Please enable JavaScript.

Coggle requires JavaScript to display documents.

Renal Replacement Therapy in Acute Kidney Injury, อ้างอิง - Coggle Diagram

- - - - อุณหภูมิ 36°C
      - ความดันโลหิต 123/82 มิลลิเมตรปรอท
      - ชีพจร 80 ครั้ง/นาที
      - หายใจ 20 ครั้ง/นาที
    - - พบว่า BUN 121.1 mg/dL
      - Creatinine 5.70 mg/dL
      - eGFR 9 mL/min/1.73^2
- - - - S: ผู้ป่วยบอกว่า อาเจียนเป็นเวลา 4 วัน
      - O: ผู้ป่วยอาเจียน ทุกครึ่งชั่วโมง
      - O: BUN =21.1 mg/dL
      - O: Creatinine = 5.70 mg/dL
    - - เพื่อลดการคั่งของของเสียในร่างกายและไม่เกิดอันตรายจากของเสียคั่ง
      - ไม่มีอาการของของเสียคั่งในร่างกายเช่นปัสสาวะออกน้อย เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียนอ่อนเพลีย บวม คันตามตัว หอบเหนื่อย ความดันโลหิตสูง
      - ค่า BUN อยู่ในช่วง 6-20 mg / dl.
      - ค่า Creatinine อยู่ในช่วง 0.5-1.2 mg / dl
      - ค่า eGFR> 60 mymin / 1.73m
    - - บันทึกจำนวนปัสสาวะที่ออกเป็นซีซีต่อชั่วโมงและรายงานแพทย์เมื่อปัสสาวะออกน้อยกว่า 0.5 m / kg / hr. ติดต่อกัน 2 ชั่วโมง
      - สังเกตอาการของของเสียคั่งในร่างกายเช่นปัสสาวะออกน้อย เบื่ออาหาร คลื่นไส้อาเจียน อ่อนเพลีย บวม คันตามตัว หายใจหอบ ความดันโลหิตสูง เพื่อช่วยในการประเมินความรุนแรงของของเสียคั่งในร่างกายและรายงานแพทย์ให้การรักษาอย่างเหมาะสม
      - ดูแลให้สารน้ำ 0.99% NaCl 1,000 ml V 100 mhr ตามแผนการรักษา
      - บันทึกปริมาณสารน้ำเข้า-ออกทุก 8 ชม. เพื่อเป็นการประเมินความสมดุลของน้ำเข้าและน้ำออก
      - ติดตามผล lab BUN Cr GFR เพื่อประเมินการทำงานของไตในการกรองของเสีย
  - - - S: ผู้ป่วยบอกว่า บริเวณ perineumมีความอับชื้น
      - O: ผู้ป่วยไม่สามารถดูแลความสะอาดบริเวณที่ใส่
      - O: มีท่อเปิดสู่กระเพาะปัสสาวะ ทำให้มีเชื้อโรคเข้าไปในทางเดินปัสสาวะได้ง่าย
      - O: ลักษณะปัสสาวะมีสีเหลืองขุ่น
    - - ป้องกันการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
      - บริเวณ perineum สะอาด และไม่อับชื้น
        -น้ำปัสสาวะใสไม่มีตะกอนขุ่น
        
        อุณหภูมร่างกายอยู่ระหว่าง 36.0 – 37.4 องศาเซลเซียส
    - - ดูแลความสะอาดบริเวณ perinem อยู่เสมอโดยเฉพาะบริเวณรอบรอบสายสวนปัสสาวะ (Foley catheter)
      - สังเกตลักษณะปริมาณและสีของน้ำปัสสาวะ
      - ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
      - บันทึกปริมาณน้ำที่ผู้ป่วยได้รับและปริมาณปัสสาวะที่ออกทุก 8 ชั่วโมง
      - ประเมินอุณหภูมิร่างกายทุก 4 ชั่วโมง
      - ดูแล foley catheter ให้อยู่ในระบบปิด closed system โดยการไม่ปล่อยข้อต่อระหว่างสายสวนปัสสาวะกับถุงรองรับน้ำปัสสาวะ
      - ดูแลถุงรองน้ำปัสสาวะ urine bag ให้อยู่ต่ำกว่ากระเพาะปัสสาวะและจัดให้urine bagอยู่สูงกว่าระดับพื้นห้องเสมอเพื่อป้องกันการติดเชื้อเนื่องจากน้ำปัสสาวะจาก urine bag ไหลย้อนเข้าไปในสายสวนปัสสาวะ
  - - - S: ผู้ป่วยบอกว่า อาเจียนเป็นเวลา 4 วัน
      - S: ผู้ป่วยบอกว่า แพทย์ให้งดน้ำและอาหาร
      - O: ผู้ป่วยอาเจียน ทุกครึ่งชั่วโมง
      - O: ผู้ป่วย อ่อนเพลีย ปากแห้ง
      - O: ปัสสาวะน้อย มีสีเหลืองเข้ม
      - O: Electrolyte Sodium 133 mmol/L
      - O: Chloride 72 mmol/L
    - - ได้รับน้ำและอิเลกโตรไลต์เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
      - ผิวหนังและเยื่อบุชุ่มชื้นความยืดหยุ่นของผิวหนัง( Skin tugor) ปกติ
        
