Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
เทคโนโลยีไร้สาย ยุค 1G-5G :star: - Coggle Diagram
เทคโนโลยีไร้สาย ยุค 1G-5G :star:
ยุค 1G
โทรศัพท์เคลื่อนที่ยุคที่ 1 ( 1G ) เป็นการใช้เทคโนโลยีการสื่อสารแบบ Analog โดยจะใช้สัญญาณวิทยุในการส่งคลื่นเสียง (Voice) ซึ่งจะมีสถานีฐานที่ใช้ในการรับส่งสัญญาณไปยังโทรศัพท์เคลื่อนที่ หนึ่งคลื่นความถี่เท่ากับหนึ่งช่องสัญญาณ คุณภาพของเสียงยังไม่คมชัด มีสัญญาณรบกวนง่าย เกิดปัญหาสายหลุดบ่อย มีความเสี่ยงต่อการถูกลักลอบดักฟังสัญญาณและการลักลอบทำสำเนาเลขหมายโทรศัพท์ไปใช้ในโทรศัพท์เครื่องอื่น รวมถึง สถานีที่ใช้ในการรับส่งสัญญาณก็มีน้อย
่ข้อดี: สามารถโทรออก หรือ รับสายได้
ข้อเสีย: ส่งผ่านข้อมูลใดๆไม่ได้รวมถึงSMSก็ไม่สามารถ
ส่งได้
ยุค 2G
ในยุค 2G นี้ ได้เปลี่ยนรูปแบบจากการส่งคลื่นทางคลื่นวิทยุแบบ Analog จากยุค 1G มาเป็นการเข้ารหัส Digital และส่งทางคลื่นไมโครเวฟ ได้คุณภาพเสียงชัดขึ้น การดักฟังและการลักลอบทำสำเนาเลขหมายโทรศัพท์ก็ทำได้ยากขึ้น เพราะมีการเข้ารหัสไว้แล้วและยุคนี้ก็เกิดการใช้งาน Sim Card ขนาดโทรศัพท์เล็กลงและเบาขึ้น และเพิ่มความสามารถในการส่งข้อความ Short Message Service ( SMS ) และเป็นยุคที่สามารถเริ่มใช้งาน data ด้วย
ข้อดี: สามารถเข้าเว็บไซต์ไปเล่นอินเทอร์เน็ตได้
ข้อเสีย: ความเร็วยังมีจำกัด ไม่สามารถรองรับไฟล์ที่มี ขนาดใหญ่ได้
ยุค 4G
มาตรฐาน 4G นี้ถูกกำหนดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี 2551 โดยความต้องการของผู้ใช้ที่ต้องการความเร็วเน็ตบนมือถือสูงขึ้นอีก มีการกำหนดความเร็วของระบบ 4G ไว้ที่ Gbps แต่ด้วยขีดจำกัดทางด้านเทคโนโลยีและความพร้อมของผู้ให้บริการ จึงทำให้ระบบ 4G ในปัจจุบัน ยังไม่สามารถทำความเร็วในการรับ-ส่งข้อมูลได้สูงตามข้อกำหนด โดยมีอัตราความเร็วอยู่ที่ 100-120 Mbps
ข้อดี: มีความเร็วที่สูงขึ้น สามารถใช้งานแบบไร้สายสายได้
ข้อเสีย: มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูงมาก
ยุค 5G
5G ส่วนมากจะลองใช้สัญญาณคลื่นความถี่สูงถึง 73,000 MHz ในขณะที่โทรศัพท์มือถือทั่วไปรับได้แค่ 700-3,500 MHz ข้อดีของคลื่นความถี่ที่สูงนี้คือส่งข้อมูลได้เร็วขึ้น แต่ข้อเสียคือสัญญาณคลื่นสั้นกว่า และทะลุผ่านกำแพงได้ยากกว่า
ข้อดี: มีความละเอียดสูงและบอนด์วิธขนาดใหญ่ สามารถแผยแพร่ข้อมูลขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็ว
ข้อเสีย: ยังอยู่ในกระบวนการผลิตและพัฒนา อุปกรณ์เก่าไม่สามารถใช้งานได้
ยุค 3G
มีการเชื่อมต่อกับระบบเครือข่ายของ 3G ตลอดเวลาที่เราเปิดเครื่องโทรศัพท์ ( always on ) นั่นคือไม่จำเป็นต้องต่อโทรศัพท์เข้าเครือข่ายและ log-in ทุกครั้งเพื่อใช้บริการรับส่งข้อมูลเมื่อเปรียบเทียบเทคโนโลยี 2G กับ 3G แล้ว 3G มีช่องสัญญาณความถี่ และ ความจุที่มากกว่า
ข้อดี: การคิดค่าบริการจะเกิดขึ้นเมื่อมีการเรียกใช้ข้อมูลผ่านเครือข่ายเท่านั้นแตกต่างกัยระบบทั่วไปมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตกับเครือข่าย 3G ตลอดเวลาที่เปิดเครื่องโทรศัพท์ ( Always On )อุปกรณ์สื่อสารไร้สายมีรูปแบบอื่นๆ Plamtop,PDA,Laptop และ PC
ข้อเสีย: เป็นเครือข่ายที่ใหญ่มากมีบุคคลทุกเพศทุกวัยแบบทุกอาชีพที่ใช้งานข้อมูลที่สามารถใช้ได้กับบุคคลวัยหนึ่งอาจไม่เหมาะกับอีกวัยหนึ่งเข้าถึงผู้ใช้ได้ง่ายเป็นช่องทางของมิจฉาชีพล่อลวง ก่ออาชญากรรมผ่านทางแชท