Please enable JavaScript.
Coggle requires JavaScript to display documents.
สรุปการพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาตา หู คอ และจมูก ทางอายุรกรรมและศัลยกรรมที่ส…
สรุปการพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาตา หู คอ และจมูก ทางอายุรกรรมและศัลยกรรมที่สำคัญ
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาหู ทางอายุรกรรมและศัลยกรรมที่สำคัญ
การพยาบาลผู้ที่สูญเสียการได้ยิน
เรียกผู้ป่วยให้เรียกตรงหน้า พร้อมทั้งพยักหน้าหรือกวักมือเรียก
พูดเสียงปกติหรือดังกว่าปกติเพียงเล็กน้อย อย่าตะโกนหรือพูดเสียงดังมากจนผู้ป่วยเกิดความกังวล
ถ้าผู้ป่วยฟังไม่ชัดให้เข้าไปใกล้ผู้ป่วยและพูดใกล้หูข้างที่ดีกว่า
ใช้คำที่มีหลายพยางค์ เช่น ควรพูดว่า “กินข้าวไหม” แทน “กินไหม”
ผู้ป่วยที่ใช้เครื่องช่วยฟัง กระตุ้นให้ใช้เครื่องช่วยฟังเป็นประจำ ขณะสนทนาต้องรอให้ผู้ป่วยปรับเครื่องช่วยฟังให้ได้ยินชัดเจนเสียก่อน และพูดอยู่ใกล้ๆ ผู้ป่วยเพื่อให้เสียงผ่านเข้าเครื่องฟังได้ดี
ผู้ป่วยที่หูไม่ได้ยินเลย อาจต้องส่งต่อไปให้นักแก้ไขการพูด (speech therapist)
การพยาบาลผู้ป่วยที่หูน้ำหนวกอักเสบเรื้อรัง Mastoiditis
รับประทานยา หรือหยอดยาตามแผนการรักษา เช่น ยาแก้ปวด ลดไข้
ให้ผู้ป่วยนอนหงายหรือนอนตะแคงด้านตรงข้ามกับหูที่ผ่าตัด
ไม่ให้น้ำเข้าหูหรือแผลเปียก ไม่แคะหูหรือปั่นหู
ก่อนผ่าตัด ประเมินการอักเสบต่าง ๆ ของร่างกาย โกนผมทำความสะอาดรอบใบหูกว้าง 1 นิ้ว ให้ผู้ป่วยสระผมและทำความสะอาดใบหู
หลังผ่าตัดดูแลให้ได้รับยาปฏิชีวนะตามแผนการรักษา
ขณะอาบน้ำต้องใช้สำลีแห้งใส่ไว้ในช่องหูและใช้หมวกคลุมผมคลุมใบหูด้วย
ไม่เปิดผ้าพันแผลออกจนครบ 7 วัน หากมีเลือดออกจะต้องเปิดผ้าปิดแผลออกเพื่อประเมินและให้การดูแล หากเลือดออกไม่หยุดต้องรายงานแพทย์
แนะนำให้ผู้ป่วยประเมินอาการเวียนศีรษะ โดยเฉพาะขณะลุกขึ้นหรือเปลี่ยนท่า และบอกให้ผู้ป่วยทราบว่าหลังผ่าตัดอาจมีอาการเวียนศีรษะ หากมีอาการต้องแจ้งให้พยาบาลทราบ
หากมีไข้ เป็นหวัด ปวดศีรษะ เวียนศีรษะมากให้กลับไปรับการตรวจรักษาทันทีเพราะอาจเกิดการติดเชื้อ
การพยาบาลผู้ป่วย Meniere's disease (vertigo)
พักผ่อนให้เพียงพอ อาจต้องให้ยาระงับประสาท เช่น Valium เพื่อให้ผู้ป่วยนอนหลับได้
ทานอาหารที่มีโปรตีนสูง ควบคุมสารน้ำและอิเล็กโทรไลท์ Na < 2,000 mg/day
งดการดื่มแอลกอฮอล์ และลดอาหารที่มีคาเฟอีน นิโคติน
รับประทานผลไม้ที่มีโปแตสเซี่ยมสูง เช่น ส้ม กล้วย มะเขือเทศ เพื่อชดเชยโปแตสเซียมจากยาขับปัสสาวะ
ถ้าใช้ยาไม่ได้ผล และผู้ป่วยมีอาการทรมานมาก อาจต้องทำการผ่าตัด Labyrinthectomy ซึ่งจะทำให้หูหนวกถาวร
บางรายจึงพิจารณาทำ Shunt คือ การทำทางเชื่อมต่อระหว่าง Endolymphatic sac กับ Subarachnoid space เพื่อระบายน้ำออก เรียกว่า Endolymphatic Subarachnoid Shunt ลดอาการเวียนศีรษะได้ถึง 75 เปอร์เซ็นต์ และสามารถรักษาการได้ยินที่ยังเหลืออยู่ได้
การพยาบาล Benign Paroxysmal Positional Vertigo
ให้นอนพักศีรษะสูง ห้ามเคลื่อนไหว