        ไม่มีอาการคลื่นไส้ อาเจียน
        
        ไม่มีอาการของ Na ในเลือดต่ำ คืออ่อนเพลียมาก กระหาย น้ำกล้ามเนื้อแขนขา อ่อนแรง เป็นตะคริวบ่อย กล้ามเนื้อกระตุกชักและหมดสติ
        
        ไม่มีอาการของ K ในเลือดต่ำ คือซึมสับสน กล้ามเนื้อเกร็งหรืออ่อนแรง
        
        Vital signs ปกติ
        
        Serum Na = 135-145 mEq/L
    - - สังเกตอาการและอาการแสดงของภาวะขาดน้ำและอาการที่เกิดจากภาวะโซเดียมในเลือดต่ำ (Hyponatremia)
      - ประเมิน Vital signs ทุก 4 ชั่วโมงหรือตามความจำเป็น
      - ดูแลให้ได้รับสารน้ำและอิเลกโตรลัยต์ทดแทนเช่น 0.9% NaCl ทางหลอดเลือดดำและทางปากตามแผนการรักษา
      - ดูแลให้ได้รับยาแก้คลื่นได้อาเจียนตามแผนการรักษา
      - กระตุ้นให้รับประทานอาหารมีเกลือโซเดียมสูงเช่นไข่เค็มปลาเค็มหมูหยองหรือเติมเกลือในอาหารและเครื่องดื่มโดยให้รับประทานครั้งละน้อย ๆ แต่บ่อยครั้งเพื่อไม่ให้อาเจียน
      - บันทึกสารน้ำเข้าและออกและบันทึกลักษณะและปริมาณของอาเจียนปัสสาวะ
      - ติดตามผลการตรวจ Serum electrolyte อย่างใกล้ชิด
- - - - การฟอกเลือดเครื่องไตเทียมแบบธรรมดา Conventional intermittent hemodialysis) ใช้เป็นวิธีการ มาตรฐานที่ใช้ในผู้ป่วยไตวายทั่วไป ทั้งไตวายเรื้อรังระยะ สุดท้ายและไตวายเฉียบพลันที่มีความเสถียรของระบบ
      - การฟอกเลือดเครื่องไตเทียมแบบประสิทธิภาพสูง (Hemodiafiltration ,HDF) เป็นการฟอกเลือดโดยอาศัยหลักการพา (convection) เป็นหลัก และมีการทดแทนสารน้ำที่มีความบริสุทธิ์สูงเข้าสู่ร่างกายระหว่างฟอกเลือดร่วมด้วย
      - การฟอกเลือดเป็นช่วงแบบยืดระยะเวลา (Sustained low efficiency hemodialysis, SLED) ใช้ในผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตค่อนข้างต่ำ หรือมีแนวโน้มจะเกิดความไม่เสถียรของระบบไหลเวียนโลหิตระหว่างการฟอกเลือด
      - การฟอกเลือดชนิดต่อเนื่อง (Continuous renal replacement therapy, CRRT) เป็นการฟอกเลือดตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะพิจารณาทำในผู้ป่วยที่มีความดันโลหิตต่ำมาก ต้องการยากระตุ้นความดันโลหิตในขนาดสูง หรือผู้ป่วยไตวายที่มีความจำเป็นต้องได้รับสารน้ำส่วนประกอบของเลือดหรืออาหารทางหลอดเลือดดำในปริมาณมากและต่อเนื่องจนไม่สามารถขจัดออกด้วยยา