากและฟัน ตรวจฟันทุก 6 เดือน
เลือกทานอาหารที่มีคุณค่าสูงครบทั้ง 5 หมู่ ทานผักผลไม้เพิ่มขึ้น ทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง
การติดเชื้อในอวัยวะสืบพันธุ์ เจ็บขณะร่วมเพศ
แนะนำการดูแลความสะอาดของอวัยวะสืบพันธุ์
ใช้สารหล่อลื่นขณะร่วมเพศ
อุบัติเหตุ แผลบริเวณผิวหนัง
ตรวจผิวหนังอยู่เสมอ
จัดสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้เป็นระเบียบ แสงสว่างเพียงพอ
หลีกเลี่ยงการประคบร้อนหรือเย็นจัดเกินไป
ภายในบ้านควรมีราวยึดเกาะโดยเฉพาะห้องน้ำ
น.ส. พิชญานิน นิสภา เลขที่ 57 (62111301059) ปี 2 รุ่น 37