ขณะมีอาการไม่ควรปีนที่สูง ไม่ควรดำน้ำหรือเนบนไม้กระดานแผ่นเดียว เพราะอาจเกิดอันตราย
สอนให้ทำการบริหารศีรษะ (Head Balance Exercise) เพื่อเป็นการบริหารระบบการทรงตัว
ถ้ารักษาทางยาไม่ได้ผลอาจต้องทำการผ่าตัด Brandt-Daroff Exercises
การพยาบาลผู้ที่มีอาการเวียนศีรษะ
ขณะมีอาการเวียนศีรษะควรนอนพักนิ่ง ๆ บนเตียง (Absolute bed rest)
ประเมินความต้องการในเรื่องของสารน้ำและอาหาร เพื่อป้องกันภาวะขาดสารอาหาร สารน้ำและอิเล็กโทรไลต์
เน้นโปรตีนสูง เค็มน้อย ผักผลไม้ที่มีแร่ธาตุโปแตสเซียมสูง
จัดสิ่งแวดล้อมเพื่อช่วยในการพักผ่อน หรืออาจต้องให้ยานอนหลับ
แนะนำการออกกำลังกาย ไม่ทำงานหักโหม ไม่เดินทางไปในที่ที่อาจเกิดอันตราย เช่น การขึ้นที่สูง การดำน้ำ เป็นต้น
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาจมูก ทางอายุรกรรมและศัลยกรรมที่สำคัญ
การพยาบาลผู้ที่มีปัญหาเลือดกำเดาออก
จัดท่าให้นั่งศีรษะสูงก้มหน้าเล็กน้อย เพื่อกันเลือดไหลลงคอ
ประเมินจำนวน สี ลักษณะของเลือดที่ออก ซักถามตำแหน่งที่ออก
ตรวจวัดสัญญาณชีพ เพื่อประเมินภาวะช็อก
ถ้าเสียเลือดไม่มาก สอนผู้ป่วยใช้นิ้วชี้และหัวแม่มือบีบปีกจมูกทั้งสองข้างให้แน่นเป็นเวลา 5–10 นาทีหายใจทางปากแทน
อ้าปากเวลาไอจาม ห้ามสั่งน้ำมูกแรง ๆ
ตรวจดูค่าฮีโมโกลบินและฮีมาโตคริท
ภายใน 1 สัปดาห์ หลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือนบริเวณจมูก
นอนพักนิ่ง ๆ 2-3 ชั่วโมง หลังเอาตัวกดห้ามเลือดออก แต่ห้ามออกแรงมาก การเล่นกีฬาที่หักโหมหรือยกของหนัก อย่างน้อย 4-6 สัปดาห์
ถ้าพบมีเลือดออกอีก ให้บีบจมูกแน่น วางประคบจมูกด้วยความเย็น ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อปรึกษาแพทย์ทันที
การพยาบาลผู้ที่มีปัญหาริดสีดวงจมูก (Nasal Polyps)
ดูแลให้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ตามแผนการรักษาเพื่อลดขนาดของริดสีดวงจมูก
ในกรณีที่มีการผ่าตัดริดสีดวงจมูก การพยาบาลจะคล้ายคลึงกับผู้ป่วยที่ได้รับการผ่าตัดบริเวณจมูก
การพยาบาลผู้ที่มีปัญหาโพรงอากาศข้างจมูกอักเสบ (Sinusitis)
ตรวจสอบดูภาวการณ์มีเลือดออกจากช่องจมูก
ประเมินภาวะขาดออกซิเจน จัดท่านอนศีรษะสูง 40-45 องศาเพื่อลดอาการบวมบริเวณจมูกและแก้ม ช่วยให้หายใจสะดวกขึ้น
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับสารน้ำและสารอาหารอย่างเพียงพอ เนื่องจากต้องงดน้ำและอาหารทางปาก (NPO) จนกระทั่งหลังผ่าตัดรู้สึกตัวดี
ถ้ามีอาเจียน จัดให้นอนราบตะแคงหน้าเพื่อป้องกันการสำลักเลือดลงในหลอดลม
ประเมินอาการปวด อาจใช้การประคบเย็นใน 24 ชม.แรก และประคบร้อนหลังผ่าตัด 48 ชม. เพื่อลดอาการบวมและอาการปวดจมูก
ประเมินอากรแสดงของการติดเชื้อ อาการไข้ ปวดหัว การระบายหนอง สิ่งคัดหลั่ง ประเมินสัญญาณชีพ ติดตาม lab
อธิบายถึงอาการที่จะยังคงอยู่ ได้แก่ ช่องจมูกบวม อาจมีเลือดซึมเล็กน้อย ยังคงปวด แนะนำให้ดื่มน้ำมาก ๆ ใช้ควันของไอน้ำร้อน ประคบร้อนลดอาการบวม และให้งดว่ายน้ำ ดำน้ำ การสั่งน้ำมูก เปิดปากเวลาไอจาม ลดการสูดกลิ่น ควัน การยกของหนักๆ
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาคอ ทางอายุรกรรมและศัลยกรรมที่สำคัญ
