Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
กระบวนการเปลี่ยนแปลงของผู้สูงอายุ - Coggle Diagram
กระบวนการเปลี่ยนแปลงของผู้สูงอายุ
ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงร่างกายผู้สูงอายุ
ปัจจัยภายใน
สุขภาพอนามัย (คนที่แข็งแรงจะสามารถปฏิบัติกิจกรรมต่างๆได้ดีย่อมมีสุขภาพดี)
การมองโลก ประสบการณ์ชีวิต (คนที่คิดบวกก็จะทำให้มีกำลังใจที่ดูแลสุขภาพ หรือคนที่เตรียมตัววางแผนก่อนเกษียณอายุ)
กรรมพันธุ์
ความเชื่อ คนที่มีความเชื่อว่าความสูงอายุคือความภาคภูมิใจ เป็นที่เคารพย่อมดูแลตนเองและแสวงหาความรู้เพื่อทำให้มีสุขภาพดี ชะลอความเสื่อมในร่างกายได้
ปัจจัยภายนอก
เศรษฐกิจ เช่น ผู้ที่มีรายได้เป็นของตนเอง เงินเดือน ดอกเบี้ย บำนาญ ย่อมสามารถเลือกอาหารที่ดีมีคุณภาพมากกว่าผู้สูงอายุที่มีข้อจำกัดเรื่องค่าใช้จ่าย
สิ่งแวดล้อม ผู้ที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่เสี่ยงจะทำให้ผู้สูงอายุมีปัญหาสุขภาพ
การศึกษา
การเกษียณงาน
การเปลี่ยนแปลงทางกายภาพและสรีรวิทยาในผู้สูงอายุ
ระบบผิวหนัง
เซลล์ที่เหลือเจริญช้าลง อัตราการสร้างเซลล์ใหม่ชึ้นมาทดแทนลดง ทำให้การหายของแผลช้าลง
เส้นใยอีลาสตินลดลงแต่เส้นใยคอลลาเจนใหญ่และแข็งตัวมากขึ้น ทำให้ความยืดหยุ่นของผิวหนังไม่ดี
ผิวหนังบาง ความเหนียวของผิวหนังเพิ่มมากขึ้น เซลล์ผิวหนังมีจำนวนลดลง
น้ำและไขมันใต้ผิวหนังลดลง ทำให้ผิวหนังเหี่ยวและมีรอยย่นมากขึ้น เห็นปุ่มกระดูกชัดเจนขึ้น การไหลเวียนที่ผิวหนังลดลงจึงเกิดแผลกดทับได้ง่ายและทนต่อความเย็นได้น้อยลง
ต่อมเหงื่อมีจำนวนและขนาดลดลง การระบายความร้อนโดยวิธีการระเหยจึงไม่ดี ทำให้การควบคุมอุณหภูมิของร่างกายเลวลงเกิดลมแดด
เมลานินซึ่งผลิตจากเซลล์สร้างสีของลดลง ทำให้ผมและขนทั่วไปสีจางลงกลายเป็นสีเทาหรือขาว เส้นผมร่วงแห้งง่าย เนื่องจากการไหลเวียนเลือดบริเวณหนังศีรษะลดลง เส้นผมได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ
ปัญหาการได้ยินลดลง หูตึง
สาเหตุมาจากมีการเสื่อมของ organ of Corti และ basilar membrane ร่วมกับเส้นประสาทคู่ที่ 8
เยื่อแก้วหูและอวัยวะในหูชั้นกลางแข็งตัวมากขึ้น ทําให้มีความบกพร่องการได้ยินระดับเสียงสูงมากกว่าระดับเสียงต่ํา
การสื่อสาร
ไม่ควรตะโกน แต่ควรพูดด้วยเสียงทุ้ม พูดถ้อยคําง่ายๆพูดช้าๆชัดเจน
หลีกเลี่ยงใช้คําเดี่ยว ควรใช้คําที่มีหลายพยางค์ กลุ่มคํา หรือประโยค
ขณะสนทนายืนต่อหน้าผู้สูงอายุ ให้ผู้สูงอายุมองเห็นชัด พูดต่อหน้าไม่ห่างเกินและไม่ใกล้กว่า 3 ฟุต
