Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
ทฤษฎีความสูงอายุ, นางสาวประภัสสร สำเภาทอง เลขที่ 45 ชั้นปีที่ 2 …
ทฤษฎีความสูงอายุ
1.ทฤษฎีทางชีวภาพ (Biological Theories)
คือ
เกี่ยวกับกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางกายภาพที่เกิดขึ้น
ในร่างกายสิ่งมีชีวิตทุกชนิด
ผลกระทบ ของความชราที่ทําให้ระบบการทํางานของอวัยวะ
ในร่างกายทํางานลดลง
อธิบายความ ชราทางชีววิทยา
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องมี ดังนี้
ทฤษฎีอนุมูลอิสระ (Free radical Theory)
ความสูงอายุเกิด จากการสะสมสารที่เกิดจากการเผาผลาญไขมัน โปรตีน และคาร์โบไฮเดรต
การได้รับการกระตุ้นจากความร้อน แสง และรังสี
ก่อให้เกิดสารที่ เรียกว่า
อนุมูลอิสระ
แนวคิดใหม่ที่สอดคล้องกับทฤษฎีอนุมูลอิสระ
ทฤษฎีจํากัดพลังงาน (Caloric Restriction or Metabolic Theory)
เชื่อว่าการจํากัด พลังงานในอาหารที่รับประทานจะช่วยชะลอ
กระบวนการเผาผลาญใน ร่างกายให้ช้าลงโดยเฉพาะไขมัน
ทฤษฎีสะสม(Accumulation Theory)
เกิดจาก สารไลโปฟัสซิน (Lipofuscin) เป็นสารสีเหลือง
ที่ประกอบด้วยไขมันและ โปรตีน
พบในเซลล์ของกล้ามเนื้อหัวใจ ตับและเส้นประสาท
สารนี้เป็น ผลผลิตของการเผาผลาญไขมันไม่อิ่มตัว
ทฤษฎีการเชื่อมตามขวาง (Cross - Linking Theory)
หรือทฤษฎี คอลลาเจน (Collagen Theory )
เมื่อมีอายุมากขึ้นโปรตีนบางตัวจะเปลี่ยนแปลงลักษณะไขว้ขวางกัน
อาจจะขัดขวางกระบวนการเผาผลาญในร่างกายโดยอุดกั้นทางเดินระหว่าง ภายนอกกับภายในเซลล์ของสารอาหารและของเสียที่เกิดขึ้น
คอลลาเจนเกิดจากการเชื่อม ตามขวางภายในเซลล์ พบเมื่ออายุมากขึ้น
เมื่อเนื้อเยื่อคอลลาเจนมีการ เปลี่ยนแปลงทําให้มีลักษณะ
แข็ง แตกแห้ง สูญเสียความยืดหยุ่น
เช่น ผิวหนัง ผนังหลอดเลือด เลนซ์ในลูก ตา
ทําให้มีความทึบแสงมากขึ้น และกลายเป็นต้อกระจก (cataracts)
ทฤษฎีความเสื่อมโทรม (Wear and tear theory)
เปรียบเทียบคนคล้ายกับเครื่องจักร
เซลล์สมองและเซลล์ประสาท
มีจำนวนลดลง
เป็นเหตุให้ความไวและความรู้สึกตอบสนอง
ต่อปฏิกิริยาต่างๆ ลดลง
เมื่อมีการใช้งานมาก ๆ ใช้งานอวัยวะเป็นเวลานาน
จึงเกิดการตายของเซลล์ เนื้อเยื่อ อวัยวะและระบบต่าง ๆ
ในร่างกายจะทํางานเสื่อมลง
เช่น หลอด เลือด ข้อเข่า เป็นต้น
จึงควรมีการส่งเสริมสุขภาพและการชะลอ
ความเสื่อมของร่างกายเพื่อชะลอความเสื่อม
ทฤษฎีพันธุกรรม (Genetic Theory)