การพยาบาลผู้ที่มีปัญหาทอนซิลอักเสบ (tonsillitis)
ประเมินความปวดหลังให้ยา 30 นาที
ประคบบริเวณคอด้วยความเย็น ice collar ที่คอ เพื่อลดอาการบวมและปวด
ป้องกันอาการสำลักและทางเดินหายใจโล่ง lateral position หรือ Sim’s Position
ขจัดเสมหะและหนองในคอ โดยกลั้วคอด้วยน้ำเกลืออุ่น ๆ บ่อย ๆ และแปรงฟันหลังอาหารทุกมื้อ
แนะนำให้ใช้ยาปฏิชีวนะติดต่อกัน 7-10 วัน ตามแผนการรักษา
การพยาบาลผู้ที่มีปัญหามะเร็งกล่องเสียง (Cancer of the larynx)
ให้การพยาบาลเพื่อลดความวิตกกังวล
ให้การพยาบาลเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับสารอาหารเพียงพอโดยแนะนำให้รับประทานอาหารอ่อน อาหารเหลว เคี้ยวให้ละเอียดก่อนกลืน
สังเกตอาการแสดงของการติดเชื้อ ดูแลความสะอาดช่องปากและฟัน โดยกลั้วคอด้วยน้ำยาล้างปากหรือแปรงฟัน
กระตุ้นให้รับอาการที่มีโปรตีนและแคลอรี่สูง
พยาบาลไม่ควรใส่สาย NG-Tube เองถ้ามีการเลื่อนหรือดึงรั้งเพราะอาจเกิดการแทงทะลุแผลเย็บหลอดอาหาร
การพยาบาลผู้ที่มีปัญหามะเร็งของช่องคอหลังโพรงจมูก (Carcinoma of Nasophalynx or NPC)
ดูแลบรรเทาอาการเจ็บปาก เช่น ให้ยาตามแผนการรักษา ให้อมน้ำยาที่มียาชาผสม ติดตามประเมินความปวดเป็นระยะ
รักษาความสะอาดในช่องปากโดยกลั้วปากและคอด้วยน้ำเกลือ และหลังรับประทานอาหารทุกมื้อ
ดูแลให้ได้รับน้ำและสารอาหารอย่างเพียงพอ ถ้ารับประทานไม่ได้อาจอาจให้อาหารทางสายให้อาหารหน้าทอง หรือทางหลอดเลือดดำ
ชั่งน้ำหนักสัปดาห์ละ 2 ครั้ง
พูดคุยให้กำลังใจผู้ป่วย
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาตา ทางอายุรกรรมและศัลยกรรมที่สำคัญ
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคต้อกระจก (Cataract)
วิธีการเช็ดตา การใช้ยาหยอดตา ยาป้ายตาตามแผนการรักษา อย่างถูกวิธีตามเทคนิคปลอดเชื้อ
แปรงฟันอย่าส่ายหน้าไปมา ไม่รับประทานของแข็งเหนียว งดขับรถ ประมาณ 2 เดือน
การไอ การจาม การอาเจียน การก้มหน้าต่ำกว่าระดับเอว การยกของหนัก การบีบตา การเบ่งถ่ายและการนอนตะแคงข้างที่ผ่าตัด
การพยาบาลผู้ป่วยที่มีปัญหาโรคต้อหิน (Glaucoma)
ก่อนผ่าตัดให้ยาขยายม่านตา และสังเกตการขยายตัวของรูม่านตาถ้าไม่ขยายหรือขยายตัวน้อยให้แจ้งแพทย์ก่อนส่งเข้ารับการผ่าตัด
ดูแลให้ผู้ป่วยได้รับยาลดความดันลูกตาเพื่อป้องกันการเลื่อนไหลของวุ้นตาออกมา
หลังผ่าตัดแนะนำผู้ป่วยไม่ควรตะแคงข้างที่ผ่าตัด เพื่อป้องกันไม่ให้ความดันลูกตาข้างนั้นสูงขึ้น
การพยาบาลผู้ป่วยเลือดออกภายในช่องลูกตาด้านหน้า (Hyphema)
หยอดยาและป้ายตาตามแผนการรักษา ห้ามใช้ยาพวก Steroid จะทำให้แผลลุกลามมากขึ้น
ครอบ Eye shield ไม่ต้องปิด Eye pad เพราะจะทำให้ Discharge สะสมอยู่ในตาทำให้เชื้อโรคเพิ่มมากขึ้น
ให้ความรู้และกำลังใจเพื่อลดความวิตกกังวล
การพยาบาลผู้ป่วยเลือดออกใต้เยื่อบุตา(subconjunctival hemorrhage)
อธิบายให้ผู้ป่วยเข้าใจว่าภาวะนี้ไม่มีอันตรายรุนแรงถึงขั้นตาบอด
ถ้ามีอาการระคายเคืองอาจให้ยาสมาน (Astringent)
ให้ยาหยอดตาที่ทำให้เส้นเลือดบิดตัวลดการคั่งของเลือด
ประคบตาด้วยความร้อนหลัง 24 ชั่วโมงแรก