การมองเห็น
รูม่านตาเล็กลง ปฏิกิริยาตอบสนองของม่านตาต่อแสงลดลง ทําให้การปรับตัวสําหรับการมองเห็นในสถานที่ต่างๆไม่ดีโดยเฉพาะในสถานที่มืดหรือในเวลากลางคืน
แก้วตาแข็ง ยืดหยุ่นลดลง ฃและเริ่มขุ่นมัวมีสีเหลืองมากขึ้น ทําให้ความสามารถเทียบสีลดลงจึงแยกสีที่คล้ายกันได้ยากขึ้น โดยทั่วไปผู้สูงอายุสามารถแยกสีแดง สีส้ม และสีเหลืองได้ดีกว่าสีน้ําเงิน สีม่วง และเขียว
หนังตามีความยืดหยุ่นลดลงทําให้หนังตาตก
ลูกตามีขนาดเล็กลงและลึกเพราะไขมันของลูกตาลดลง
สมอง
ขนาดของสมองลดลงประสิทธิภาพของการทํางานของสมองและประสาทอัตโนมัติลดลง เป็นเหตุให้ความไวและความรู้สึกตอบสนองต่อปฏิกิริยาต่างๆลดลง
ความจําเสื่อมโดยเฉพาะเรื่องราวใหม่ๆ เพราะความสามารถในการเก็บข้อมูลลดลง จําเรื่องราวเก่าๆในอดีตได้ดี
เซลล์สมองและเซลล์ประสาทมีจํานวนลดลง
ระบบกล้ามเนื้อและกระดูก
สูญเสียแคลเซียมมากขึ้นทั้งทางลําไส้และทางไตเพราะขาดวิตามินดี
ในเพศหญิงสาเหตุที่สําคัญคือ
การขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน
ฮอร์โมนนี้ออกฤทธิ์กระตุ้นการทํางานของ osteoblasts ลดลงหลังหมดประจําเดือน ทําให้แคลเซียมสลายออกจากกระดูก
เซลล์กระดูกลดลง แคลเซียมมีการสลายออกจากกระดูกมากขึ้น เนื่องจากแคลเซียมถูกดูดซึมจากลําไส้น้อยลง
หลังอายุ 40ปี อัตราการเสื่อมของกระดูกมากกว่าอัตราการสร้าง
ความยาวของกระดูกลดลงเพราะหมอนรองกระดูกสูญเสียน้ําและบางลงกระดูกหลังผุมากขึ้น ทําให้หลังค่อม หรือหลังเอียงมากขึ้น
ระบบหัวใจและหลอดเลือด
ผนังหลอดเลือดฝอยหนาขึ้น ทําให้การแลกเปลี่ยนอาหารและของเสียลดลง มีความยืดหยุ่นน้อยลง เพราะมีเส้นใยคอลลาเจนมากขึ้นและมีการเชื่อมกันตามขวางของเส้นใยคอลลาเจนทําให้ผู้สูงอายุเกิดภาวะความดันโลหิตต่ําเมื่อเปลี่ยนท่าทาง
หลอดเลือดของผู้สูงอายุจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางเสื่อมมากขึ้น
ระบบภูมิคุ้มกัน
ระบบภูมิคุ้มกันทํางานลดลง ทําให้เกิดการติดเชื้อได้ง่าย
จํานวนของ T-lymphocytes ไม่เปลี่ยนแปลง แต่เซลล์จํานวนมากอยู่ในระยะ immature เพราะขาดฮอร์โมนจากต่อมฮอร์โมน อัตราส่วนของ helper T cells ต่อ suppressor T cells เพิ่มขึ้น ดังนั้นกลไกการตอบสนองของ T-lymphocytes ต่อเชื้อโรคหรือสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ จึงลดลง
ระบบทางเดินหายใจ
จํานวนถุงลมปอดลด ผนังถุงลมแตกง่าย เกิดถุงลมโป่งพองได้ง่าย