ความสูงอายุถูกควบคุมด้วยพันธุกรรม
อายุขัยของมนุษย์ถูก โปรแกรมก่อนเกิดกําหนดไว้
โดยเริ่มจากยีนใน DNA ถ่ายทอดลักษณะต่าง ๆ ให้ลูกหลาน
ทฤษฎีระบบประสาท/ต่อมไร้ท่อและภูมิคุ้มกัน
(Neuroendocrine-Immunologic Theory)
ความสูงอายุเป็นผลร่วมกันของการเปลี่ยนแปลงระบบประสาท/
ต่อมไร้ท่อและระบบภูมิคุ้มกันที่ทําหน้าที่ลดลง หรือแตกต่างจากเดิม
ภูมิคุ้มกันนี้ ลดลง เมื่ออายุ มากขึ้น มีผลทําให้ มีโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
2.ทฤษฎีความสูงอายุเชิงจิตสังคม (Phychosocial theory)
คือ
การเปลี่ยนแปลงทางจิตใจและสังคมของผู้สูงอาย
มักจะมี ผลกระทบพร้อม ๆ กัน
ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องมี ดังนี้
2.1) ทฤษฎีการถดถอย (Disengagement Theory)
เมื่อถึงวัย ผู้สูงอายุจะสามารถยอมรับในบทบาท
และหน้าที่ของตนเองลดลง
ฉะนั้นถ้าสังคมและบุคคลรอบข้าง ของผู้สูงอายุยอมรับเปิดโอกาสและเคารพในตัวผู้สูงอายุ จะทําให้ ผู้สูงอายุมีความสุขมากขึ้น
2.2) ทฤษฎีการมีกิจกรรม(Activity theory)
ส่งเสริม การทํากิจกรรมต่อไป
ไม่ยอมรับการเป็นผู้สูงอายุเร็วเกินไป
เมื่อผู้สูงอายุ เกิดการสูญเสียบทบาทที่เคยทําอยู่
บทบาทใหม่หรือบทบาทที่แตกต่าง ออกไป
รวมทั้งความสนใจใหม่ ๆ ควรเข้ามาแทนที่
2.3) ทฤษฎีความต่อเนื่อง (Continuity Theory)
ผู้สูงอายุจะมีความสุขในการทํากิจกรรมต่าง ๆ ได้ขึ้นอยู่กับ บุคลิกภาพ
และแบบแผนการดําเนินชีวิตที่มีมาในอดีตที่แต่ละคนเคย ปฏิบัติมาก่อน
2.4) แนวคิดพัฒนกิจชีวิตของอิริคสัน
(Erikson,s Developmental Tasks)
พัฒนกิจที่สําคัญในวัยผู้สูงอายุ ได้แก่
การปรับตัวต่อความเจ็บป่วย
การสูญเสียและการเปลี่ยนแปลง
การชื่นชมกับชีวิตในอดีต
การเตรียมตัวเองเข้าสู่วาระสุดท้ายของชีวิต
แนวคิดที่สําคัญคือ
สิ่งที่ผู้สูงอายุควรปฏิบัติ คือ
การหาความหมายของชีวิตเพื่อเสริม ความรู้สึกมีศักดิ์ศรี
ซึ่งจะช่วยให้ผู้สูงอายุยอมรับการเปลี่ยนแปลง
2.5) ทฤษฎีของเพค (Peck, Concept)
ขยายแนวคิดของ Erikson ให้เฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับ
การสร้างความรู้สึกมีศักดิ์ศรีในตนเอง
ว่าผู้สูงอายุควรสร้างความรู้สึกพึงพอใจในตนเองในฐานเป็นคนคนหนึ่ง
ผู้สูงอายุควรหาความสุข ทางใจมากกว่า
หมกมุ่นกับความจํากัดของร่างกายที่เกิดขึ้นจาก ความสูงอายุ
นางสาวประภัสสร สำเภาทอง เลขที่ 45 ชั้นปีที่ 2
รหัสนักศึกษา 62111301047