การทํางานของเซลล์ขนตลอดทางเดินหายใจลดลง รีเฟล็กซ์และประสิทธิภาพการไอลดลง จึงเกิดการติดเชื้อทางเดินหายใจได้ง่าย
ผู้สูงอายุจะมีความยืดหยุ่นของเนื้อปอดลดลง ความแข็งแรงและกําลังการหดตัวของกล้ามเนื้อที่ช่วยในการหายใจเข้าหายใจออกลดลง ปอดยืดขยายและหดตัวได้น้อยลง
การทํางานของฝาปิดกล่องเสียงเลวลง เป็นเหตุทําให้เกิดการสําลักและเกิดโรคปอดบวมได้ง่ายขึ้น
ระบบทางเดินอาหาร
ต่อมน้ําลายเสื่อมหน้าที่ทําให้การย่อยแป้งและน้ําตาลในปากลดลง
ปากและลิ้นแห้งมีการติดเชื้อในปากมากขึ้น การรับรสของลิ้นเสียไปทําให้เกิดภาวะเบื่ออาหาร
ฟันสึกกร่อน เคลือบฟันบางลง ฟันเปราะ บิ่นง่าย ฟันผุ หลุดล่วงง่าย
เซลล์บริเวณหลอดอาหารมีการเปลี่ยนแปลงมีการยื่นโป่งพองของหลอดอาหารทําให้การเคลื่อนไหวของหลอดอาหารลดลง
หลอดอาหารมีขนาดกว้างขึ้นกล้ามเนื้อหูรูดบริเวณปลายหลอดอาหารหย่อนตัวลงและทํางานช้าลงอาหารให้กระเพาะอาหารไหลย้อนกลับขึ้นมาในหลอดอาหารทําให้รู้สึกแสบยอดอก
บางครั้งมีการสูดสําลักเข้าสู่หลอดลมทําให้เกิดโรคปอดบวมได
การเคลื่อนไหวของกระเพาะอาหารช้าลงเนื่องจากความตึงตัวของกล้ามเนื้อและการทํางานของกล้ามเนื้อกระเพาะอาหารลดลงอาหารอยู่ในกระเพาะอาหารยาวนานขึ้น ทําให้รู้สึกหิวลดลง
การดูดซึมธาตุเหล็กและแคลเซียมลดลงเนื่องจากการผลิตน้ําย่อยกรดเกลือลดลง ผู้สูงอายุจึงเกิดโรคกระดูกผุและโรคโลหิตจางได้ง่าย
ระบบทางเดินปัสสาวะ
ปริมาณเลือดที่เข้าสู่ไตลดลง และความเสื่อมหน้าที่ของไตโดยเฉพาะความสามารถในการควบคุมความเข้มข้นของปัสสาวะ ผู้สูงอายุจึงมีความเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ํา
ปัสสาวะบ่อย เนื่องจากกระเพาะปัสสาสะมีความจุลดลงและซลล์กล้ามเนื้อกระเพาะปัสสาวะลดลง ความสามารถในการหดตัวส่งผลให้มีปัสสาวะค้างหลังการถ่ายปัสสาวะทําให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
ไตขับของเสียออกจากร่างกายได้ลดลง เนื่องจากขนาดและจํานวนของหน่วยไตลดลง
ผู้ชายอาจมีปัสสาวะขัด ลําปัสสาวะไม่พุ่ง เนื่องจากต่อมลูกหมากโต
ผู้หญิงก็มีอาการกลั้นปัสสาวะไม่อยู่เป็นครั้งคราว เพราะกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานหย่อน
โรคในระบบทางเดินปัสสาวะที่พบบ่อยในผู้สูงอายุ เช่น โรคติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ไตวาย
ระบบต่อมไร้มท่อ
ตับอ่อนหลั่งอินสุลินลดลงและช้า ระดับน้ําตาลขณะอดอาหารคงที่ ภายในร่างกายตอบสนองต่ออินสุลินน้อยกว่าปกติ เป็นผลทําให้ระดับความทนต่อน้ําตาลลดลง
ต่อมเพศทํางานลดลง จึงเป็นผลทําให้ไม่มีประจําเดือน ขนบริเวณรักแร้และหัวเหน่าลดลง
ต่อมธัยรอยด์มีเนื้อเยื่อพังผืดมาสะสมมากขึ้น การทํางานจึงลดลงทําให้ผู้สูงอายุจะเกิดภาวะ hypothyroidism ซึ่งพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ทําให้มีอาการอ่อนเพลียเบื่ออาหารและน้ําหนักลดลงได้
ปัญหา สาเหตุ และการปฏิบัติเพื่อป้องกันการชะลอความเสื่อมในผู้สูงอายุ
1.อุบัติเหตุ แผลบริเวณผิวหนัง
จัดสิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัยให้เป็นระเบียบ
แสงสว่างเพียงพอ
ตรวจผิวหนังอยู่เสมอ
ภายในบ้านควรมีราวยึดเกาะโดยเฉพาะห้องน้ํา
หลีกเลี่ยงการประคบร้อนหรือเย็นจัดเกินไป
เปลี่ยนท่าเดินช้าๆไม่รีบร้อน
2.ภาวะเบื่ออาหาร ขาดสารอาหาร โลหิตจาง
รับประทานผักผลไม้เพิ่มขึ้น
รักประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง
รับประทานอาหารครั้งละน้อยๆ แต่บ่อยๆครั้ง
ดูแลความสะอาดปากและฟัน ตรวจฟันทุก 6 เดือน
เลือกรับประทานอาหารที่มีคุณค่าสูงครบทั้ง 5 หมู่
3.กระดูกเปราะและหักง่าย ปวดข้อ
งดสูบบุหรี่และดื่มสุรา
หลีกเลี่ยงท่านั่งยองๆ พับเพียบ และขัดสมาธิ
ออกกลังกายในสถานที่ที่มีแสงแดดอ่อนๆอย่างสม่ําเสมอ บริหารข้อมากขึ้น
ลดน้ําหนักและระมัดระวังเคลื่อนไหว เพื่อป้องกันการหกล้ม
รับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง
15.การติดเชื้อในอวัยวะสืบพันธุ์ เจ็บขณะร่วมเพศ
แนะนําการดูแลความสะอาดของอวัยวะสืบพันธุ์
ใช้สารหล่อลื่นขณะร่วมเพศ
14.หนาวเย็น
ใส่เสื้อผ้าหนาๆในวันที่มีอากาศหนาวเย็น
13.ความไม่สมดุลของน้ําในร่างกาย
แนะนําให้ดื่มน้ําอย่างเพียงพอ
หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อากาศร้อน เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ําออกจากร่างกาย
12.ผิวแห้งแตกง่ายเหี่ยวย่น
หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ ถ้าจําเป็นให้ใช้สบู่อ่อนๆ
ทาผิวหนังด้วยโลชั่น
หลีกเลี่ยงการอาบน้ําบ่อยๆ
หลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดด
11.หูตึง
สังเกตอาการหูตึง ถ้าพบความผิดปกติให้รีบปรึกษาแพทย์
แนะนําการใช้เครื่องช่วยฟัง
ตรวจหูปีละ 1 ครั้ง
10.การนอนไม่หลับ
นวดเบาๆบริเวณหลังก่อนนอน
ออกกําลังกายสม่ําเสมอ
ดื่มนมอุ่นๆก่อนนอน
นอนกลางวันน้อยลง
จัดสถานที่ให้เงียบสงบ ไม่มีสิ่งรบกวนขณะนอนหลับ
งดดื่มชา กาแฟ
หลีกเลี่ยงการดื่มน้ําก่อนนอน
5.การติดเชื้อในทางเดินหายใจและการสําลัก ถุงลมโป่งพอง หายใจลําบากเหนื่อยง่าย
ดื่มน้ํามากๆ
มีการไอที่ถูกวิธี
บริหารการหายใจมากขึ้น
แนะนําการฉีดวัคซีนป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจ
หลีกเลี่ยงการพูดขณะรับประทานอาหาร
รับประทานอาหารช้าๆ
4.กล้ามเนื้อหัวใจตาย หัวใจวาย ความดันโลหิตสูง สมองขาดเลือด
งดสูบบุหรี่และดื่มสุรา
ลดความอ้วน งดอาหารที่มีไขมันสูง
หลีกเลี่ยงความเครียดต่างๆ
หลีกเลี่ยงเหตุการณ์ตื่นเต้น ตกใจ
ออกกําลังกายอย่างสม่ําเสมอ
วัดความดันโลหิตเสมอ
พักผ่อนเพียงพอ
7.ท้องผูก
ออกกําลังกายอย่างสม่ำเสมอ
ห้ามกลั้นอุจจาระ
รับประทานผัก ผลไม้มากขึ้น
หลีกเลี่ยงความเครียดต่างๆ
ดื่มน้ํามากขึ้น
หลีกเลี่ยงการใช้ยาถ่ายหรือยาระบายเมื่อจําเป็น
6.เบาหวาน
รับประทานอาหารแป้งและน้ําตาลลดลง
ลดความอ้วน
ควบคุมอาหาร
สังเกตอาการผิดปกติ เช่น ถ่ายปัสสาวะบ่อย ดื่มน้ํามาก
ออกกําลังกายอย่างสม่ําเสมอ
8.ภาวะกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ ถ่ายปัสสาวะลําบาก และถ่ายบ่อย
เตรียมห้องน้ําให้อยู่ใกล้สะดวกในการใช้
สังเกตอาการถ่ายปัสสาวะลําบาก ถ้ามีอาการมากขึ้น รีบปรึกษาแพทย์ตรวจต่อมลูกหมากทุกปี
ดื่มน้ําอย่างเพียงพอโดยเฉพาะในตอนกลางวัน
บริหารกล้ามเนื้อในอุ้งเชิงกรานและกล้ามเนื้อหูรูดโดยการขมิบก้นบ่อยๆ
9.ต้อกระจก
สังเกตอาการตามัว ถ้ามีอาการมากขึ้นปรึกษาแพทย์เพื่อลอกต้อออก แล้วใสแก้วตาเทียมแทนหรือใส่แว่นหลังผ่าตัด
ถนอมสายตา ไม่ใช้สายตามากเกินไป แสงสว่างเพียงพอ
ตรวจตาปีละ 1 ครั้ง
การเปลี่ยนแปลงด้านจิตใจ
ผู้สูงอายุมักยึดติดกับความคิดและเหตุผลของตนเอง
จำเหตุการณ์ปัจจุบันไม่ค่อยได้ หลงๆ ลืมๆ และชอบย้ำคำถามบ่อยๆ
เรียนรู้สิ่งใหม่ได้ยากเพราะไม่มีความมั่นใจในการปรับตัว
การแสดงออกทางอารมณ์อาจจะมีอาการซึมเศร้า หงุดหงิด ขี้ระแวง วิตกกังวล โกรธง่าย เอาแต่ใจตนเอง มักจะคิดซ้ำซาก ลังเล หวาดระแวง หมกมุ่นเรื่องของตนเอง ทั้งเรื่องในอดีตและอนาคต
การเปลี่ยนแปลงด้านสังคม
ภาระหน้าที่และบทบาททางสังคมลดน้อยลง ทำให้ผู้สูงอายุห่างจากสังคม
คนส่วนใหญ่มักมองว่าผู้สูงอายุมีสมรรถภาพและความสามารถลดน้อยลง จึงไม่ให้ความสำคัญหรือใส่ใจมากนัก
เปลี่ยนแปลงบทบาทจากการเป็นผู้นำครอบครัว กลายเป็นเพียงผู้อาศัยหรือเป็นสมาชิกของครอบครัวเท่านั้น
เมื่อสมรรถภาพร่างกายลดลง ทำให้ความสามารถในการช่วยเหลือตัวเองหรือกิจวัตรประจำวันเป็นไปได้ยากลำบาก จะส่งผลกระทบต่อจิตใจ เกิดความไม่มั่นใจในตนเอง หดหู่กับสภาพตัวเอง อีกทั้งยังทำให้ผู้สูงอายุไม่กล้ามีสังคมหรือมีกิจกรรมร่วมกับผู้อื่น